บทที่ 595 นั่นใคร!
เมื่อเห็นฝ่ายผู้ทรงเกียรติลู่เปิดฉากจู่โจม เยี่ยฉวนแสยะปากยิ้มหยันพลันเตรียมตั้งท่าจะออกปะทะ ขณะเดียวกันเฉินเป่ยฮั่นขยับออกมายืนขวางอยู่เบื้องหน้า
คนที่ออกมาเขม้นมองผู้ทรงเกียรติลู่ ริมฝีปากเผยรอยยิ้มเย็นเยียบ “ผู้ทรงเกียรติลู่ ออกจะน่าละอายไปสักหน่อยทำตัวเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก อย่างเจ้าต้องเจอกับข้า!”
จากนั้นคนพูดขยับเท้าออกไป ขณะเดียวกันก็เผยฝ่ามือพร้อมกับชี้ไปข้างหน้า
ฟิ้ววว!
กระบี่บินพุ่งออกจากชายแขนเสื้อ
กระบี่บินมีความเร็วปานวิถีกระสุนรวดเร็วเกินพิกัดที่เยี่ยฉวนจะสามารถจับภาพได้ทัน!
เซียนกระบี่!
เยี่ยฉวนตะลึงงัน ต้องอย่างนี้สิจึงเรียกกว่ากระบี่บินของจริง!
คนตรงข้ามเฉินเป่ยฮั่น ฝ่ายนั้นสะบัดฝ่ามือยกขึ้นโบกเบาๆ พลันเกิดคลื่นลมแผ่เป็นแผงขวางกั้นอยู่ตรงหน้า
ตูม!
ฉับพลันทั้งผืนฟ้าและพสุธาบังเกิดการสั่นไหว
ขณะที่กระบี่บินของเฉินเป่ยฮั่นถูกขวางไว้ ไม่สามารถทะลุทะลวงต่อไป!
เฉินเป่ยฮั่นมองเขม้นปราการน่าประหลาดซึ่งขวางอยู่เบื้องหน้าผู้ทรงเกียรติลู่ ครู่หนึ่งที่มุมปากบิดยกยิ้ม “เท่าที่ข้าสังเกตดู นี่สินะโล่ประสานพลัง ‘กำบังทะลวง’ ของเจ้า!”
ผู้ทรงเกียรติลู่มองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชา “เอาละ ถ้าพวกเจ้าสำนักชางเจี้ยนยอมส่งตัวเยี่ยฉวนให้ข้าดีๆ พวกเราสองสำนักก็จะยังอยู่อย่างสันติ แต่ถ้าเจ้าอยากปกป้องเขาจริงๆ ข้าก็จะจัดการฝังเจ้าทั้งหมดไปพร้อมมันก็แล้วกัน!”
เฉินเป่ยฮั่นระเบิดเสียงหัวเราะ “คิดว่าข้าอายุปูนนี้แล้วจะกลัวคำขู่ของเจ้าหรือไง?”
คนตรงข้ามจ้องเขม็ง “ในเมื่อไม่กลัว ข้าก็จะช่วยเมตตาฝังกลบให้!”
จากนั้นกลุ่มคนราวสิบกว่าชีวิตก็ปรากฏตัวขึ้นรอบบริเวณ
ทุกคนล้วนแต่มีขั้นพลังควบยุทธ์สะท้านภพระดับแท้จริงทั้งสิ้น!
ด้านหลังเฉินเป่ยฮั่นมีคนราวสิบเจ็ด ซึ่งมีบางคนที่เยี่ยฉวนคุ้นหน้าคุ้นตาอย่าง จ้านเถี่ย อาจารย์กู่ เยว่ฉี ฉางเสวี้ยน และยังมีอีกหลายคนที่เขาไม่รู้จัก
อย่างไรก็ตามคนทั้งหมดที่จริงล้วนเป็นยอดฝีมือขั้นพลังควบยุทธ์สะท้านภพระดับแท้จริงทั้งสิ้น!
ทว่าเมื่อเห็นคนเหล่านั้นเยี่ยฉวนสีหน้าสลดวูบ ด้วยเมื่อมองไปไม่พบอาจารย์เจี้ยนซ่วนร่วมในกลุ่มคนเหล่านี้!
