Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 888

Yi Jian Du Zun
BC

บทที่ 888 : โมโห! (ต้น)

C

ภายในหอคอยแห่งเรือนจำ!

เสียงไม่ได้ดังจากข้างนอก ทว่าออกมาจากภายในหอคอยแห่งเรือนจำ!

ชั้นที่หก!

คนบนชั้นหกตื่นขึ้นมาแล้ว……งั้นหรือ?

เยี่ยฉวนสีหน้าซีดเผือด

จักรพรรดิซิงที่อยู่บนชั้นที่ห้าว่ามีพลังอำนาจมากแล้ว คนบนชั้นที่หกเล่าจะแข็งแกร่งเพียงใด?

ความคิดในแง่ร้ายหลั่งไหลเข้าสู่ห้วงคำนึง

ทันใดนั้นเสียงดังขึ้นอีกครา “กลัวอะไรนักหนา? ข้าไม่ได้จะกินเจ้าสักหน่อย!”

ชายหนุ่มยิ้มแหย “ผู้อาวุโส ท่านตื่นแล้วหรือขอรับ?”

เสียงตอบ “ใช่”

คำตอบทำให้เยี่ยฉวนผ่อนลมหายใจด้วยความโล่งอก คนบนชั้นที่หกท่าทางเป็นคนสบายๆ อยู่หรอก

เสียงจากคนชั้นที่หกพูดต่อว่า “เจ้าลองนึกว่ากระบี่เป็นปลาและนึกว่าตัวเองเป็นน้ำ”

ผู้ฟังเงียบเสียง

ครู่หนึ่งผ่านไปชายหนุ่มจึงเข้าใจในสิ่งที่คนบนชั้นหกพยายามจะสื่อ

เขาไม่อาจทำได้แค่ผลักพลังปณิธานกระบี่ลงในกระบี่ ทว่าควรบูรณาการปณิธานกระบี่ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกระบี่ของตัวเอง!

เยี่ยฉวนทรุดกายลงนั่งบนพื้นและเพ่งทำสมาธิในทันที ทันใดนั้น พลังปณิธานกระบี่ปรากฏออกรายล้อมรอบตัว ต่อมาไม่นานกิ่งไม้ในมือเริ่มสั่นสะเทือนแรงขึ้นๆ

ชายหนุ่มกำลังใช้พลังปณิธานกระบี่สัมผัสกระบี่และบูรณาการเข้ากับกระบี่!

ดังนั้น เวลาจึงค่อยเคลื่อนผ่านไปอย่างช้าๆ ราวหนึ่งชั่วยาม ถัดมากิ่งไม้ในมือของเยี่ยฉวนแปรเปลี่ยนเป็นคลื่นพลังลำแสงแห่งกระบี่ก่อนจะพุ่งออกไปอย่างฉับพลันทันใด

แสงกระบี่พุ่งวาบไร้สุ้มเสียง ก่อนจะวูบหายลับไปที่เส้นขอบฟ้าในชั่วพริบตาเดียว!

ชายหนุ่มยังคงอยู่ ณ ที่เดิม มุมปากบิดยกขึ้นเล็กน้อย

ต่างออกไป!

กระบี่บินในตอนนี้แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง!

มีชีวิต!

ในหอคอยแห่งเรือนจำ เสียงคนที่ชั้นหกดังออกมาอีกครั้ง “ปณิธานกระบี่เป็นสิ่งที่ถอดแบบจากกระบี่และเต๋าแห่งกระบี่ของตนเอง เจ้าควรนำไปใช้ให้ดี”

เยี่ยฉวนฟังแล้วพยักหน้ารับก่อนจะถามออกไปว่า “ผู้อาวุโส ข้าควรพัฒนาความเร็วกับความแข็งแกร่งของกระบี่บินอย่างไรขอรับ?”

คนบนชั้นหกเงียบเสียงไปชั่วขณะก่อนตอบว่า “ปัจจุบันพลังกายาของเจ้าส่งความเร็วและความแข็งแกร่งได้เพียงเท่านี้”

ชายหนุ่มจึงถามกลับ “ท่านหมายถึงว่า ถ้าต้องการพัฒนาทั้งสองด้าน ข้าต้องพัฒนาทางกายก่อนงั้นหรือ?”

