Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 498

Yi Jian Du Zun
BC

บทที่ 498 ขี้คร้านจะฟังเรื่องไร้สาระของเจ้าอีกแล้ว! (ปลาย)

C

……

เยี่ยฉวนเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น เป้าหมายแรกของเขาคือการพัฒนาขั้นพลัง ถ้าไม่มีพลังจากหอคอยแห่งเรือนจำ แต่มีความสามารถถึงขั้นกำจัดยอดฝีมือขั้นควบยุทธสะท้านภพระดับแท้จริงได้คงดีไม่น้อย……

……

ต่อมาไม่นานเยี่ยฉวนได้ควบไปบนหลังม้าศึกเพลิงโลกันตร์มุ่งหน้าไปยังเทือกเขาสูงตระหง่าน ด้วยความเร็วประดุจกระแสลมกระโชกรุนแรงก็ปาน……

..

ภายในหอคอยแห่งเรือนจำ มีเสียงกระหน่ำตีดังต่อเนื่องตลอดเวลาซึ่งตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ายอดยุทธ์ที่อยู่บนชั้นสองกำลังทำอะไร……

อย่างไรเสียเขาไม่อยากไปรบกวนบางสิ่งบนนั้น ด้วยนับตั้งแต่กลับคืนมาเขาพบว่าบางสิ่งบนนั้นอารมณ์บูดยิ่งกว่าเดิม

โดยเฉพาะช่วงนี้สตรีลึกลับจากไปแล้ว เขายิ่งไม่กล้ารบกวนเลย ด้วยตนเองไม่มีปัญญาสยบเจ้าสิ่งนั้นนั่นเอง!

สิ่งที่ทำได้ในเวลานี้คือไม่ทำตัวให้เป็นที่สนใจ!

เยี่ยฉวนเร่งสปีดเต็มพิกัด ทว่าทันทีที่เขาพุ่งผ่านป่าทึบแห่งหนึ่งนั้นเอง บรรยากาศพลันเปลี่ยนแปลงวูบพร้อมกับพลังกดดันหนักหน่วงแผ่ออกโดยรอบครอบคลุมไว้ทั้งตัว

เปรี้ยง!

ฉับพลันร่างม้าศึกเพลิงโลกันตร์แตกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันที ส่วนตัวคนถูกพลังผลักจนต้องถอยกรูดอย่างต่อเนื่อง ระยะทางที่เยี่ยฉวนถอยห่างไปไกลเป็นหลายลี้!

เมื่อชายหนุ่มชะงักหยุดลง ณ จุดที่เขาเคยอยู่เดิมปรากฏชายคนหนึ่งสวมผ้าคลุมสีดำโดยผ้าคลุมทั้งใบหน้าและร่างกายไว้ทั้งหมด จนเยี่ยฉวนไม่สามารถสังเกตเห็นโฉมหน้าของอีกฝ่ายได้แม้แต่น้อย

ยอดฝีมือขั้นควบยุทธ์สะท้านภพระดับแท้จริง!

ชายสวมผ้าคลุมดำค่อยๆ ยกฝ่ามือข้างขวาขึ้น พลันต่อมาอากาศที่อยู่รอบตัวเยี่ยฉวนบังเกิดอากาศหมุนบิดเป็นเกลียวหลายชั้น ราวกับลมหมุนบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นภาพที่น่าประหวั่นพรั่นพรึงยิ่งนัก

เยี่ยฉวนสะบัดมือทั้งสองข้างพลันปรากฏกระบี่เล่มหนึ่ง ครู่ต่อมาเขาใช้มือทั้งสองกุมด้ามกระบี่ไว้มั่นก่อนตวัดฟาดลงไปอย่างรุนแรง

เปรี้ยง!

สิ้นเสียงระเบิดดังกัมปนาท ร่างของเยี่ยฉวนผงะถอยหลายครั้งติดต่อกัน เมื่อเขาหยุดนิ่งลงพลันต้นไม้ใหญ่หลายสิบต้นในละแวกเกิดแปรเปลี่ยนป่นเป็นผุยผงไปทันที

ชายหนุ่มเบนหน้าไปยังชายสวมผ้าคลุมดำซึ่งไม่ห่างไกลนัก ขณะนั้นร่างของคนตรงข้ามแปรเปลี่ยนเลือนลางดุจภาพลวงตา เมื่อเห็นเข้าสีหน้าของเยี่ยฉวนกลายเป็นเคร่งขรึม ฉับพลันนั้นพลังปณิธานกระบี่แผ่วาบคลุมร่างของเขาไว้

พลังปณิธานกระบี่คุณธรรม!