ผู้ทรงเกียรติลู่เปล่งวาจาท้าทายเจ้าสำนักเฉินเป่ยฮั่นดังลงมาจากบนอากาศ “เข้ามาเลย แสดงให้ข้าเห็นสิว่าหลายปีมานี้พวกเจ้าก้าวหน้าไปแค่ไหนแล้ว เจ้ามหาเซียนกระบี่!”
เฉินเป่ยฮั่นหัวเราะหึ “ได้ เดี๋ยวจัดให้!”
หลังจากนั้นร่างคนกลายเป็นลำแสงกระบี่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเบื้องบน!
ส่วนคนที่ยังอยู่ข้างล่าง เยว่ฉีหันหน้าไปมองเยี่ยฉวน เสียงนางตะโกนบอกเร่งด่วน “ถอยไป!”
หากชายหนุ่มท่าทีลังเลยืนเก้กังอยู่กับที่ทั้งขยับจะอ้าปาก ทันใดนั้นเยว่ฉีตวาดมาอีกครั้ง “ออกไป!”
คราวนี้เสียงกระด้างสั่งเฉียบขาด
เยี่ยฉวนบิดยกมุมปาก “ขอรับ!”
จากนั้นคนหันหลังและหลบออกไปทันที
คนกลุ่มที่อยู่บนอากาศ กลุ่มคนของสำนักผู้ตรวจการเขตแดนทะยานออกไล่ตามเยี่ยฉวนไปทันที ทว่าไม่นานต่อมาเยว่ฉีและพวกโดดเข้าขวางทางกลุ่มพวกนั้นไว้
ศึกใหญ่เริ่มแล้ว!
เบื้องบนเหนือมวลเมฆา ผู้ทรงเกียรติลู่และเฉินเป่ยฮั่นเผชิญหน้าอยู่ในระยะไกล สองฝ่ายต่างคนต่างสีหน้าเรียบเฉย
พลันฝ่ายผู้ทรงเกียรติลู่เผยฝ่ามือพร้อมผลักออก ทันใดนั้นก้อนเมฆจำนวนมากที่อยู่ใต้ล่างไหลหลากเข้าสู่ฝ่ามือคนอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานก้อนเมฆบิดเป็นเกลียวกลายเป็นกระแสหมุนวน
ฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ไกลออกไป เฉินเป่ยฮั่นขยับนิ้วมือข้างขวากำเข้าหากันทั้ง นิ้วโป้ง นิ้วกลางและนิ้วก้อย พลันต่อมาเสียงแห่งกระบี่กรีดดังออกจากชายแขนเสื้อ!
ผู้ทรงเกียรติลู่คำรามเสียงลั่น “เข้ามา เผยกระบี่ที่เจ้าซ่อนไว้ออกมา!”
หลังจากนั้นคนพูดค่อยดันฝ่ามือข้างขวาขึ้นด้านบน ต่อมาก้อนเมฆมหึมาซึ่งเป็นกระแสลมหมุนคว้างหดกลับโดยฉับพลันและแปรเปลี่ยนกระแสลมหมุนเป็นฝ่ามือยักษ์ ทันใดนั้นเขาสะบัดพลิกฝ่ามือตบไปยังเฉินเป่ยฮั่นอย่างรุนแรง
ขณะที่ฝ่ามือกระชากออกไปนั้น ชั้นบรรยากาศในรัศมีหลายพันลี้บังเกิดเปลี่ยนแปลงพร่าเลือนทันที ในขณะเดียวกันก้อนเมฆฝ่ามือยักษ์ก็พุ่งทะยานผ่านอากาศมาอย่างรวดเร็ว!
ความเร็วเหนือแสง!
ยิ่งกว่านั้นชั้นบรรยากาศบริเวณที่ก้อนเมฆฝ่ามือยักษ์กวาดผ่าน พลันบิดม้วนเป็นเกลียวดุจปาท่องโก๋บิดเกลียวถูกทอดด้วยน้ำมันร้อนๆ!
