Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 222

Yi Jian Du Zun
BC

บทที่ 222 เจ้าอยากมีชีวิตอยู่ไหม? (ปลาย)

C

เยี่ยฉวนเงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้า “ผู้อาวุโสทั้งสองขอรับ ขอบคุณที่พวกท่านให้ความช่วยเหลือในการปราบฉางมู่ครั้งนี้ ตอนนี้พวกมันไม่มีเหลือแล้ว ถ้าเราทั้งสามฝ่ายมาช่วยกันจัดการของล้ำค่าทั้งหมดนี่ ท่านเห็นว่าอย่างไรขอรับ?”

ตอนนั้นเอง จ้าวหอชั้นเก้าและเจียงเยว่เทียน ได้ปรากฏออกเบื้องหน้าเยี่ยฉวน จ้าวหอกล่าวยิ้มๆ ว่า “เอาอย่างนี้เป็นไง พี่เจียงและข้าขอรับส่วนแบ่ง 6 ในสิบส่วน และเจ้าเอาไป 4 ในสิบส่วน อย่าปฏิเสธเลยหากมิใช่เพราะอาจารย์ของเจ้าช่วยปราบหลี่เสวียนชางแล้วล่ะก็ ไม่มีทางที่พวกเราจะล้มล้างสถานศึกษาฉางมู่ลงได้ พวกเราได้สิ่งนี้มาก็เพราะเจ้านั่นล่ะ!”

ชายหนุ่มนิ่งไปอึดใจหนึ่ง ก่อนที่จะพยักหน้า “ถ้าเช่นนั้นข้าจำต้องน้อมรับข้อเสนอขอรับ!”

พลันจ้าวหอชั้นเก้าเปล่งเสียงหัวเราะร่า “พวกเราเป็นสหายที่ดีต่อกัน นับว่าดียิ่งแล้ว”

ถึงเวลาปันส่วนของล้ำค่า!

ฉางมู่เป็นสถานศึกษาที่มีประวัติยาวนาน ดังนั้นย่อมจะมีสมบัติล้ำค่าอยู่มากมาย เมื่อถึงเวลาเปิดกรุสมบัติสิ่งที่ปรากฏแก่สายตาทำเอาโม่อวิ๋นฉีและคนอื่นๆ ประหลาดใจ……ด้วยมีถึง 49 ยอดแห่งศาสตราวุธจิตวิญญาณ และศาสตราวุธจิตวิญญาณขั้นประกายแสง 6 ชิ้น หนึ่งในนั้นคือศาสตราวุธจิตวิญญาณระดับกลางแท้จริง และยังมีศิลาจิตวิญญาณอีกนับสิบสิบล้านชิ้น นอกจากนั้นก็มีคัมภีร์ฝึกยุทธ์หลายเล่มและทักษะยุทธอีกมากมาย กับของล้ำค่าจิปาถะเยอะแยะไปหมด

นี่ไม่ใช่กรุสมบัติเล็กๆ ทว่าเป็นทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาล! ทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาลเหล่านี้ เป็นกรรมสิทธิ์ของคนทั้งสาม!

เจียงเยว่เทียนยังอดที่จะปล่อยเสียงหัวเราะอย่างพึงพอใจมิได้ ด้วยเวลานี้สิ่งล้ำค่าเหล่านี้มีความจำเป็นแคว้นเจียงที่สุด ทั้งยังมีมากพอที่จะทำให้ผู้คนมีกินมีใช้ไปอีกนับสิบปีทีเดียว!

ส่วนจ้าวหอชั้นเก้าก็ดีใจจนเนื้อเต้น สำหรับเขาของล้ำค่าพวกนี้จะนำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้าของตนในสำนักอัปสรเมรัย! ด้วยความปรารถนาอย่างยิ่งยวดมิใช่ในแคว้นเจียงหรือแผ่นดินชิง แต่เขาต้องการไปให้ถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใจกลางแผ่นดินใหญ่!

เมื่อก่อนความปรารถนานี้เป็นแค่เพียงความหวังลมๆ แล้งๆ ทว่าบัดนี้เริ่มมีเค้าลางความเป็นไปได้!