เสียงจากคนชั้นหกตอบว่า “ใช่ ทว่ามีทางอื่นเหมือนกัน!”

เยี่ยฉวนรีบถามรวดเร็ว “อะไรหรือขอรับ?”

คนบนชั้นหกกล่าวว่า “ใช้พลังปณิธานกระบี่ของตัวเอง!”

ชายหนุ่ม “โปรดให้ความกระจ่างด้วยขอรับ!”

เสียงคนชั้นหกพูดว่า “เจ้าใช้พลังอะไรกับกระบี่บิน?”

เยี่ยฉวนตอบทันที “พลังชี่ขอรับ!”

ฝ่ายที่บนชั้นหกจึงบอกให้ “เจ้าใช้พลังปณิธานกระบี่กลั่นกระบี่ได้เหมือนกัน”

เมื่อได้ยินคำตอบเยี่ยฉวนถึงกับตะลึงไปทันที จากนั้นผลักออกฝ่ามือพลันต่อมาบนมือปรากฏกระบี่เล่มหนึ่ง

กระบี่ที่กลั่นจากปณิธานกระบี่!

หลังจากที่เยี่ยฉวนกำหนดจิตกระตุ้นกระบี่บนฝ่ามือแล้ว กระบี่บินออกไปอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วพริบตากระบี่ปรากฏอยู่ในระยะไกลออกไปกว่าสามร้อยจั้ง

ชายหนุ่มมองด้วยความตกตะลึง

ว่องไวนัก!

ขณะนี้ความเร็วของกระบี่บินเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าสองเท่าจากความเร็วของกระบี่บินครั้งก่อน!

ตอนนั้นที่คนบนชั้นที่หกพูดขึ้นมาว่า “กระบี่ที่กลั่นมาจากพลังปณิธานกระบี่เปรียบเหมือนแขนของเจ้า เคล็ดวิทยายุทธแตกต่างจากพลังชี่ ไร้สี ไร้รูปและสว่างกว่าพลังชี่ เพราะฉะนั้นหากกระบี่เดินทางผ่านสุญญากาศอาจรวดเร็วยิ่งขึ้น! ถ้านำไปใช้อย่างเหมาะสม……อาจรวดเร็วได้กว่านี้!”

รวดเร็วได้กว่านี้!

เยี่ยฉวนเผยฝ่ามือออกไป ส่งให้ปณิธานกระบี่ปรากฏบนฝ่ามืออีกครั้ง……

จากนั้น ชายหนุ่มเริ่มตั้งหน้าตั้งตาฝึกบ่มเพาะพลังปณิธานกระบี่อย่างแรงกล้า!

อย่างที่คนบนชั้นหกได้บอกไว้ว่า……กระบี่เร็วขึ้นได้จริงๆ!

ก่อนนั้น กระบี่สีขาวและดำของเยี่ยฉวนมาจากการกลั่นเอาพลังปณิธานกระบี่และพลังชี่ แต่ตนได้พบว่าเมื่อปราศจากพลังชี่กระบี่เคลื่อนไหวรวดเร็วกว่า!

ชายหนุ่มไม่ได้เอาใจใส่ต่อพลังปณิธานกระบี่เลย!

ตลอดเวลาเจ้าสิ่งนี้เป็นอะไรที่ละเลยมาตลอด!

ปณิธานกระบี่!

นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเยี่ยฉวนจะมุ่งมั่นเรียนรู้พลังปณิธานกระบี่

เวลาในช่วงนั้นจึงเคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว จวบจนวันที่สิบผ่านไปในชั่วพริบตา

บนยอดเขาสูงชัน กระบี่บินสองเล่มทะยานผ่านเข้ามาในท้องฟ้าภายใต้การควบคุมของเยี่ยฉวน ขณะนั้น ทั่วแผ่นฟ้าปกคลุมด้วยคลื่นพลังแห่งแสงกระบี่มากมายจนนับไม่ถ้วน!

ชายหนุ่มเผยฝ่ามือพลางยื่นออกไป ต่อมาปรากฏกระบี่สองเล่มวางนิ่งอยู่บนนั้น ทั้งสองกระบี่กลั่นจากพลังปณิธานกระบี่ของเขาเอง!

