Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 306

Yi Jian Du Zun
BC

บทที่ 306 พี่น้องคืออะไร? (ต้น)

C

ยกเว้นหลิงฮั่นซึ่งถลันออกนำหน้าไปแล้ว กานอู๋เว่ย เหยี่ยลี่ หนานไคหมิงรวมทั้งไป่เจ๋อ ทุกคนกระโจนพรวดลุกขึ้น!

ขั้นพลังผสานเทพ! ทั้งห้าคนล้วนสำเร็จขั้นผสานเทพ! ต่อจากนั้น คนทั้งสี่ทะยานเข้าหาฝ่ายตรงข้ามสองคนซึ่งอยู่ไม่ไกล เวลานั้นสีหน้าของคนทุกคนขึงขังดุดันไม่ว่าจะเป็นไป่เจ๋อหรือคนอื่น เพราะพวกเขารู้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มาโดยตลอด

ตอนที่เห็นเยี่ยฉวนต้องต่อสู้กับสามคนเพียงลำพัง พวกเขารู้สึกเจ็บปวดอยู่ลึกๆ ในใจ แต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้! ทั้งหมดทุกคนต่างมุ่งมั่นที่จะสำเร็จขั้นผสานเทพ! ด้วยเมื่อไรที่ทุกคนสำเร็จขั้นผสานเทพ ตอนนั้นพวกเขาจึงจะรับมือกับคนสวมชุดเทาและอีกสองคนได้! ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็แค่ตายไปพร้อมกัน!

ห้าต่อสาม! ชายสวมชุดเทาและคนอีกสองคนนั้นแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ถึงแม้อีกฝ่ายจะมีห้าคน แต่มิได้ทำให้พวกเขาอยู่ในขั้นเสียเปรียบแต่อย่างใด! ยังไงเสียในบรรดาคนรุ่นใหม่แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาก็นับเป็นหนึ่งในยอดฝีมือสุดมหัศจรรย์!

ที่ไม่ห่างเท่าใด เยี่ยฉวนทรุดฮวบลงไปนั่งกับพื้นท่าทางอาการไม่สู้ดี จากนั้นเขาค่อยๆ ล้มตัวลงนอนแผ่บนพื้นนั่นเอง ก่อนจะล้วงเอาโอสถเทพประสานออกมาโยนใส่ปาก

อ่อนแรง! อ่อนแรงจากการต่อสู้ที่เพิ่งผ่านมา เป็นครั้งที่เหน็ดเหนื่อยสุดชีวิต! เพราะความเหนื่อยล้าทางกาย อีกทั้งอาการบาดเจ็บจนร่างทั้งร่างสุดจะทานทน

เขาแทบไร้เรี่ยวแรงแม้จะขยับเขยื้อนนิ้วมือ ขณะนั้นเองเงาดำวูบเข้ามาทางด้านหลังรวดเร็ว ฉับพลันต่อมาใครคนหนึ่งพุ่งตัดลานกว้างเข้ามาทางเยี่ยฉวนทันที คนผู้นั้นมีความว่องไวยิ่งกว่า!

ปัง! เสียงระเบิดจากแรงปะทะพลันร่างเงาผงะถอย จากนั้นไม่นานเงาดำก็กลืนหายไปในความมืด ร่างของใครคนหนึ่งปรากฏออกเบื้องหน้าเยี่ยฉวน เขาคือโม่อวิ๋นฉี! สายตาเยือกเย็นของโม่อวิ๋นฉีจ้องมองไปในความมืดมิดรอบด้าน ในมือถือมีดบินทองคำเตรียมพร้อมซัดออกได้ทุกเมื่อ

จากนั้น มีคนกลุ่มหนึ่งมุ่งตามมาทางเยี่ยฉวน บัดนี้สมาชิกกองกำลังจอมโจรล้วนบรรลุขั้นผสานเทพกันแล้ว ไม่พลาดแม้แต่คนเดียว! เมื่อมาถึงที่ชายหนุ่มนอนแน่นิ่ง โม่อวิ๋นฉีรวมทั้งคนของกองกำลังจอมโจรเข้าประชิดช่วยคุ้มกันให้เยี่ยฉวน