ในขณะที่พลังปณิธานกระบี่คุณธรรมปรากฏ ฝ่ามือปริศนาฟาดเข้ามาเหนือศีรษะของเยี่ยฉวนทว่าถูกสกัดไว้ด้วยพลังปณิธานกระบี่คุณธรรม อย่างไรก็ตามด้วยความที่พลังฝ่ามือของชายสวมผ้าคลุมดำซึ่งกดลงมาอย่างรุนแรงหนักหน่วง ต่อมาไม่นานพลังปณิธานกระบี่จึงแตกออกและดับวูบ และร่างของเยี่ยฉวนหงายหลังลอยละลิ่วห่างออกไปเป็นหลายจั้ง!

ยามนี้ที่มุมปากปรากฏคราบโลหิตไหลเลอะ

ขั้นพลังควบยุทธ์สะท้านภพระดับแท้จริง!

จากนั้นเยี่ยฉวนยกหลังมือปาดเช็ดโลหิตที่มุมปาก สีหน้าท่าทางองอาจนัก

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาประมือโดยตรงกับคนขั้นควบยุทธ์สะท้านภพระดับแท้จริง เยี่ยฉวนรู้สึกได้ถึงความห่างชั้นระหว่างเขาและยอดฝีมือแข็งแกร่งขั้นพลังควบยุทธ์สะท้านภพระดับแท้จริง ความห่างชั้นอย่างมีสาระสำคัญที่ต่อให้อาวุธยุทโธปกรณ์ก็ไม่อาจใช้เติมเต็ม!

หลังจากนิ่งงันกันไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเยี่ยฉวนกระโดดขึ้นไปบนอากาศประดุจนกกระเรียนขาวทะยานสู่ท้องฟ้า กระบี่ในมือสั่นพลิ้วอย่างรุนแรงขณะที่แรงผลักดันแห่งกระบี่ไหลหลั่งเป็นกระแสเชี่ยวกราก!

แรงผลักดันพุ่งวาบนำหน้ากระบี่!

เบื้องล่างชายสวมผ้าคลุมดำหัวจรดเท้ายืนมองเงียบๆ ถึงแม้แผ่นพื้นพสุธาที่อยู่รอบบริเวณจะโยกคลอนรุนแรงปานใด ทว่าเขายังคงนิ่งเฉยอย่างใจเย็น!

แรงผลักดันพุ่งมาที่เหนือศีรษะ เขายกมือข้างขวาก่อนผลักขึ้นไปอย่างนิ่มนวล

ตู้ม!

ช่องอากาศทั้งมวลสะท้านสะเทือน อีกทั้งพลังแรงผลักดันแห่งกระบี่ที่เยี่ยฉวนผลักออกเมื่อครู่หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย พลันต่อมาชายหนุ่มตวัดกระบี่ในมือฟันลงตรงหน้าครั้งหนึ่ง

ตลอดแนวยาวของคมกระบี่นั้นเอง พลังปณิธานกระบี่ดำทะมึนแผ่กระจายออกมา

พลังปณิธานกระบี่มาร!

ในเวลาเดียวกันชายสวมผ้าคลุมดำเผยฝ่ามือข้างขวา จากนั้นจึงกางนิ้วและขยุ้มอากาศเบื้องหน้ามาจากระยะไกล ทันใดนั้นช่องอากาศตรงหน้าเยี่ยฉวนบังเกิดอากาศปรวนแปร กระบี่ก็ดูเหมือนจะติดอยู่กับที่ ไม่สามารถขยับพุ่งไปข้างหน้าได้แม้แต่นิ้วเดียว

ชายหนุ่มส่งเสียงคำราม พร้อมใช้มือทั้งสองฉวยด้ามกระบี่กำแน่นก่อนจะทิ้งน้ำหนักกดลงไปอย่างแรง

พลังปณิธานกระบี่มารระเบิดออกในชั่วพริบตา!

