Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 212

Yi Jian Du Zun
BC

บทที่ 212 ข้าคือยอดยุทธ์ไร้เทียมทาน แล้วแต่พวกเจ้าก็แล้วกัน! (ปลาย)

C

ทันทีที่สายตามองไปเห็นเงื้อมเงาที่ปรากฏออก ชายชราสวมชุดดำมีสีหน้าตื่นเต้นแฝงความยินดีไม่ปกปิด ขณะที่สีหน้าของจ้าวหอชั้นเก้าและเจียงเยว่เทียนกลับเคร่งขรึมลงอย่างใช้ความคิด ท่าทางเอาจริงเอาจัง!

เพราะเหตุที่ว่าคนซึ่งเพิ่งมาถึงนั้น ต้องเป็นยอดยุทธ์ขั้นพลังเหนือกว่าสุดยอดผนึกยุทธ์แน่! เสียงสะท้านดังขึ้นจากที่เงาทะมึน ณ เส้นขอบฟ้า “เจ้าเป็นใคร?”

สตรีลึกลับหันไปจ้องเขม็งที่เงาดำ พูดเสียงแผ่วเบา “แน่ใจหรือว่าเจ้าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในฉางมู่ ว่าไง?”

เงาดำพูดตอบเสียงเอื่อยอย่างไม่ค่อยเต็มใจ “แม่นาง เจ้าต่างหากที่ต้องอธิบายกับข้าว่าเหตุใดจึงสังหารคนของฉางมู่เป็นผักเป็นปลาเช่นนี้”

เพียงเท่านั้น กระบี่สีเขียวสะบัดออกจากเบื้องหน้าเยี่ยฉวน และทะยานวาบขึ้นสู่ท้องฟ้า!

เงาดำทะมึนที่อยู่ในระยะห่างเมื่อสังเกตเห็นกระบี่กำลังพุ่งตรง พลันยกมือขึ้นและผลักออกไปเบื้องหน้าอย่างแรง พลังผลักออกปะทะอากาศธาตุที่อยู่ระหว่างเงาดำและกระบี่ จนพื้นที่ว่างในอากาศแปรเปลี่ยนบิดเบือน ถึงกระนั้นยังมิอาจยับยั้งพลังแห่งกระบี่สีเขียวซึ่งพุ่งวาบฝ่าอากาศซึ่งบิดเบี้ยว กลับพุ่งตรงเข้าหาร่างเงาดำทะมึนอย่างรวดเร็ว

ครานี้ความหวาดกลัวเข้าครอบงำฝ่ายเงาดำ มันยกมือข้างขวาผลักออกไปเบื้องหน้าอีกครั้ง ครั้งนี้แรงกดทั้งรุนแรงและหนักหน่วงยิ่งปานภูเขาทั้งลูกถล่มทับ ทั้งพลังยังทรงอานุภาพทำลายล้างรุนแรงจนสามารถพัดกวาดบ้านเรือนในเมืองหลวงให้พังเสียหายลงไปกว่าครึ่งในคราวเดียว

อย่างไรก็ตาม กระบี่สีเขียวกลับสามารถทะลุทะลวงผ่าน ซ้ำยังตวัดตัดพลังจนแยกขาดและทะลวงเข้าหาใจกลางฝ่ามือของเงาทะมึน สุดท้ายกระบี่เขียวไปสะดุดหยุดลงตรงกึ่งกลางหว่างคิ้วของเงาดำทะมึน

ตู้ม!

ภาพร่างเงาทะมึนสั่นสะท้านอย่างรุนแรง จนในที่สุดต้องเปิดเผยร่างจริงออกมา!

เป็นชายชราร่างผอมเเกร็น!

คนชราร่างผอมจ้องมองสตรีลึกลับที่ลอยตัวในระยะไกลจนลูกตาแทบถลนด้วยไม่เชื่อสายตา เป็นในท่วงท่าที่ปากอ้าค้าง สีหน้าตื่นตะลึงด้วยความประหลาดใจสุดขีด!

พลังปะทะแห่งกระบี่……นี่มันไกลกว่าที่คิดไว้มาก!