คนที่อยู่ทางฟากตรงกันข้ามกับผู้ทรงเกียรติลู่ เฉินเป่ยฮั่นสะบัดมือออกไปข้างหน้า พลันสิ่งหนึ่งออกจากปลายแขนเสื้อ กระบี่เล่มหนึ่งทะยานวาบออกมาโดยปรากฏให้เห็นเป็นแนวลำแสง–
ชริ้งงงง!
เสียงกระบี่กรีดก้องสะท้านฟ้า ในเวลาเดียวกันลำแสงแห่งกระบี่ปะทะกับสายลม ณ ขณะหนึ่งแสงจากกระบี่กระจายวาบคลุมครอบไปทั่วท้องนภา!
ตูม!
เสียงระเบิดสนั่นดังน่ากลัวสะเทือนไปทั้งฟ้า ส่งให้ชั้นบรรยากาศในรัศมีหลายพันลี้สั่นหวั่นไหว ประหนึ่งท้องฟ้ากำลังจะแหลกสลายลงไปตรงนั้น ทั้งน่าหวาดกลัวเกินจะบรรยาย!
การปะทะของคนผู้ทรงพลังอย่างแท้จริง!
ณ สถานที่แห่งหนึ่งเยี่ยฉวนหยุดแหงนหน้ามองด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่มปานสุมเพลิง
ขณะนั้นเขาตระหนักแน่แก่ใจแล้วว่าผู้ทรงเกียรติลู่เป็นคนที่กล้าแกร่งชนิดหาตัวจับยาก จึงไม่มีทางเป็นไปได้ที่ตนจะอาจหาญไปสู้กับคนคนนี้ด้วยพลังเท่าที่มี
และเป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสการต่อสู้เช่นนี้!
คนซึ่งมีพลังแข็งแกร่งอันอาจทำลายโลกทั้งใบให้แหลกเป็นผุยผง!
แม้ว่าเยี่ยฉวนจะเคยเห็นการจู่โจมของสตรีลึกลับ ทว่าทุกครั้งที่นางเคลื่อนไหวไม่ได้ก่อให้เกิดแผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่นปานจะแตกสลาย มีเพียงการแสดงออกทางอากัปกิริยาเท่านั้น!
บนท้องฟ้าเหนือมวลเมฆา เฉินเป่ยฮั่นหยุดชะงักขณะสายตาจ้องเขม็งไปยังผู้ทรงเกียรติลู่ฟากตรงกันข้าม เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “พลังฝ่ามือสยบฟ้าดิน เข้าท่าดี!”
หากสีหน้าของฝ่ายตรงข้ามเรียบนิ่งยากจะเดาใจ “หลายปีมานี่ เพลงกระบี่ของเจ้าก้าวหน้าไปไม่น้อย”
เฉินเป่ยฮั่นแหงนหน้าเปล่งเสียงหัวเราะ “สู้ต่อ!”
จากนั้นคนพูดก้าวเท้าออกไป และในทันทีด้านหลังคนปรากฏกระบี่พลังชี่นับร้อยพุ่งวาบออกมา!
ขณะเดียวกันเขาประกบนิ้วมือก่อนจะผลักไปข้างหน้าทางผู้ทรงเกียรติลู่ “ไป!”
สิ้นเสียงของเฉินเป่ยฮั่นกระบี่ชี่นับร้อยทะยานออกไปมุ่งตรงข้างหน้า พลันทุกที่ที่กระบี่พุ่งผ่านก้อนเมฆใหญ่น้อยซึ่งลอยเกลื่อนกลาดพลันฉีกขาดแตกกระจาย ในเวลานั้นลำแสงกระบี่ส่องประกายเจิดจ้าเป็นริ้วรายครอบคลุมทั้งสวรรค์และสุริยัน แม้ผืนฟ้ายังถูกปกคลุมจนมิด!
