Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 497

Yi Jian Du Zun
BC

บทที่ 497 ขี้คร้านจะฟังเรื่องไร้สาระของเจ้าอีกแล้ว! (ต้น)

C

……

เหนือชั้นกว่า!……

……

พวกจอมยุทธ์เจ้าถิ่นในแผ่นดินชิงหาใช่คู่ต่อสู้ของพวกที่มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่ ทันทีที่ลงมือฝ่ายหลังจึงเหนือชั้นกว่ามากนัก!……

..

ส่วนจอมยุทธ์เจ้าถิ่นในแผ่นดินชิงก็ใช่ว่าพวกมันจะสู้ยิบตาไม่ ทว่าเอาแต่หลบหนี หนีหัวซุกหัวซุน!

ยิ่งพวกมันพยายามหนีมากเท่าไร กลับจะยิ่งถูกไล่ฆ่ามากเท่านั้น

เดิมทีพวกจอมยุทธ์จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์เปรียบเสมือนเหยื่อที่เคยถูกเยี่ยฉวนและกองกำลังขุนศึกเต๋าแห่งฉางหลานไล่ล่า ทว่าตอนนี้พวกเขาเปลี่ยนมาอยู่ในฐานะผู้ล่าบ้าง

บริเวณหน้าประตูเมืองจึงมีเสียงร้องโหยหวนดังระงม

เข้าตาจน!

จอมยุทธ์แผ่นดินชิงตกอยู่ในสถานการณ์เข้าตาจนเสียแล้ว!

ด้วยพวกมันหาใช่คู่ต่อสู้ของจอมยุทธ์จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งความกล้าแกร่งของทั้งสองฝ่ายยังผิดแผกแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด

ในขณะนั้นเองพวกเขาจึงประจักษ์แจ้งว่าที่แท้จอมยุทธ์จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์พากันบุกเข้ามาในแผ่นดินชิงมิได้มีเป้าหมายเพื่อเอาชีวิตเยี่ยฉวนอีกต่อไป ทว่ามาเพื่อเอาชีวิตพวกเขานั่นเอง ถึงกระนั้นพวกเขายังมีความหวังลมๆ แล้งๆ ว่าถ้าเยี่ยฉวนไปแล้ว ความสงบสุขจะกลับคืนสู่แผ่นดินชิง

เวรกรรมเหลือเกินที่การจากไปของเยี่ยฉวนกลับยิ่งทำให้จอมยุทธ์กระทำไร้ศีลธรรมมากขึ้น

ทันทีที่กองทัพจอมยุทธ์บุกผ่านเข้าเมืองมาได้ เมืองหลวงแคว้นเจียงก็ตกอยู่ในเงื้อมมือของคนพวกนั้นไปโดยปริยาย

ณ เชิงเขาฉางหลาน มีจอมยุทธ์จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์มารวมตัวกันขณะนั้นสายตาทุกคู่จับจ้องมองไปบนยอดเขา ไม่มีใครกล้าย่างกรายขึ้นไป

“ถล่มฉางหลานเลยไหม?” เสียงใครคนใดคนหนึ่งพูดขึ้น

ชายวัยกลางคนท่าทางจะเป็นหัวหน้ากลุ่มหันไปมองทางหุบเขานิ่งไปพักใหญ่ ในที่สุดเขาก็สั่นศีรษะ “คนกล้าแกร่งไม่พอต้องน่าเลื่อมใสด้วย กลับกันเถอะ!”

ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงยกโขยงกันกลับไป

ฉางหลานยุบสถานศึกษา เยี่ยฉวนหายตัวไปและการหวนกลับมายังแผ่นดินของสำนักมารอสูรและสำนักมารภูตผี ก่อให้เกิดการจลาจลขึ้นทั่วทั้งแผ่นดินชิงอีกครั้ง

เมื่อปราศจากกฎระเบียบ จึงเกิดความสับสนวุ่นวายขึ้นในจิตใจของชาวเมือง มิหนำซ้ำยังถูกกองกำลังต่างแดนรุกรานอย่างป่าเถื่อน แผ่นดินชิงยามนี้จึงสุดแสนวุ่นวายและสับสน

