Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 313

Yi Jian Du Zun
BC

บทที่ 313 พี่ใหญ่ตลอดกาล! (ปลาย)

C

“มีข้าอีกคน!” โม่อวิ๋นฉีที่ยืนไม่ห่างหากพอได้ยินถนัดชัดหู ส่งเสียงหัวเราะในลำคอ หึหึ เจียงจิ่ว! โม่อวิ๋นฉี! เยี่ยฉวนราวกับเพิ่งนึกขึ้นมาได้ เขาแหงนหน้าส่งเสียงหัวเราะดังลั่นสนั่นฟ้า

เสียงของใครคนหนึ่งดังขัดจังหวะมาจากที่ไม่ห่างไกล ชายชราสวมชุดขาวพูดขึ้นว่า “เยี่ยฉวน เจ้านี่นับว่าเป็นยอดฝีมือโดยแท้จริง ทำให้คนหนุ่มสาวหัวดื้อจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์พวกนั้นยอมรับนับถือในฐานะพี่ใหญ่ ถึงขนาดยอมตายเพื่อช่วยเจ้าได้ ข้าอยากบอกว่าเจ้าโชคร้ายเหลือเกิน ช่วยไม่ได้จริงๆ หลี่เสวียนชาง อาจารย์ใหญ่ของฉางมู่แห่งแคว้นเจียงเคยพูดไว้ไม่มีผิด ความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเจ้า ก็คือ การไม่ได้เข้าร่วมกับสถานศึกษาฉางมู่ไงล่ะ”

เยี่ยฉวนเบ้ปาก “เลิกวาจาตลบแตลงเสียที บอกข้าดีๆ ก็ได้ว่าจะมาสู้กันแล้ว!” คนชราผงกศีรษะ “ตามใจเจ้าก็แล้วกัน!” สิ้นเสียงของคนพูด ตนเองถอยห่างไปทางด้านข้างเล็กน้อย ขณะเดียวกันกับใครคนหนึ่งปรากฏออกเบื้องหน้าเยี่ยฉวนอย่างกระทันหัน

เยี่ยฉวนคุ้นหน้าคนที่เพิ่งปรากฏกาย ชายสวมเสื้อคุลมสีเทาเข้มผู้นี้ครั้งหนึ่งเคยประมือด้วยกันมาแล้ว ชายสวมเสื้อเทาผู้ที่มีห่วงโลหะสีดำพันรอบแขน เมื่อเห็นคนที่เข้ามาได้ถนัด เยี่ยฉวนบิดยิ้มมุมปาก “ครั้งก่อนยังไม่เข็ดสินะ!”

ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น คนเสื้อสีเทาหรี่ตาลงเล็กน้อยเอียงหน้ามอง ทันใดนั้น เขายกเท้าขวากระแทกลงไปที่พื้นดินหนักหน่วงหนึ่งครั้ง ฉับพลันร่างคนทะยานพรวดออกขวางเบื้องหน้าเยี่ยฉวน จากนั้น ได้ตวัดแขนข้างขวาฟาดเข้าหาเยี่ยฉวนดังเปรี้ยง!

ขณะนั้น ห่วงโลหะที่พันไว้รอบแขนหมุนติ้วและเร็วขึ้นทุกขณะพลันนั้นพลังฉีอันแหลมคมแผ่ซ่านออกมา เยี่ยฉวนไม่ว่ากล่าวใบหน้าสงบนิ่ง พร้อมผลักกระบี่พุ่งออกทันที

เปรี้ยง! ร่างของคนสวมเสื้อเทาผงะกระเด็นออกห่างไกลกว่า 15 จั้ง เมื่อคนหยุดลงกับที่พลันพื้นดินใต้ฝ่าเท้าแตกร้าวเป็นร่องลึก แขนข้างขวาสั่นสะท้านจนรู้สึกได้

เยี่ยฉวนไม่รอท่า ถือกระบี่ย่างสามขุมตรงเข้าหาคนสวมเสื้อเทา มุมปากบิดโค้งอย่างเยาะหยัน “ยอดฝีมือแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้แค่นี้เองหรือ?”