คนที่อยู่อีกฝั่ง ผู้ทรงเกียรติลู่จับตามองด้วยสีหน้านิ่งเฉยและผลักออกฝ่ามือขวาดันไปข้างหน้า ทันใดนั้นกลางฝ่ามือปรากฏโล่กำบังดุจภาพลวงตา ขณะต่อมานั้นเองโล่กำบังลวงตาทะยานขึ้นเบื้องสูงต้านกระแสลมที่ด้านบน จากนั้นก็สะบัดสูงขึ้นไปอีกหลายร้อยชุ่นอย่างรวดเร็ว
และที่บริเวณส่วนบนของโล่กำบังลวงตา บังเกิดเป็นระลอกคลื่นประหนึ่งคลื่นในสมุทร!
ทันใดนั้นกระบี่ชี่พุ่งถึงตัวคนพอดี
ตูม!!! ตูม!!! ตูม!!!
เสียงระเบิดดังอึกทึกสะท้อนไปทั้งแผ่นฟ้าอีกครั้ง ในครั้งนี้ยังตามด้วยก้อนเมฆทั่วท้องฟ้าเกิดการไหวโยกอย่างรุนแรง ราวกับชั้นบรรยากาศกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยง!
เสียงระเบิดครั้งหลังสุดดังลากยาวเนิ่นนานก่อนที่ท้องฟ้าดูท่าว่าจะกลับมาสงบเงียบ ทว่าทอดระยะห่างเพียงไม่นานเสียงระเบิดดังก้องขึ้น……
คนที่เฝ้าสังเกตอยู่เบื้องล่าง เยี่ยฉวนสูดหายใจลึก
ยอดฝีมือ!
เพียงเท่านั้นเขาได้ประจักษ์แจ้งแล้วว่าตนยังอ่อนด้อยนัก เขาไม่เคยรู้มาก่อนด้วยไม่เคยพบเคยเห็นยอดฝีมือที่แท้แห่งโลกชิงฉาง จึงหลงผิดมาตลอดคิดว่าตัวแน่!
ความจริงแล้วมิใช่เลย!
พลันต่อมาเยี่ยฉวนรู้สึกว่าโชคช่วยแท้ๆ ที่ไม่ไปท้าสู้กับตาเฒ่าแซ่ลู่ มิเช่นนั้นคงถูกตีจนเละไม่มีชิ้นดีเป็นแน่!
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ดูถูกตัวเอง ด้วยวัยที่ยังหนุ่มแน่นยังมีเวลาอีกมาก ถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่ผู้ทรงเกียรติลู่คนนี้ต่อให้สตรีลึกลับเขาก็สามารถสู้ได้!
คิดเช่นนั้นแล้วเยี่ยฉวนค่อยรู้สึกใจมีความมั่นใจมากขึ้น ประหนึ่งเขาจะไม่มีวันพ่ายแพ้แก่ใครในโลกนี้!
เอาเข้าจริง ในด้านขอบเขตขั้นพลังของสตรีลึกลับอยู่ระดับใดนั้นเขาเองก็จนปัญญาที่จะล่วงรู้!
ชายหนุ่มนิ่งงันพลันฉุกใจคิดอะไรบางอย่าง จึงเพ่งจิตเข้าไปในหอคอยแห่งเรือนจำทันทีจนได้พบว่าอาหลิงวิ่งเข้าไปที่ชั้นบนอีกแล้ว
ดูเหมือนเด็กหญิงกำลังถืออะไรสักอย่างลักษณะเหมือนหีบและส่งเสียงพึมพำอุบอิบอู้อี้ ฟังไม่ถนัดว่านางพูดอะไรแต่สีหน้าแสดงออกชัดว่ากำลังเพลิดเพลิน
ขณะต่อมาเด็กน้อยดูท่าจะรู้สึกถึงความผิดปกติ นางรีบเก็บหีบและเงยหน้าขึ้นพร้อมจ้องตาเป๋งมายังเยี่ยฉวน “ห้ามแอบดู!”