เจ้าตัวบิดยกมุมปากเล็กน้อย เวลานี้กระบี่บินช่างรวดเร็วกว่าแต่ก่อนนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลที่เกิดกับเต๋าแห่งสุญญากาศเพิ่มมากขึ้นกว่า สามในสิบส่วนทีเดียว

การเพิ่มขึ้นถึงสามในสิบส่วน นับเป็นเรื่องที่เขย่าขวัญสั่นประสาทแท้จริง!

นั่นหมายความว่าต่อไปนี้สามารถปะทะซึ่งหน้ากับคนในขั้นพลังก่อเกิดชั้นเนรมิต โดยไม่ต้องลอบจู่โจมอีกแล้ว และมั่นใจว่าตนจะกำจัดฝ่ายตรงข้ามด้วยทักษะกาลสังหาร!

ชายหนุ่มจัดการเก็บกระบี่เรียบร้อยแล้ว ก่อนจะหันหน้ามองไปรอบตัวท่าทีแสดงความแปลกใจด้วยไม่พบชายชราอยู่ในบริเวณนั้น!

อาจารย์รองก็มิได้ปรากฏตัว!

พักใหญ่ เยี่ยฉวนส่ายหน้าเล็กน้อยหมุนตัวกลับแล้วลงจากภูเขา

เขากำลังจะไปพบเยี่ยหลิง!

ชายหนุ่มมาถึงหลายวันแล้วและคนที่คิดถึงที่สุดในเวลานี้คือน้องสาวตัวน้อย!

ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง!

ไม่นาน เยี่ยฉวนมาถึงยังสถานที่ที่ชื่อว่าสถาบันฝึกยุทธ

สถาบันฝึกยุทธตั้งอยู่บนเทือกเขาเทพยุทธ ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของนครอานุภาพ โดยเทือกเขาเทพยุทธและเทือกเขาหวางค่งมีลักษณะเผชิญหน้ากันตั้งแต่ทิศเหนือจรดใต้

เชิงเขาเทพยุทธมีรูปปั้นสตรีตั้งตระหง่าน

รูปปั้นสตรี!

เบื้องหน้ารูปปั้น เยี่ยฉวนหยุดยืนนิ่งงัน

เซียนวิทยายุทธ?

ชายหนุ่มไม่เคยเห็นคนที่เป็นเซียนวิทยายุทธ ทว่าเกิดความข้องใจขึ้นมาว่าคนที่ได้ชื่อว่าเซียนวิทยายุทธนั้นจะเป็นยอดฝีมือสักเพียงใด

พลันนึกอะไรขึ้นมาได้ ชายหนุ่มจึงเอ่ยถามขึ้นในใจว่า “ผู้อาวุโส ท่านเคยพบเซียนวิทยายุทธหรือไม่ขอรับ?”

เขากำลังสนทนากับคนที่อยู่ในชั้นหก

ช่วงนี้เขาพบว่าคนชั้นที่หกดูเหมือนจะเป็นคนง่ายๆ สบายๆ อย่างน้อยจนถึงเดี๋ยวนี้ยังแสดงให้เห็นเช่นนั้น

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเสียงเรียบเฉยตอบกลับว่า “ข้าเคยพบกับเซียนวิทยายุทธสองสามครั้ง ทว่าไม่เห็นว่าพวกเขาจะทำประโยชน์ที่เป็นแก่นสารอันใด ไม่คู่ควรกับฉายาที่ได้รับเลยด้วยซ้ำ”

พลันเยี่ยฉวนเอ่ยยิ้มๆ “ผู้อาวุโส ยอดยุทธ์ชั้นที่ห้าเคยบอกข้าว่าท่านไม่ได้อยู่ในโลกสี่มิติ……งั้นมาจากโลกห้ามิติหรือขอรับ?”

เสียงตอบจากคนที่ชั้นหกว่า “เจ้าคงหมายถึงคนที่มีสภาวะดวงวิญญาณแล้วเข้ามาหาข้าในนี้สินะ?”

เยี่ยฉวนพยักหน้า “ขอรับ!”

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!