เสียงของสตรีที่อยู่เบื้องหน้าดังแว่วมา “อธิบาย? อยากให้ข้าอธิบายอย่างนั้นหรือ? ข้าจะอธิบายก็ได้ว่าข้ายังสังหารคนไม่หนำใจ จึงอยากจะสังหารต่อไปเรื่อยๆ ไงล่ะ!” สิ้นเสียงของนาง ฝ่ามือเรียวบางข้างซ้ายสะบัดวูบ

ฉึก! กระบี่แทงออกไปตรงหน้าครั้งหนึ่ง พุ่งทะลุเข้ากึ่งกลางระหว่างหัวคิ้วของชายชราสวมชุดดำเบื้องล่าง! ร่างนั้นทรุดฮวบลงกับพื้นทันที

ชายชราร่างผอมเกร็งหรี่ตามองภาพเหตุการณ์ต่อหน้าต่อตา จากนั้นจึงเบนสายตามาทางคนสตรีพลางพูดว่า “แม่นาง……เจ้ามาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใจกลางแผ่นดินใหญ่ใช่หรือไม่? ขะ……” ฉับพลันนั้น แสงกระบี่แล่บแปลบ

ฉับ!

พลันแขนข้างขวาของคนพูดถูกกระบี่สะบั้นขาดกระเด็นไป ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนของคน ภายใต้แสงเดือนส่องสว่างกระจ่างเวหา สตรีสวมชุดขวาตวัดแขนซ้ายไพล่ไว้ข้างหลัง ขณะที่มือข้างขวายกขึ้นลูบเส้นผมยาวสีดำขลับก่อนรวบขึ้นทัดหลังใบหู “อย่ามัวพูดไร้สาระ จัดการเรียกคนของเจ้ามาและปล่อยให้ข้าสังหารพวกมันอย่างเงียบๆ ก็พอ!”

คนที่อยู่ด้านล่าง จ้าวหอชั้นเก้าเหยียดยิ้มมุมปาก ครั้งหนึ่งเขาเคยได้ยินว่ามีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเยี่ยฉวนและสำนักอัปสรเมรัยบนเรือเหาะ จึงพอจะนึกออกถึงความรู้สึกสิ้นหวังและหมดอาลัยตายอยากของจ้าวหอชั้นสามในเวลานั้น

……ยามที่ต้องเผชิญหน้ากับสตรีลึกลับผู้นี้ ถือเป็นวิธีข่มขวัญสั่นประสาทของผู้ที่มีพลังกล้าแกร่งเหนือมนุษย์โดยแท้!

ชายชราสวมผ้าคลุมสีดำที่ลอยตัวอยู่ในอากาศสีหน้าบูดบึ้งน่าเกลียดยิ่ง ด้วยจะเรียกคนมาช่วยงั้นหรือ? เรียกพวกเขามาตายที่นี่อย่างนั้นหรือ?!

เคราะห์กรรม! เคราะห์กรรมแท้จริง! มิใช่เพียงเคราะห์กรรม หากต้องเรียกว่าสูญเสียอย่างมหาศาล!

ขณะเดียวกันเสียงของสตรีถามขึ้นมาว่า “สถานศึกษาฉางมู่ของเจ้าอยู่ที่ไหน?”

“สถานศึกษาอยู่ที่ไหน อย่างนั้นหรือ?” เพียงได้ยิน ชายชราร่างผอมพลันหน้าเผือดซีดทันที!

คนที่กำลังลอยตัวอยู่เบื้องหน้าแสงจันทร์ ออกคำสั่งเสียงกังวาน “บอกข้ามาว่าอยู่ที่ไหน!”

ทันใดนั้นจ้าวหอชั้นเก้ารีบชี้มือไปทางด้านขวา ขณะร้องบอกว่า “ผู้อาวุโส อยู่ทางด้านโน้นขอรับ!”

สตรีลึกลับหันมาพยักหน้าน้อยๆ ในตอนนั้นชายชราร่างผอมทำท่าอ้าปาก ฉับพลันกระบี่สีเขียวพุ่งเข้าแทงกึ่งกลางแสกหน้าของคนทันที

ฉับ!

โลหิตกระเซ็นเป็นสายออกมาทันที!

ทันใดนั้น สตรีสวมชุดขาวหลับตาลงช้าๆ และยกมือเรียวบางชี้ไปในทิศทางขวามือพลางส่งเสียงตวาดเฉียบขาด “ไป!”

