บทที่ 337 ถึงตอนนี้เจ้าได้พยายามเต็มที่แล้ว! (ปลาย)
ฉึก!
พลันนั้น ร่างของพลม้าศึกเพลิงโลกันตร์นายหนึ่งถูกแรงปะทะส่งร่างของเขาจนลอยละลิ่วไปไกลกว่า 15 จั้ง ก่อนจะกระแทกเข้ากับพลม้าศึกอีกรายจึงร่วงลงไปกองอยู่กับพื้นดิน และด้วยแรงกระแทกหนักหน่วงเจ้าคนนั้นจึงไม่อาจลุกขึ้นมาอีกเลย!
……ในสายตาของทหารธรรมดาไม่ว่าจะเป็นแคว้นเจียงและแคว้นหนิง กลุ่มคนเบื้องหน้าอย่างกองทัพเพลิงโลกันตร์คือกองทัพไร้เทียมทาน! แต่ไม่ใช่กับชายหนุ่ม!!!
จ้าวกระบี่! ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์คนที่สำเร็จเป็นจ้าวกระบี่จะได้รับการยอมรับนับถือเป็นอย่างมาก ทว่าในแผ่นดินชิงมิได้เป็นเช่นนั้น! ทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งของผู้ฝึกกระบี่คือความกล้าแกร่งของคนผู้นั้น ซึ่งเป็นที่รับรู้ว่าได้รับการยอมรับในยุทธภพ!
หลังจากที่พลม้าศึกถูกกระบี่ของเยี่ยฉวนจนปลิวกระเด็นไป พลันทวนยาวเล่มหนึ่งถูกแทงพรวดจากข้างหลัง ลักษณะการปะทะหาได้เคลื่อนที่ผิดแผกแต่อย่างใด เป็นเพียงลำทวนยาวกระแทกเข้าด้วยความรวดเร็วและอัดแน่นด้วยพลัง!
เยี่ยฉวนหมุนตัวกลับครึ่งรอบและผลักกระบี่กระแทกกลับสกัดกั้นปลายทวน ทันใดนั้น เงาดำทะยานวูบเข้าหาและเกือบในทันทีพลม้าศึกกองทัพเพลิงโลกันตร์นายหนึ่งถลันพรวดมาข้างหน้าเยี่ยฉวน! อย่างไรก็ตาม เมื่อปลายกระบี่แทงออกไปตรงหน้าระยะห่างจากเจ้าคนพลม้าศึกเพียงสิบกว่านิ้ว ลำทวนยาวปริศนาที่ทะยานออกมาจากด้านขวากลับกระแทกกับกระบี่อย่างรุนแรง
ปัง! ร่างเงาผงะทะยานถอยหายไปในทันที! ในขณะต่อมา ทวนยาวอีกเล่มเสือกพรวดเข้าเป้าหมายหลังศีรษะของเยี่ยฉวน ทันทีที่ปลายทวนแทงตรงมาที่ศีรษะคน บังเกิดเป็นเสียงลั่นเปรี้ยงทันทีพร้อมวัตถุบางอย่างกระทบกับลำทวน
ปึง! ทวนสะบัดออกกระเด็นหวือ! ด้านหลังเยี่ยฉวนเป็นทัวป้าเหยียนเข้ามา! ฉับพลันนั้น ทหารแห่งกองทัพเพลิงโลกันตร์กระจายกันล้อมเยี่ยฉวนและทัวป้าเหยียน! เวลานั้นกองทัพเพลิงโลกันตร์มิได้จู่โจมในทันทีทว่าตรงเข้าล้อมคนทั้งสองไว้เช่นนั้น ความเคลื่อนไหวรวดเร็วยิ่ง ทั้งเยี่ยฉวนและทัวป้าเหยียนมองเห็นเป็นเพียงเงาวูบวาบไปมา!
สองคนที่ถูกล้อมพลันรีบหันหลังชนกัน ทั้งสองเริ่มสีหน้าเคร่งเครียด! ถึงแม้เยี่ยฉวนจะเป็นจ้าวกระบี่ เขาก็ไม่อาจประมาทฝีมือคนของกองทัพเพลิงโลกันตร์ ถ้าสู้กันตัวต่อตัวหรือต่อให้ห้าพลม้าศึกก็ไม่น่ามีปัญหา! แต่นี่หนึ่งต่อร้อยพลม้าศึก!