สถานที่ที่ยังพอจะมีความสงบเห็นจะมีเพียงแคว้นหนิงและอาณาจักรต้าอวิ๋นเท่านั้น

อย่างไรก็ตามสองแคว้นดังกล่าวมีการจัดแนวป้องกันชายแดน โดยเฉพาะแคว้นหนิง ฮ่องเต้หญิงทัวป้าเหยียนเรียกประชุมจอมยุทธ์จากทั่วแคว้นหนิงมารวมตัวกันที่เมืองหลวง เพื่อทุกคนจะได้ตั้งรับเป็นกลุ่ม และด้วยสิบสองมนุษย์ทองคำซึ่งได้รับจากเยี่ยฉวนมานี้ ต่อให้แคว้นหนิงถูกจู่โจมโดยคนในขั้นพลังควบยุทธ์สะท้านภพระดับแท้จริง แคว้นจะมีศักยภาพพอที่จะป้องกันตนเองได้

ยิ่งไปกว่านั้นใครต่างก็รู้ว่าเบื้องหลังแคว้นหนิงยังมีเยี่ยฉวน!

ดังนั้นใครก็ตามที่คิดจะบุกเข้าครอบครองแคว้นหนิงจะต้องคำนึงถึงคนชื่อเยี่ยฉวน เพราะเขายังไม่ตาย!

นอกจากแคว้นหนิง อาณาจักรต้าอวิ๋นได้จัดแนวป้องกันชายแดนด้วยเช่นเดียวกัน เพราะคงเป็นไปไม่ได้ที่เหลียนว่านลี่คนเดียวจะปกป้องอาณาจักรต้าอวิ๋นได้อย่างทั่วถึง

ถึงกระนั้นไม่มีกลุ่มอำนาจหรือใครก็ตามอยากปะทะกับนาง ด้วยนอกจากพลังอันแกร่งกล้าแล้วนางยังมีสายสัมพันธ์กับเยี่ยฉวนด้วย ดังนั้นภายหลังจากที่เหลียนว่านลี่จัดกำลังป้องกันแนวชายแดน ก็หาได้มีผู้ใดรุกล้ำอาณาจักรของนางไม่ อีกทั้งไม่ต้องการให้เกิดปัญหากับคนอย่างนางด้วย

แผ่นดินชิงกว้างใหญ่ ฉะนั้นจึงอย่าไปท้าทายกลุ่มอำนาจบางกลุ่มโดยไม่จำเป็น!

ในแผ่นดินชิงมีประเด็นสำคัญที่ต้องคำนึงถึง ถ้าสิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับเยี่ยฉวนย่อมหมายถึงการอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ยกตัวอย่างเมืองชิงในแคว้นเจียงบ้านเกิดของเยี่ยฉวน พวกจอมยุทธ์จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จึงไม่บุกเข้าไปทำลาย

ไม่มีใครอยากกระตุ้นเยี่ยฉวนให้เกิดความขุ่นเคืองในอารมณ์

ทว่ามีหลายแห่งที่ผู้คนยังรู้สึกยินดีเมื่อเยี่ยฉวนประกาศยุบสถานศึกษาฉางหลานเสียได้ เพราะเชื่อว่าตราบใดที่ฉางหลานถูกยุบ สำนักผู้ตรวจการเขตแดนและจอมยุทธ์ต่างแดนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์คงจะเคลื่อนย้ายออกจากแผ่นดินชิงเข้าสักวันหนึ่ง……

แต่แล้ว……คนในบางพื้นที่กลับพบว่าแม้เยี่ยฉวนจะยุบสถานศึกษาฉางหลานแล้ว จอมยุทธ์จากติดแดนศักดิ์สิทธิ์ก็มิได้เคลื่อนย้ายออกจากแผ่นดินชิงแต่อย่างใด ตรงกันข้ามดูเหมือนว่าพวกมันจะยิ่งกระทำปล้นแผ่นดินชิงอย่างรุนแรงมากขึ้น ยิ่งสร้างความโกรธเคืองในตัวเยี่ยฉวนให้เกิดกับพวกเขามากขึ้นด้วย

ในความคิดของพวกเขา ถ้าไม่เพราะเยี่ยฉวนที่ออกมาต้านทานคนเหล่านี้ เหล่าจอมยุทธ์ต่างแดนคงจะไม่ถึงกับโมโห นี่เป็นเพราะเยี่ยฉวนที่ต้านทานจนทำให้จอมยุทธ์ต่างแดนโกรธเคือง ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพราะเยี่ยฉวนคนเดียว……