หึ่มมมม! ขณะนั้นบังเกิดเสียงแห่งกระบี่ครางหึ่มสะเทือนไปทั่วท้องฟ้ายามราตรี

ในสายตาของคนในลานโล่ง มีเพียงกระบี่สีเขียวพุ่งทะยานพร้อมด้วยศีรษะของชายชราร่างผอมเกี่ยวติดไปกับปลายกระบี่ ก่อนจะหายวับไปอย่างรวดเร็ว ณ สุดขอบฟ้า กระบี่ทะยานไปพร้อมศีรษะของคนผู้นั้น……

ที่แสนไกล ณ อาณาจักรต้าอวิ๋น อันนับเป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดบนแผ่นดินชิง ด้วยอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาลนั้นกินเนื้อที่เกือบหนึ่งในสามของแผ่นดินชิง จึงได้ชื่อว่าเขตแดนต้าอวิ๋น

ในเขตแดนต้าอวิ๋น ประกอบด้วยกองกำลังและตระกูลที่ทรงอำนาจอยู่มากมาย ซึ่งทั้งหมดต่างก็ได้รับการยอมรับให้เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิ และสถานศึกษาฉางมู่เองก็ถือเป็นหนึ่งในกองกำลังทรงอำนาจนั่น!

ด้วยเพราะสถานศึกษาฉางมู่ต้าอวิ๋น จัดว่าเป็นสถานศึกษาฉางมู่ที่แข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดินชิง!

คืนนี้ เขตแดนต้าอวิ๋นอันสงบนิ่งได้ถูกปลุกให้ตื่นตัวด้วยแสงแห่งกระบี่……

ลำแสงแห่งกระบี่ที่เคลื่อนที่ไปในอากาศ ราวกับดาวหางทะยานผ่านเข้าสู่น่านฟ้าแห่งเขตแดนต้าอวิ๋น ในที่สุดกระบี่ก็เดินทางมาถึงเมืองหลวงแห่งอาณาจักรต้าอวิ๋น

ขณะนั้นชาวเมืองในจักรวรรดิต่างพากันมองดูด้วยความตื่นตะลึง!

ในเวลานั้นมียอดยุทธ์อยู่มากมายในจักรวรรดิ ทุกคนต่างจ้องมองกระบี่ที่ออกมาปรากฏเบื้องหน้า แววตาเต็มไปด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง

เซียนกระบี่! การปรากฏของเซียนกระบี่!

ขณะนั้นเหล่ายอดยุทธ์ในอาณาจักรต้าอวิ๋น พวกเขาต่างก็ตกอยู่ในอาการตื่นกลัวและประหม่ายิ่ง!

เซียนกระบี่แท้จริง!

ท่ามกลางการจับตามองของชาวเมืองทั้งหลาย กระบี่มุ่งตรงไปยังเขาสูงแห่งหนึ่ง ซึ่ง ณ ยอดเขาแห่งนั้นเป็นที่ตั้งของสถานศึกษาฉางมู่

เมื่อกระบี่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า บรรดาคนของสถานศึกษาฉางมู่ล้วนตกอยู่ในอาการแตกตื่นขณะสายตาจ้องจับไปที่กระบี่สีเขียว ในตอนนั้นพวกยอดยุทธ์ผู้รักษาความปลอดภัยของสถานศึกษาออกมาออกันที่ด้านหน้า ทว่าไม่มีใครกล้าขัดขวาง

ในที่สุด กระบี่ได้ทะยานพร้อมเกี่ยวเอาศีรษะขึ้นไปบนจุดที่สูงที่สุดของยอดเขาแห่งนั้น และเข้าไปที่หอโถงฉางมู่

หึ่มมมม!

แสงสว่างแปลบปลาบ ขณะเดียวกันภูเขาทั้งลูกบังเกิดการสั่นสะเทือน แผ่นดินเลื่อนลั่นราวกับเกิดแผ่นดินไหว!

ชั่วครู่ต่อมา เสียงดังกังวานสะท้านทั่วหอโถงแห่งฉางมู่ “ถ้าสถานศึกษาฉางมู่รับไม่ได้จงมาแก้แค้น ทว่าต้องบอกเสียก่อนว่าข้าคือยอดยุทธ์ไร้เทียมทาน ดังนั้นมันจึงแล้วแต่พวกเจ้าก็แล้วกันว่ากล้ามาหรือไม่!”

ทุกคน “……”

— จบตอน —

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!