อีกฝ่ายพอได้ยินเช่นนั้น คนสวมเสื้อเทาใบหน้าถมึงทึงน่ากลัว พลันคนสวมชุดขาวชายชราซึ่งอยู่ไม่ไกลพูดขึ้นทันควัน “เขาปล่อยพลังทั้งหมด ถ้าเจ้าไม่ทำเช่นเดียวกันก็อย่าคิดว่าจะเอาชนะได้”

คนสวมเสื้อเทาเม้มปาก มือกำหมัดแน่น ขณะเดียวกันคนค่อยๆ ย่อตัวลง เปรี๊ยะ! ฉับพลันเสียงของพื้นดินรอบบริเวณในรัศมี 15 จั้ง เริ่มปรากฏรอยแตกร้าว ในเวลาเดียวกัน แรงผลักดันแผ่กระจายออกจากตัวคน เจ้าตัวทะยานมุ่งหน้าเข้ามาทางเยี่ยฉวน!

เยี่ยฉวนขณะนั้นมิได้ชะงักฝีเท้า ยังคงเดินหน้าย่างสามขุม ขณะที่แรงผลักดันค่อยๆ แผ่ซ่านด้วยเช่นกัน! แรงผลักดันแห่งกระบี่!

ชายหนุ่มสาวเท้าตรงเข้าหาชายสวมเสื้อเทาอย่างไม่ยั้งรอ ทันใดนั้น แรงผลักดันแห่งกระบี่จึงเกิดการประสานงาเข้าอย่างจังกับแรงผลักดันของคนเสื้อเทา

ตู้ม! แรงสั่นสะเทือนส่งให้พื้นดินโดยรอบบริเวณคนทั้งคู่แกว่งไกวราวแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง! เยี่ยฉวนชะงักเล็กน้อย ทว่าต่อมาได้ทะยานไปเบื้องหน้าต่อเนื่อง

ชายสวมเสื้อเทาซึ่งจับตามองเขม็งได้เห็นเต็มตาพลันหรี่ตาเล็กน้อย ด้วยรู้แล้วว่าตนประมาทแรงผลักดันของคนตรงหน้ามากเกินไป!

ตอนนั้นเอง เยี่ยฉวนเริ่มเร่งความเร็วฝีเท้า และเพิ่มขึ้นๆ ทุกขณะ ชายหนุ่มพุ่งเข้าหาคนสวมเสื้อเทาพร้อมกระบี่คู่กาย……นอกจากนั้น ยิ่งเขาเพิ่มความเร็วแรงผลักดันยิ่งแกร่งกล้าขึ้นทุกขณะ จนกระทั่งความแข็งแกร่งเมื่อถึงขีดสุดได้แปรเปลี่ยนเป็นกระแสพลังเชี่ยวกรากพร้อมที่จะทำลายทุกสิ่งที่ขวางกั้น!

หนึ่งกระบี่ชี้ชะตา! ทว่าในเวลานี้ชายชราสวมชุดขาวที่กำลังจับตามองกลับเป็นฝ่ายหน้าเสีย! แรงผลักดัน! คนผู้ฝึกทักษะยุทธ์หรือกระบี่สามารถผสานรวมแรงผลักดัน ต่อจากแรงผลักดันก็คือปณิธานกระบี่ แรงผลักดันเริ่มก่อนติดตามด้วยปณิธานกระบี่

คนส่วนใหญ่มักคิดว่าปณิธานกระบี่สำคัญกว่าแรงผลักดัน! ในความเป็นจริงนั้นมิใช่เลย เพราะทั้งสองส่วนมีความสำคัญเท่ากัน ด้วยแรงผลักดันอาจมาจากการรวบรวมหรือดึงออกมา……ชั่วขณะหนึ่งสัญญาณบางอย่างบ่งชี้ว่าเยี่ยฉวนดึงเอาแรงผลักดันออกมา!

ทันใดนั้น เยี่ยฉวนกลับชะงักนิ่งงัน ในฐานะที่เป็นผู้สังเกตการณ์ ชายชราชุดขาวเมื่อเห็นดังนั้นจึงค่อยผ่อนลมหายใจด้วยความโล่งอก เห็นได้ชัดว่าเยี่ยฉวนไม่ทันสังเกตต่อสิ่งที่เรียกว่า ‘การผสาน’ ซึ่งไม่สามารถเข้าใจโดยปราศจากความรู้สึกถ่องแท้ต่อสิ่งนี้ ถ้าเมื่อใดที่เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้ต่อสิ่งนี้ เมื่อนั้น เขาจะดึงเองแรงผลักดันออกมาได้ ตรงกันข้ามหากเขาไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ ก็จะไม่สามารถดึงออกมาได้นั่นเอง!