เมื่อพวกเขารวมตัวกัน พลังทำลายล้างของกองทัพเพลิงโลกันตร์ต้องน่ากลัวอย่างไม่ต้องสงสัย! ทันใดนั้นสีหน้าของเยี่ยฉวนเปลี่ยนวูบ ด้วยปรากฏลูกศรเฉียดร้อยดอกกระหน่ำยิงใส่ทั้งเขาและทัวป้าเหยียนในวงล้อม! ทัวป้าเหยียนหรี่นัยน์ตาลง ทิศทางของลูกศรที่พุ่งมาในระยะกระชั้นชิดจนยากที่คนทั้งคู่จะสามารถหลบหลีกได้ทัน และที่สำคัญลูกศรเหล่านั้นเป็นศาสตราวุธขั้นประกายแสงทั้งหมด ซึ่งถ้าโดนก็อาจปลิดชีวิตเขาทั้งสองได้ทันที!
ในสถานการณ์คับขันจวนตัวเช่นนี้เยี่ยฉวนจึงผลักฝ่ามือข้างขวาออกไปข้าหน้า พลันพลังปณิธานกระบี่กระจายวาบออกจากร่างกาย พลังแผ่กระจายพลันค่อยขยายออกกระทั่งกลายเป็นโล่ครอบคลุมทั้งเขาและทัวป้าเหยียนไว้ภายใน ในขณะเดียวกัน กระบี่สามเล่มทะยานวาบออกสู่ภายนอกและบินวนไปรอบตัวเยี่ยฉวนและอีกคน พร้อมรังสีกระบี่ส่องแสงแรงกล้า
บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม! ฉับพลันนั้นลูกศรนับร้อยก็กระหน่ำยิงเข้ามาจนท่วมร่างของเยี่ยฉวนและทัวป้าเหยียน! ทว่าพลันนั้นเอง ปณิธานกระบี่กลับกลายพร่าเลือน อีกทั้งรังสีกระบี่กลับแตกกระจายเกือบในพริบตา! อานุภาพแห่งลูกศรน่ากลัวนัก!
เยี่ยฉวนเห็นเช่นนั้น เขารีบหันไปบอกหญิงสาว “ข้าจะตีฝ่าออกไป เจ้ารีบไปก่อน!” หลังจากที่พูดจบเขาเผยฝ่ามือออกไปเบื้องหน้า พลันกระบี่หลิงซิ่วทะยานวาบลงบนฝ่ามือ เมื่อเยี่ยฉวนสะบัดนิ้วชี้ไปข้างหน้า กระบี่เล่มนั้นก็พุ่งออกไปทันที!
หนึ่งกระบี่ชี้ชะตา! ขณะที่กระบี่บินทะยานออก เสียงดังเสียดแทงแปลกประหลาดกึกก้องทั้งลาน พลันนั้นเอง พลม้าศึกเพลิงโลกันตร์นายหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลกว่าสี่จั้งถูกกระบี่เสียบทะลุจุดกึ่งกลางหว่างคิ้ว! ซ้ำพลังแข็งแกร่งแห่งกระบี่ยังส่งร่างให้ลอยไปไกลอย่างรวดเร็ว! ขณะเดียวกัน ร่างที่กระเด็นยังลอยไปกระแทกกับพลม้าศึกอีกคน ยังผลให้พวกมันกระเด็นไปพร้อมกัน
เยี่ยฉวนและทัวป้าเหยียนจึงฉวยโอกาสระหว่างนั้นเร่งฝ่าวงล้อมของของกองทัพเพลิงโลกันตร์ออกไปทันที ทว่าออกไปได้เพียงครู่เดียวพวกเขาต้องหยุดชะงัก ด้วยมีลูกศรหลายร้อยไม่ปรากฏที่มาพุ่งตรงเข้าหาทางเบื้องหลัง! แต่ละลูกแต่ละดอกเป็นประกายแวววาวด้วยรังสีแห่งลูกศร!