เปรี้ยง!

เหตุการณ์ในอากาศที่เกิดขึ้นน่าอกสั่นขวัญแขวน ร่างของชายสวมผ้าคลุมดำกระถดถอยหลังอย่างต่อเนื่องไปหลายสิบก้าว!

ถึงกระนั้นฝ่ายเยี่ยฉวนก็ถอยร่นไปจากที่เดิมเช่นกัน!

คนสวมผ้าคลุมดำตลอดร่างไม่ได้ขยับเคลื่อนไหวอีก ขณะยกฝ่ามือข้างหนึ่งของตนขึ้นพิจารณาด้วยปรากฏรอยโลหิตสดไหลอาบ

คมกระบี่ของเยี่ยฉวนทำลายผิวหนังบริเวณนั้น!

ฝ่ายชายสวมผ้าคลุมดำตลอดร่างนิ่งเงียบไปนาน จึงเอ่ยกับเยี่ยฉวนว่า “คนหนุ่มที่บรรลุกฎเต๋าช่างน่าอัศจรรย์นัก! หาได้ยากและสมควรได้รับการยกย่อง ทว่าน่าเสียดายที่ต้องกลายเป็นศัตรูของสำนักผู้ตรวจการเขตแดน เจ้ามันอาจเอื้อมเกินตัวนัก!”

เสียงที่ชายสวมคลุมดำเปล่งออกมานั้นแหบต่ำ ย่อมเป็นที่ชัดเจนว่าเขาเจตนาทำให้เป็นเช่นนั้น

หลังจากพูดแล้วพลันผู้พูดขยับจะจู่โจมนั้นเอง พลันเยี่ยฉวนซึ่งอยู่ไม่ห่างกันมากนักบิดมุมปากยิ้มและพูดว่า “เจ้าไม่ใช่คนของสำนักผู้ตรวจการเขตแดน ถ้าจะให้เดาเจ้าคือซือถูหมิงใช่ไหม?”

คนตรงข้ามหยุดนิ่ง ครู่ต่อมาเขาจึงถอดผ้าคลุมสีดำออกเผยให้เห็นว่าที่แท้คือซือถูหมิงจริงๆ

ชายชรามองเยี่ยฉวนด้วยสายตาเฉยชา “เจ้ารู้ได้ยังไงว่าเป็นข้า?”

ชายหนุ่มตอบยิ้มๆ “ถ้าเป็นสำนักผู้ตรวจการเขตแดนมาฆ่าข้าจริง พวกมันต้องลงมือโดยเปิดเผย หรือไม่ก็ส่งคนอื่นมาจัดการข้าแทน และนอกจากสำนักผู้ตรวจการเขตแดนแล้วมีเพียงตระกูลซือถูของเจ้าที่ปรารถนาจะให้ข้าตาย เพราะไม่อยากให้ข้าแพร่งพรายเรื่องที่เจ้าร่วมมือกับข้าเพื่อบีบสำนักผู้ตรวจการเขตแดนถูกไหม?”

ซือถูหมิงเขม้นสายตามองคนพูดเขม็ง “เจ้าฉลาดกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก!”

เยี่ยฉวนจึงพูดอีกว่า “ซือถูหมิง เจ้ารู้ไหมว่าเพราะเหตุใดสำนักผู้ตรวจการเขตแดนจึงไม่อยากลงมือฆ่าข้าเอง?”

ขณะที่ชายหนุ่มหยุดนิดหนึ่งและทำท่าจะเอ่ยออกไปอีกนั้น พลันซือถูหมิงส่ายหน้าเป็นเชิงห้ามไว้ “ข้าไม่อยากรู้ ข้ารู้แต่ว่าขี้คร้านจะฟังเรื่องไร้สาระของเจ้าอีกแล้ว มิเช่นนั้นข้าเกรงว่าจะไม่ยอมลงมือฆ่าเจ้าเสียทีไงล่ะ”

ว่าแล้วคนพูดทะยานเข้าหาเยี่ยฉวนตรงหน้าทันที

ชายหนุ่มชะงักงันยืนนิ่ง “……”

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!