บทที่ 298 ทำเนียบยอดคนแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์! (ต้น)
สายตาของลู่ป้านจวงมองตรงมายังเยี่ยฉวน แววตาตั้งคำถาม “ไหนขนม?” เยี่ยฉวนขยับปากแต่ไร้เสียงเปล่งตอบ “……” ทันใดนั้น หญิงสาวหันขวับไปอีกทางพลางสายตาเขม้นมองบางสิ่งในระยะห่าง ฉับพลันนั้น นางดีดตัวพลางตบฝ่ามือเปรี้ยงลงบนพื้นดิน
ตู้ม! แผ่นพื้นดินในบริเวณไหวโยกสั่นคลอน พลันวัตถุบางอย่างมีสีดำสนิททะยานออกมาจากมุมมืด ขณะเดียวกัน ลู่ป้านจวงเงยหน้ามองทางวัตถุที่ลอยมา พลันยกแขนทั้งสองข้างขึ้นไขว้กันออกสกัดเจ้าสิ่งนั้น
ตู้ม! หลังจากเสียงดังสนั่นอึกทึก ร่างของลู่ป้านจวงผงะถอยหลังไปไกลหลายจั้ง เมื่อคนหยุดนิ่งลงพื้นที่บริเวณฝ่าเท้าเหยียบปริแตกระเบิดทันที! หญิงสาวหันไปร้องบอกเยี่ยฉวน “คนพวกนี้มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ระวังตัวด้วย” พูดจบคนก็ทะยานมุ่งหน้าออกไปอย่างรวดเร็ว
ตู้ม! ในความมืดมิด เสียงปริแตกผสานเสียงระเบิด ทันใดลู่ป้านจวงทะยานถอยกลับมา ณ จุดเดิม ในตอนนั้น เยี่ยฉวนนิ่วหน้าเล็กน้อย ด้วยความรู้สึกบ่งชัดว่าเงื่อมเงาประหลาดจำนวนมากกำลังมุ่งเข้าหาหลิงฮั่นและคนอื่นๆ!
กลุ่มสุดยอดมือสังหาร! พลันเยี่ยฉวนกระทืบเท้าขวาลงบนพื้นเต็มแรง พลังปฐพีนับอนันต์เลื่อนไหลรวมเข้าหาตัวคนอย่างรวดเร็ว ชั่วขณะต่อมา กระบี่หลิงซิ่วทะยานออกจากกายของเขาโดยพลัน
ในที่ไกลออกไป ฉับ! กระบี่ทะยานแทรกผ่านเข้ากลางกระโหลกของมือสังหารเคราะห์ร้ายรายหนึ่ง และนาทีต่อมาโลหิตเป็นลิ่มกระเซ็นไปทั่วบริเวณ!
เสียงของเจียงจิ่วที่อยู่บนกำแพงตะโกนสั่งหาร “ลุย!” สิ้นเสียงบัญชาการ กองทัพทหารนับร้อยพร้อมอาวุธทวนยาวและโล่ขนาดใหญ่วิ่งผ่านประตูออกสู่ภายนอกกำแพงเมืองทันที ทันใดนั้น ทหารกลุ่มหนึ่งมุ่งตรงไปทางพวกเหย่ลี่ ทหารหยุดนิ่งเพื่อคอยคำสั่งซึ่งพวกเขาไม่ได้รับคำสั่งให้ริเริ่มจู่โจมแต่ให้มาอารักขาหลิงฮั่นและพวกของเขา จากนั้น ทหารเริ่มตั้งแนวค่ายกลรถถังเหล็กเพื่อในการคุ้มครอง!
ด้วยหากสู้กันตัวต่อตัว ทหารไม่อาจเปรียบกับเหล่ามือสังหาร ทว่าด้วยค่ายกลชนิดนี้พวกเขาจึงไม่กลัวเกรงการโจมตีของเหล่ามือสังหารแม้แต่น้อย
ฝีมือของทหารและมือสังหารแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง! การหาศัตรูจนพบของเยี่ยฉวนทำให้ทหารเกิดความเชื่อมั่นมากขึ้นในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับเหล่ามือสังหาร ด้วยทักษะในการสังหารศัตรูเพียงหนึ่งปะทะของเยี่ยฉวน……ยามใดที่กระบี่หลิงซิ่วสะบัดผ่าน ยามนั้นย่อมเกิดความตาย!