ซึ่งขณะนั้น เขารู้สึกอ่อนเพลียเหลือประมาณและอยากนอนพักเต็มที กระทั่งไม่อาจทนฝืนไว้ต่อไปเพราะบัดนี้โม่อวิ๋นฉีและพี่น้องร่วมกลุ่มเข้ามาอยู่เคียงข้างแล้ว ยามนั้นจิตสงบนิ่ง! เยี่ยฉวนจึงผล็อยหลับไปเกือบจะทันที

โม่อวิ๋นฉีและคนอื่นกระจายกันล้อมเยี่ยฉวน ทุกคนหันหน้าเพ่งมองฝ่าความมืดสนิทรอบตัวด้วยแววตาทอประกายเหี้ยมหาญ

มีความเคลื่อนไหวจากที่ไม่ไกลนัก ตู้ม! ขณะที่เสียงดังสนั่นอึงอล ร่างของใครคนหนึ่งกระเด็นออกไปทันที คนผู้นั้นคือชายวัยกลางคนคู่ต่อสู้ของลู่ป้านจวงนั่นเอง

ชายวัยกลางคนผงะถอยไกลกว่า 15 จั้ง และเมื่อคนหยุดนิ่งก็เป็นเวลาเดียวกับที่ลู่ป้านจวงซึ่งติดตามมาปรากฏออกเบื้องหน้า ชั่วเสี้ยววินาทีถัดมาหญิงสาวกระโจนขึ้นสู่อากาศจากนั้นก็ฟาดฝ่ามือพร้อมทะยานลงอย่างรวดเร็วจนภาพมองเห็นเป็นเพียงพร่าเลือนราวภาพมายา

ก่อนที่ฝ่ามือจะปะทะ แรงผลักดันพุ่งปะทะก่อนอื่น! พื้นดินใต้ฝ่าเท้าของชายวัยกลางคนพลันแปรเปลี่ยนเป็นฝุ่นควันคละคลุ้งลอยขึ้นเบื้องบน! คนผู้นั้นเมื่อรับรู้ถึงพลังฝ่ามือที่ผลักออกปะทะ ชายวัยกลางคนหรี่ตาลงเล็กน้อย ขณะเดียวกันได้ตั้งท่าสกัด ด้วยการย่อตัวลงพร้อมงอแขนสองข้างไขว้กันไว้ตรงอกเสื้อ กระแสแห่งพลังชี่พลันไหลหลั่งออกมาจากแขนทั้งสอง

ฝ่ามือฟาดลงมา ตู้ม! ความรู้สึกแรกของชายวัยกลางคนคือร่างจมดิ่งลึกลงไปในพื้นดิน อีกทั้งแขนสองข้างแตกออกจากกันในทันที ในขณะนั้นก่อนที่ลู่ป้านจวงจะทะยานลงมาถึงที่ หญิงสาวงอเข่าข้างหนึ่งจากนั้นก็กระแทกเข้าที่ข้างแก้มของชายวัยกลางคนอย่างรุนแรง

ตู้ม! แรงสะบัดส่งให้ลำคอของคนฉีกขาด โลหิตแดงฉานสาดกระจายออกมาจากบาดแผลฉกรรจ์! ลู่ป้านจวงโบกแขนข้างขวาวูบหนึ่ง พลันห่วงเหล็กของอีกฝ่ายทะยานมาที่อุ้งมือของนาง สายตาเหลือบมองห่วงเหล็กในมือพลันมุมปากเหยียดยิ้มน้อยๆ อย่างพึงพอใจ

หลังจากเก็บสิ่งล้ำค่าแล้ว หญิงสาวจึงหันไปทางเหลียงจ้านซึ่งขณะนั้นกำลังต่อสู้กับสตรีเสื้อเขียว พลันร่างของนางหายวาบไปจากสายตา ห่างไปราว 15 จั้ง เหลียงจ้านกำลังพันตูกับสตรีเสื้อเขียวอย่างดุเดือด พลันจู่ๆ เขาหมุนตัวกลับและผลักหมัดรุนแรงออกไปตรงหน้า