ไม่เว้นแม้แต่เยี่ยฉวนและพวกก็ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เห็นด้วยเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนี้การบูรณะสถานศึกษาฉางหลานก็ง่ายขึ้น ด้วยสิ่งที่เป็นยอดปรารถนาของพวกเขาอยู่ตรงหน้านี่เอง!

พวกเขามีเงินทองพอที่จะใช้จ่ายในการฝึกฝนศิษย์ใหม่! ด้วยทรัพย์สินพวกนี้ จะสามารถจัดหาข้าวของที่จะเป็นใช้ในการอบรมสั่งสอนศิษย์ที่จะทำการคัดเลือกใหม่ และพวกเขาจะได้ช่วยเหลือพวกตนเมื่อถึงช่วงเวลาที่ยากลำบาก เวลานี้พวกเยี่ยฉวนต่างคร่ำเคร่งกับการฟื้นฟูสถานศึกษาฉางหลาน!

พักใหญ่ต่อมา คนทั้งสามกลุ่มได้ทำการจัดสรรปันส่วนทรัพย์สินล้ำค่าเป็นที่เรียบร้อย ของล้ำค่าที่เยี่ยฉวนได้ไปมี ศาสตราวุธจิตวิญญาณขั้นประกายแสงสองชิ้น สุดยอดศาสตราวุธจิตวิญญาณ 16 ชิ้น กับสามทักษะยุทธ์ขั้นปฐพี และสามคัมภีร์ฝึกยุทธ์

……นอกจากนั้นพวกเขายังได้ศิลาจิตวิญญาณอีกมากกว่าสามล้านชิ้น หยกศิลาจิตวิญญาณกว่าสามสิบชิ้น และสิ่งของอื่นๆ อีกหลายอย่าง!

โม่อวิ๋นฉีและไป๋เจ๋อต่างตื่นตะลึงจนอ้าปากค้าง! ทรัพย์สินล้ำค่ามากมาย

……มากพอที่จะทำให้พวกเขากลายเป็นเศรษฐีชั่วพริบตา!

ถึงกระนั้นเยี่ยฉวนจำต้องเก็บสิ่งล้ำค่าเหล่านี้ไว้ในชั้นที่หนึ่งของหอคอยแห่งเรือนจำ ด้วยมีพื้นที่กว้างขวางเพียงพอ!

หลังจากเก็บงำของล้ำค่าเรียบร้อยแล้ว เยี่ยฉวนหันไปทางจ้าวหอชั้นเก้าและเจียงเยว่เทียน “ผู้อาวุโสทั้งสอง ข้าขอลาก่อน!”

จ้าวหอชั้นเก้าพยักหน้าพลางยิ้มน้อยๆ “สหาย เวลานี้สำนักอับปสรเมรัยประเมินราคาสิ่งของเดิมที่เจ้าเคยมอบไว้ที่ข้าแล้ว อีกไม่นานข้าจะส่งเงินตามไปให้ และจะถือโอกาสแวะไปที่สถานศึกษาฉางหลานด้วยเสียเลย”

ชายหนุ่มผู้อ่อนอาวุโสห่อกำปั้นคารวะ “ถ้าอย่างนั้นขอบคุณขอรับ!” จากนั้นเยี่ยฉวนหักหลังและเดินออกไป พวกโม่อวิ๋นฉีเห็นเช่นนั้น รีบรุดตามออกไปทันที

จ้าวหอยืนมองคนทั้งสี่คล้อยหลังไป จึงหันมาพูดยิ้มๆ “แต้มต่อมหาศาล!” เจียงเยว่เทียนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ราชสำนักเจียงได้รับทรัพย์สินสิ่งล้ำค่าจำนวนมหาศาล ซึ่งสมบัติเหล่านี้จะช่วยเสริมปรีชาญาณอันกล้าแกร่งให้แก่แคว้นได้อย่างดี!