เยี่ยฉวน “……”
จากนั้นไม่นานเยี่ยฉวนจึงตัดสินใจปล่อยให้นางอยู่เพียงลำพัง ยังมีปริศนาเกี่ยวกับเด็กน้อยอีกหลายเรื่องเอาไว้ว่างๆ เขาค่อยมาตะล่อมถามหาคำตอบให้กระจ่างอีกที
ชายหนุ่มแหงนหน้ามองขึ้นไป ที่นั่นกลุ่มคนยอดฝีมือของสำนักผู้ตรวจการเขตแดนและกลุ่มของอาจารย์เยว่ฉีเริ่มการปะทะกันบ้างแล้ว
ถึงแม้คนของสำนักชางเจี้ยนจะน้อยกว่า หากแต่ชายหนุ่มกลับพบว่าพลังการต่อสู้ของสำนักชางเจี้ยนไม่ได้น้อยไปด้วยเลย ใช้คำว่าสูสีทัดเทียมกันก็ว่าได้!
ผู้ฝึกฝนกระบี่!
เป็นที่รู้กันว่าสมรรถนะในเชิงการต่อสู้ของผู้ฝึกกระบี่นั้นแกร่งกล้านัก!
เขาต้องทำอะไรสักอย่าง!
เยี่ยฉวนหันหน้ามองไปรอบบริเวณและคิดที่จะทำอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นดูเหมือนเขาจะคิดขึ้นมาได้ด้วยมุมปากบิดยกยิ้มน้อยๆ อย่างมีความนัย
ไกลออกไปอาจารย์เยว่ฉีกำลังรับมือกับสามคนขั้นควบยุทธ์สะท้านภพระดับแท้จริง สตรีผู้นี้มิได้มีขั้นพลังควบยุทธ์สะท้านภพระดับแท้จริงอย่างเดียว ทว่านางเป็นเซียนกระบี่ด้วย! …จึงเป็นยิ่งกว่ายอดฝีมือ!!
ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่คนในขั้นพลังควบยุทธ์สะท้านภพหนึ่งคนจะต่อกรกับนาง และสามคนขั้นควบยุทธ์สะท้านภพก็ทำได้เพียงต่อสู้กันอย่างชนิดหืดขึ้นคอ!
ในตอนนั้นเองสถานการณ์เมื่อพลิกผัน คนยอดฝีมือคนหนึ่งทางด้านซ้ายมือของเยว่ฉีพลันสีหน้าแปรเปลี่ยน และหมุนตัวกลับกะทันหันซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับกระบี่เล่มหนึ่งสะบัดเข้าที่คอหอยของมัน
ฉัวะ!
ศีรษะของคนยอดฝีมือขึ้นควบยุทธ์สะท้านภพระดับแท้จริงขาดกระเด็นจนปลิวหวือไปในอากาศ!
สังเกตเห็นเช่นนั้น พลันสีหน้าของคนยอดฝีมือควบยุทธ์สะท้านภพที่เหลืออีกสองแปรเปลี่ยนอย่างสิ้นเชิงและทำท่ากระถดถอยห่างพลางหันไปมองรอบๆ ด้วยความระแวดระวัง ทว่ายังไม่เห็นสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด
ครู่หนึ่งทั้งสองเหงื่อกาฬไหลซึมออกมาจนเต็มหน้าผาก
ทันใดนั้นเจ้าคนหนึ่งหันหลังกลับกะทันหัน ทว่าเบื้องหน้าก็ไม่เห็นมีอะไรนอกจากความว่างเปล่า
มันจึงยกมือขึ้นกำหมัดแน่น ขณะตวาดเสียงลั่นท่าทางดุดัน “นั่นใคร! ออกมาสิวะ!”
ไม่มีเสียงตอบ!
จังหวะนั้นเยว่ฉีซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเจ้าคนนั้นนักพลันตวัดกระบี่ฟาดออกไปครั้งหนึ่ง สีหน้าของคนสองคนเผือดซีดจากนั้นพร้อมใจกันหมุนตัวกลับอย่างรวดเร็ว ทว่าทันทีที่คนหันกลับหลังพลันกระบี่ซึ่งมีที่มาไม่แน่ชัดเสือกพรวดเข้าที่ก้านคอของชายชราคนปากดีเมื่อครู่ทันที
ฉึก!
โลหิตแดงฉานพุ่งกระฉูดสาดกระเซ็นเป็นฝอยจากบาดแผลฉกรรจ์ที่บริเวณก้านคอ!