ถึงแม้ยอดยุทธ์ผสานเทพก็มิอาจหยุดยั้งพลังกระบี่ของเยี่ยฉวน ซึ่งประจุด้วยสองพลังทั้งปณิธานกระบี่และพลังปฐพี และสำคัญที่สุดคือการเป็นกระบี่แท้จริง!
กระบี่หลิงซิ่วสามารถทำลายศาสตราวุธจิตวิญญาณขั้นประกายแสงจนแหลกละเอียดได้อย่างง่ายดาย จึงไม่ต้องพูดถึงเหล่ามือสังหารซึ่งมีเพียงสุดยอดศาสตราวุธจิตวิญญาณเท่านั้น!
ดังนั้นในเวลาไม่ช้านานที่สองฝ่ายต่อสู้พันตู จึงปรากฏเหล่ามือสังหารถูกสังหารแดดิ้นลงแล้วกว่าห้าหรือหกคน
พลันจู่ๆ ร่างเงาหนึ่งปรากฏที่เบื้องหน้าเยี่ยฉวน ชายหนุ่มหันหลังกลับพร้อมตวัดกระบี่ตัดฉับจากบนลงล่าง ตู้ม! แรงระเบิดส่งให้ร่างของเยี่ยฉวนผงะออกไกลราวเก้าจั้ง เมื่อมองดูที่เบื้องหน้าจึงพบว่าเป็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่งกำลังเดินตรงเข้ามาทางเขาช้าๆ!
คนผู้นี้มิใช่คนรุ่นหนุ่ม! หากนั่นมิใช่ประเด็น ประเด็นอยู่ที่ว่าเขาเป็นผสานเทพ ซึ่งไม่ใช่ผนึกยุทธ์! สังเกตได้อย่างชัดเจนว่าคนผู้นี้หาใช่ยอดยุทธ์ผสานเทพธรรมดา หากแต่เป็นผสานเทพมานานโขทีเดียว ฉะนั้นต้องบอกว่ามีฝีมือระดับพระกาฬก็ว่าได้!
ชายวัยกลางคนมองตรงมาที่เยี่ยฉวน โดยไม่พูดพล่ามทำเพลง ด้วยร่างกายสั่นเทาอันเนื่องจากการรวบรวมพลัง คนทะยานมุ่งหน้าเข้าหาเยี่ยฉวนระหว่างนั้นพื้นดินปริแตกร้าวลึกมาตามเส้นทาง ขณะเดียวกันเสียงระเบิดอากาศธาตุยังคงดังสนั่นอยู่เป็นระยะๆ เพียงเคลื่อนกายผ่าน อากาศธาตุได้ถูกฉีกขาดกระจุย!
เยี่ยฉวนเห็นเช่นนั้นพลันกระชับแน่นกระบี่หลิงซิ่ว ท่ามกลางความเงียบงันร่างของเขาหายวับไปจากที่ หนึ่งกระบี่ชี้ชะตา! เวลานี้เขาไม่สามารถยืดเวลาการต่อสู้ในเนิ่นนานได้อีกแล้ว จึงจำต้องกระชับการต่อสู้ให้สั้นเข้า! มิฉะนั้นกองทัพทหารอาจตกอยู่ในอันตรายได้!
คนทางเบื้องหน้าเยี่ยฉวน ชายวัยกลางคนพลันกำหมัดขณะออกวิ่งตรงดิ่งมาทางเยี่ยฉวน ชั่วพริบตาพลังหมัดพสุธาพินาศได้แผ่กระจายออกภายนอกร่างกายประหนึ่งกระแสน้ำหลากก็ปาน ในเวลาเดียวกัน เสื้อผ้าที่ปกคลุมร่างกายพลันพองโป่ง มือที่กำหมัดปรากฏแสงสุกใสราวอาทิตย์ส่องสว่าง!
คนผู้นั้นผลักออกหมัดต้านกระบี่ที่พุ่งเข้าหา! ตู้ม!