ในขณะที่เยี่ยฉวนมีแนวโน้มว่าได้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว แต่ต่อมากลับเลือนหาย ทว่าในขณะนั้นเอง เยี่ยฉวนนิ่วหน้าด้วยอะไรบางอย่าง พลางพึมพำกับตนเองอยางแผ่วเบา “แรงผลักดัน……จิตวิญญาณการต่อสู้และปณิธานกระบี่ทั้งสองพลังสามารถผสานรวมด้วยทักษะแรงผลักดันแห่งกระบี่ แล้วพลังอื่นอีกเล่า?”

พลังชนิดอื่น! เสียงนั้นจางหาย เยี่ยฉวนควงกระบี่ที่ถืออยู่ในมือข้างขวา ชั่วพริบตาต่อมาปรากฏการณ์จากกระบี่ปลุกเร้าลมเอื่อยแผ่วเบากลายเป็นวังวน ทันใดนั้น ลมโชยเอื่อยค่อยเลื่อนไหลรวมเข้าสู่กระบี่……สีหน้าของชายหนุ่มแสดงออกถึงความตื่นเต้นยินดีเมื่อเห็นสิ่งที่ปรากฏต่อหน้า มันได้ผลจริง!

พลันนั้นเองเสียงแผดก้องปานแผ่นดินกัมนาทของชายชราสวมชุดขาว “ฆ่าเขา! ฆ่าเขาซะ!” ไม่เพียงเท่านั้น สายตาของคนที่ตะโกนก้องยังเต็มไปด้วยความเหี้ยมเกรียมดุดันหวาดกลัว!

ด้วยเหตุที่เยี่ยฉวนเกิดความตระหนักรู้ต่อความน่าพิศวงอย่างแท้จริงของแรงผลักดัน ย่อมหมายถึงเขาสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นจากปรมาจารย์กระบี่เป็นจ้าวแห่งกระบี่……

จ้าวกระบี่! การควบคุมลม ดิน หรือทุกสิ่ง ด้วยพลังกระบี่สยบฟ้าดิน……จ้าวกระบี่!

เมื่อคิดได้เช่นนั้นแล้ว ดูเหมือนจะทำให้ชายชราเกิดอาการราวคนคุ้มคลั่ง “ผนึกกำลังต่อสู้! ผนึกกำลัง!” เมื่อสิ้นเสียงบงการ ในลานกว้างพลันปรากฏกลุ่มคนจำนวนหนึ่งขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน รวมทั้งหลีมู่หลินผู้ที่เคยตรึงกำลังหลิงเยว่ไว้ก่อนหน้า พร้อมสะพายคันเกาทัณฑ์ยาวทางข้างหลังมากับชายแขนขาดคนหนึ่ง ซึ่งเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของเยี่ยฉวน ด้วยจดจำงูสีแดงชึ่งถูกผู้สูงส่งให้หอชั้นสองฟาดจนตายตัวนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงของคนผู้นี้เอง!

รวมสามสุดยอดฝีมือแห่งทำเนียบยอดคน ไหนจะยังชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่ง! ตามมาด้วยร่างดำทะมึนของเงาปีศาจหกร่างปรากฏออกมาอย่างเงียบเชียบล้อมกรอบเยี่ยฉวน ร่างเงาทั้งหกค่อยขยับเข้าหาคนตรงกลางอย่างช้าๆ ขุนศึกเต๋าชั้นเยี่ยมแห่งดินแดนอันธกาล! เป็นการรวมพลที่น่าครั่นคร้ามอะไรเช่นนี้?!

การณ์เป็นดังนี้เสียแล้ว เยี่ยฉวนไม่สามารถกำหนดจิตเพื่อการตระหนักรู้อย่างถ่องแท้ได้อีกต่อไป แม้ว่าจะรู้สึกเสียดายโอกาสอยู่บ้าง หากแต่เขาไม่มีทางเลือก

ฉับพลันก็มีเสียงกระซิบแผ่วเบาลึกลับดังขึ้นในมโนสำนึก ทั้งรับรู้ได้กระทั่งนิ้วมือเรียวเรียบเนียนดุจเนื้อหยกขาววางทาบลงบนบ่าเพียงเบาบาง ทันใดนั้น เสียงหนึ่งดังก้องในโสตประสาท “ทำต่อไป ทางนี้ข้าจัดการเอง!” เพียงเสียงที่ก้องอยู่ในหัว เยี่ยฉวนนิ่งขึงตะลึงงัน

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!