ตู้ม! กลับกลายเป็นร่างของเหลียงจ้านซวดเซถอยหลังไปหลายสิบก้าว! ตอนนั้นลู่ป้านจวงปรากฏกายขึ้นเคียงข้างสตรีเสื้อเขียว พลางสายตาจ้องเขม็งขณะที่หญิงสาวกำลังตั้งท่าจะออกปะทะนั้นเอง พลันมีเสียงดังขึ้นท่ามกลางความมืดรอบด้าน “ถอย!”

ถอย!

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเหลียงจ้านหันขวับไปทางที่มาของเสียง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ลู่ป้านจวงและสตรีเสื้อเขียวพร้อมใจกันหายร่างไปจากที่

เหลียงจ้านหรี่ตามองขณะสายตาจับภาพของคนสองคน ทันใดนั้น เขายกมือขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีถัดมากลุ่มควันสีดำประหลาดสองกลุ่มหมุนวนม้วนตัวที่บริเวณใจกลางฝ่ามือสองข้าง คนบิดมุมปากยกยิ้มพริบตานั้นเขาประกบฝ่ามือเข้าหากัน จากนั้นเห็นได้ชัดว่ากลุ่มควันสีดำทั้งสองเกิดการสั่นอย่างรุนแรงและก่อนที่มันจะระเบิดเสียงดังสนั่น!

ปึง! ปึง!

แรงระเบิดทำให้ลู่ป้านจวงและสตรีเสื้อเขียวทะยานย้อนกลับไป ณ จุดเดิม ทั้งสองหยุดมองสิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าซึ่งมีกลุ่มควันประหลาดกำลังลอยตัวขึ้นสู่อากาศ

ในเวลานั้น แววตาของหญิงสาวทั้งสองฉายความเคร่งเครียดด้วยรับรู้ต่อภยันตรายที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มควัน หากมิได้หมายความว่าทั้งคู่กลัวเกรง เพียงแว่บเดียวคนทั้งคู่พลันหายไปจากที่อีกครา

ห่างไปหลิงฮั่นหรี่ตาเพ่งมองมาจากที่หนึ่ง จากนั้นคนยื่นมือขวาออกและกำมือเข้าหากันรวดเร็ว “ทำลาย!” เมื่อสิ้นเสียงนั้น กลุ่มควันดำที่ลอยอยู่ในอากาศไกลออกไปพลันระเบิดแตกกระจาย……

เมื่อลู่ป้านจวงและสตรีเสื้อเขียวโบกกระแสลมสีดำที่ปลิวผ่านมา หลิงจ้านก็หายไปจากบริเวณเสียแล้ว อีกทางหนึ่งคนสวมชุดเทาและคนอื่นพลอยหายไปด้วยเช่นกัน

สตรีสองนางทะยานออกหน้าหมายติดตามหัวคิ้วขมวดนัยน์ตาเพ่งมอง ทว่าขณะต่อมาทั้งคู่ตกลงใจที่จะหยุดออกตาม ไม่รู้ว่าหญิงสาวทั้งสองรู้สึกอย่างไร มีเพียงสีหน้าที่แฝงความหวาดหวั่น!

ขณะนั้นหลิงฮั่นตามมาทันสองสตรี เขาเอ่ยเสียงขรึม “ตามมันไหม?!” สตรีสาวส่ายหน้าเป็นทำนองปฏิเสธ หลิงฮั่นนิ่วหน้าทำท่าอ้าปากเหมือนจะกล่าววาจา ลู่ป้านจวงเวลานั้นหันไปมองเยี่ยฉวนซึ่งนอนแผ่หลาอยู่บนพื้น “คอยเขาฟื้นขึ้นมาก่อนดีกว่า!”

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!