แผ่นดินไหวโยกพร้อมแรงระเบิดสะท้านสะเทือน ร่างของเยี่ยฉวนและชายวัยกลางคนผงะแยกออกจากกันทันทีที่ปะทะกัน ความรุนแรงส่งให้เยี่ยฉวนกระเด็นไถลไกลออกไปอย่างไม่หยุดยั้ง และชายวัยกลางคนก็แทบจะไม่แตกต่างกัน ทุกก้าวที่ฝ่าเท้าสัมผัสพื้นดินเกิดรอยร้าวปริแตกทั่วไป กระทั่งที่ในบริเวณระหว่างกลางของคนทั้งสองเต็มไปด้วยฝุ่นควันคละคลุ้งไปหมด
ในไม่ช้าทั้งคู่ชะงักหยุดนิ่ง เยี่ยฉวนไม่รอช้าถลันพรวดออกเบื้องหน้าทันที! ด้วยเขามีความได้เปรียบทางสมรรถนะทางกายแข็งแกร่ง จึงทนต่อผลกระทบจากแรงปะทะได้ดี!
เมื่ออีกฝ่ายเห็นชายหนุ่มทะยานตรงเข้ามา พลันคนสีหน้าเผือดวูบ! เพราะตนเองยังไม่อาจเคลื่อนย้ายผลกระทบจากแรงปะทะออกไปได้ในทันที และขณะนี้ร่างกายเนื้อตัวสั่นสะท้านน้อยๆ ดูเหมือนอวัยวะภายในราวห้าหรือหกแห่งจะได้รับความกระทบกระเทือนจนฉีกขาด แต่เยี่ยฉวนกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น!
ทว่าคนวัยกลางคนเขาไม่มีเวลาคิดนาน พลันยกเท้าขวากระแทกลงบนพื้นดินอย่างแรงดีดตัวออกจากที่รวดเร็วประหนึ่งธนูพุ่งจากคันศร ด้วยพลังเคลื่อนไหวเขาค่อยกำหมดข้างขวาขณะเดียวกันพลังหมัดเคลื่อนไหวแผ่ซ่านออกรายรอบมือที่กำหมัดแน่น เพราะพลังรุนแรงชนิดนี้และอาการบาดเจ็บที่ได้รับมาก่อนหน้า ทำให้หมัดข้างนั้นปริเป็นแผลแตกเมื่อคนรวบรวมพลัง!
ทว่าเวลานี้ชายวัยกลางคนมิได้คำนึงถึงความตายอีกต่อไป ด้วยหากไม่สามารถต้านทานพลังปะทะของเยี่ยฉวน ตนเองคงต้องสิ้นชีพลงอย่างไม่ต้องสงสัย! ฉับพลันนั้น ร่างของคนสองคนปะทะกันโดยตรงอีกครั้งอีกครา ด้วยไม่มีใครยอมใคร! เวลาเหมือนจะหยุดนิ่งไปชั่วเสี้ยววินาที
ตู้ม! ใครคนใดคนหนึ่งร่างลอยละลิ่วออกไป และคนผู้นั้นคือชายวัยกลางคน! เยี่ยฉวนไม่รีรอขยับเท้าทำท่าจะติดตาม พลันหันหน้าไปทางขวามือไม่ห่างไกลนัก ภาพที่ปรากฏเป็นร่างไร้วิญญาณของทหารแคว้นเจียงนอนตายเกลื่อนหลายสิบนาย!
เมื่อประจักษ์ชัดต่อภาพเบื้องหน้าสีหน้าของชายหนุ่มแปรเปลี่ยนเหี้ยมเกรียมทันที เขาทะยานมุ่งตรงไปพร้อมกับร่างกายเริ่มสั่นเล็กน้อย เป็นเวลาเดียวกับกระบี่หลิงซิ่วทะยานออกไปกลางลาน
ฉับ! พลันศีรษะของมือสังหารคนหนึ่งกระเด็นหวือไปในอากาศ สัมผัสสังหาร! สัมผัสสังหารทันท่วงที! เมื่อเห็นคนที่กำลังพุ่งเข้ามา ขุนศึกเต๋าแห่งดินแดนอันธกาลพากันตกตะลึง เป็นเพราะเยี่ยฉวนแสดงให้เห็นว่าค้นหาพวกมันจากตำแหน่งที่กำบังกายได้อย่างแม่นยำ!