ไม่มีที่ให้หลบหลีก! เวลานั้นทัวป้าเหยียนหรี่นัยน์ตาลง ด้วยตระหนักแก่ใจถึงความน่ากลัวของลูกศรของกองทัพเพลิงโลกันตร์! นางประมาทฝีมือฝ่ายตรงข้ามต่ำเกินไป! ขั้นพลังต่ำกว่าผนึกยุทธ์ ยากนักที่คนทั่วไปจะสกัดกั้น!
ในตอนนั้นเอง เยี่ยฉวนเอื้อมมือกระชากตัวหญิงสาวมาไว้ข้างหลัง ส่วนตัวเองก้าวออกไปและสะบัดข้อมือไปทางเบื้องหน้า ต่อมากระบี่สามเล่มทะยานวาบ รังสีกระบี่สาดประกายสว่างแวบวาบ กระทบเข้ากับลูกศรที่พุ่งเข้ามานับร้อยจนส่วนหนึ่งปลิวกระเด็นแต่ก็มีลูกศรอีกหลายลูกยังคงพุ่งตรงเข้าหาคนทั้งสอง!
เยี่ยฉวนก้าวเท้าออกไปอีกก้าวหนึ่ง พลันพลังปณิธานแห่งคุณธรรมกระจายออกเบื้องหน้า พลังปณิธานแผ่ซ่านรวมตัวหนาแน่นกลายเป็นปราการแห่งปณิธาน ทว่าทันทีที่ลูกศรพุ่งมาปะทะ ปราการปณิธานกลับกลายเป็นพร่าเลือน นอกจากนั้น ผลจากแรงปะทะยังทำเอาเยี่ยฉวนสะอึกเฮือกปรากฏโลหิตไหลซึมออกที่มุมปาก
พลันเขาหันขวับไปยังคนข้างหลัง “ทำไมยังอยู่ที่นี่?” ทัวป้าเหยียนชำเลืองมองคนพูด หากมิได้ตอบโต้ ขณะที่โลหิตยังไม่หยุด เสียงเยี่ยฉวนคำรามลั่น “นี่แม่นาง รีบไปสิ! ถ้าเจ้าไม่ไป แล้วข้าจะไปได้ยังไง?”
อีกฝ่ายละสายตามามองอย่างงงัน “……”
“อะไรนะ ให้ข้าหนีไปงั้นหรือ?”
ในขณะนั้นเอง หลี่มู่พลันทะยานวาบขึ้นไปปรากฏเบื้องบนท้องฟ้าเหนือกองทัพเพลิงโลกันตร์ สายตาเหลือบมองเยี่ยฉวน มุมปากแสยะบิดเบี้ยวก่อนวาจาเย้ยหยัน “เยี่ยฉวน ยังคิดหนีอีกหรือ? ข้าจะบอกให้วันนี้คือวันตายของเจ้า! นอกนั้นแคว้นเจียงและแคว้นหนิงก็จะต้องพินาศไปพร้อมกัน!” จากนั้นเขายกมือขึ้นและสะบัดขวับ พลันกองทัพเพลิงโลกันตร์ทั้งหมดพุ่งตรงเข้าหาเยี่ยฉวนและทัวป้าเหยียน!
พลันจู่ๆ เยี่ยฉวนหันหน้ามาพูดกับทัวป้าเหยียน “ก่อนตาย ข้าขอจูบเจ้าสักครั้งได้ไหม?” ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น หญิงสาวเหยียดมุมปาก ขณะที่ภายในใจนึกอยากจะฟาดฝ่ามือใส่คนพูดสักฉาด! โดยไม่รอฟังคำตอบเยี่ยฉวนโน้มตัวลง แตะริมฝีปากอุ่นลงบนริมฝีบางอ่อนนุ่มของทัวป้าเหยียนอย่างรวดเร็ว ทำเอาหญิงสาวถึงกับสะดุ้งเฮือกตัวแข็งทื่อ!
ครู่เดียว ชายหนุ่มขยับริมฝีปากออกห่างจากนั้นค่อยเคลื่อนไปหยุดที่ข้างหูของอีกฝ่าย เสียงกระซิบดังมาว่า “ยาครั้งก่อนนั่น เจ้าได้มายังไง?” ได้ยินอย่างนี้เข้าอีกฝ่ายถึงกับสะอึก “……”