แม้ว่าเยี่ยฉวนจะยุบสถานศึกษาฉางหลานและหายตัวไป ความคิดของจอมยุทธ์เจ้าถิ่นในแผ่นดินชิงก็ยังคงให้เยี่ยฉวนตกเป็นแพะรับบาปต่อสถานการณ์ในแผ่นดินชิงจนได้อยู่ดี

ขณะนั้นเยี่ยฉวนออกจากแคว้นเจียงไปแล้วอย่างเงียบเชียบ เขากำลังมุ่งหน้าลงไปทางตอนใต้ของแผ่นดินชิง

ตลอดเส้นทาง หากได้พบเจอว่าจอมยุทธ์ต่างแดนที่มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใครก็ตามที่กระทำชั่วร้าย ชายหนุ่มจะจัดการทันทีโดยไม่มีข้อแม้

อย่างไรก็ตามเขาจะไม่คิดการใหญ่เพื่อมุ่งหวังปกป้องแผ่นดินชิงอีกต่อไป

ตอนที่สตรีลึกลับจะจากไปนั้นนางเคยพูดกับเขาประโยคหนึ่งว่า “ทำในสิ่งที่เจ้าสามารถทำได้”

ทว่าเขาไม่อาจปกป้องโลกใบนี้

ยิ่งไปกว่านั้นผู้คนบางส่วนกลับมองไม่เห็นค่าที่เขาอุตส่าห์สู้ปกป้องด้วยชีวิตของคนคนหนึ่ง ดังนั้นเยี่ยฉวนที่ไม่ใช่พ่อพระ..จะให้เขาทำดีกับคนที่มาร้ายนั้นย่อมทำไม่ได้!

คนที่ประนามข้า สาปแช่งข้าให้ตายและยังจะให้ข้าปกป้องพวกมันอีกงั้นหรือ?

ไม่แน่หรอกว่าคนที่เป็นพ่อพระจะทำได้ ถึงอย่างไรเขาทำไม่ได้แน่

เยี่ยฉวนทำให้กับแผ่นดินนี้อย่างดีที่สุดแล้ว เขาเคยต้านทานจอมยุทธ์จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทว่าไม่อาจต้านทานความเห็นแก่ได้และความละโมบของจอมยุทธ์เจ้าถิ่นในแผ่นดินชิงเอง

สำหรับเขาสิ่งที่ทำลงไปเพื่อปกป้องคนที่ควรค่าแก่การปกป้อง

ในตอนนี้จุดหมายปลายทางของเยี่ยฉวนไปที่หุบเขาหนานเหลียน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของแผ่นดินชิง

ด้วยยอดยุทธ์ชั้นที่สองร้องขอให้เขาไป

ที่นั่นมีกฎแห่งเต๋า!

ช่วงที่ยอดยุทธ์ชั้นสองหนีออกไปนั้น บางครั้งเขาต้องต่อสู้กับสำนักผู้ตรวจการเขตแดนพร้อมกับตามหากฎแห่งเต๋าไปพร้อมกัน

ไม่สิ ต้องบอกว่าการต่อสู้ของยอดยุทธ์ชั้นสองแต่ละครั้งทำเพื่อตนเอง! ด้วยอีกฝ่ายอยากพ้นไปจากหอคอยโดยเร็ว จึงต้องค้นหากฎแห่งเต๋าลำดับที่สองให้พบโดยเร็ว

และตัวเขาเองก็อยากจะค้นหากฎแห่งเต๋าลำดับสองให้พบโดยเร็วเช่นกัน เพื่อใช้ในการควบคุมหอคอยแห่งเรือนจำ!

นอกจากนั้นด้วยกฎแห่งเต๋าลำดับสองที่ว่านี้ เขาอาจเปิดใช้งานหอคอยชั้นสามได้!

ถึงแม้จะมีกับดักที่มีอันตรายร้ายแรงอย่างยิ่งภายในหอคอย แต่ถ้าสิ่งนั้นถูกควบคุมอย่างดี……บางทีมันอาจกลายเป็นตัวช่วยที่เปี่ยมไปด้วยพลังก็เป็นได้!

ดูอย่างยอดยุทธ์ชั้นสองนั่นไง ถึงแม้จะดูโหดร้าย สิ่งนั้นได้ช่วยเหลือเขาไว้ไม่น้อยทีเดียว!

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!