ผลประโยชน์ต่างตอบแทนของคนสามฝ่าย! เจียงเยว่เทียนและจ้าวหอชั้นเก้าหันมาสบตากัน ก่อนเปล่งเสียงหัวเราะดังสนั่น

เมื่อเยี่ยฉวนและคนอื่นกลับมาที่ภูเขาจี้อวิ๋น จึงพบว่าศิษย์ฉางมู่นำพาร่างของศิษย์ฉางหลานมารวมไว้ที่ยอดเขาจี้อวิ๋นแล้ว

เบื้องหน้าเยี่ยฉวนและพวกอีกสามคน ร่างของศิษย์ฉางหลานทั้ง 36 ร่าง แต่ละร่างล้วนแสดงให้เห็นถึงความระทมทุกข์อย่างยิ่ง จนพวกเขานึกภาพออกทันทีว่าคนเหล่านี้ถูกสถานศึกษาฉางมู่กระทำอย่างโหดเหี้ยมเช่นไรบ้าง!

อีกฟากหนึ่ง ศิษย์ฉางมู่ยืนออจับกลุ่มไม่ไกลออกไปนัก! เมื่อเยี่ยฉวนไม่เอ่ยปาก พวกนั้นไม่มีใครกล้าแม้ขยับแม้แต่ก้าวเดียว ทันใดนั้นเสียงของเยี่ยฉวนดังขึ้น “พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว!”

พวกศิษย์ฉางมู่รีบวิ่งลงเขาหัวซุกหัวซุน ขณะเดียวกันรู้สึกโล่งใจอย่างที่สุด

เวลานั้นเยี่ยฉวนกับพวกเดินมาหยุดที่เบื้องหน้าร่างทั้ง 36 พวกเขาจับตามองนิ่งนาน มีเพียงจี้อันซื่อที่เริ่มร้องไห้อีกครั้ง สำหรับนาง วันนี้เป็นวันที่น้ำตาหลั่งรินไม่ขาดสายมากที่สุดในชีวิต

จากนั้นคนทั้งหมดค้อมตัวต่ำ แสดงคารวะต่อร่างทั้งหมด เสียงของเยี่ยฉวนพูดพึมพำแผ่วเบา “พวกท่านจงไปสู่สุขคติเถิด”

เขาเบนหน้าไปทางไป๋เจ๋อกล่าวว่า “เจ้าช่วยฝังร่างไว้ในสุสานที่ก่อสร้างเสร็จแล้วของเรา และสลักป้ายชื่อให้ครบถ้วน เพื่อต่อไปภายหน้าศิษย์ของเราจะได้ระลึกถึงพวกท่านเหล่านี้ว่าได้ทำคุณประโยชน์ต่อฉางหลาน อีกอย่าง พยายามติดต่อครอบครัวของพวกเขา และจ่ายค่าชดเชยให้มากเท่าที่จะทำได้ด้วย”

โม่อวิ๋นฉีพยักหน้า “ข้ารับหน้าที่แจ้งครอบครัวของพวกเขาเอง”

เยี่ยฉวนพูดต่อไปว่า “อีกอย่างหนึ่ง แม้ว่าวันนี้ฉางมู่จะพ่ายแพ้แต่นี่เป็นเพียงสาขาหนึ่งเท่านั้น เพราะฉะนั้นวิกฤตของเรายังไม่จบเพียงเท่านี้ ข้าและเจ้าจะต้องหมั่นฝึกปรือพลังให้ยิ่งกล้าแกร่ง ข้าจะไม่บังคับหรอก หากเจ้าจะขี้เกียจบ้าง อะไรบ้าง ถ้าวันหนึ่งเจ้าตายขึ้นมา ข้ารับปากว่าจะจัดการฝังและจัดงานศพให้อย่างสมเกียรติทีเดียว!”

พูดจบคนหันหลังเดินออกไปทันที โม่อวิ๋นฉีและคนอื่นได้แต่ยืนอ้าปากค้าง “……”

ต่อมาเยี่ยฉวนเดินเข้าไปในป่าไผ่ด้านหลังภูเขา เขาทรุดกายนั่งสมาธิลงกับพื้นดิน จากนั้นจึงใช้มือข้างขวาปิดที่นัยน์ตา

……ดวงตากระบี่!

จำเป็นต้องฝึกทักษะดวงตากระบี่แล้ว!

— จบตอน —

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!