บทที่ 900 : เต๋าแรกเริ่ม เต๋ารู้ชะตา เต๋ารู้แจ้ง!
เขาไม่อยากตายเลยสักนิด!
ชายแก่กลับเผยสีหน้าไร้อารมณ์ออกมา “ขออภัย เกรงว่าจะให้คำขอนั้นเป็นจริงไม่ได้!”
เอ่ยจบ กระบี่ในมือพลันถูกชักออกมาจากฝัก
แซ่ด!
เสียงคำรามแห่งกระบี่ดังขึ้น พร้อมวงเสี้ยวจากคลื่นพลังคมกระบี่บังเกิดขึ้นบนอากาศก่อนจะพุ่งไปหาเยี่ยฉวน
กระบี่นี้ว่องไวราวสายฟ้าฟาด รุนแรงราวกับจะผ่าสวรรค์และปฐพีให้แยกจากกัน!
ขั้นไขว่คว้าเต๋า!
ทันทีที่ชายแก่เริ่มเคลื่อนไหว เยี่ยฉวนพลันอับจนหนทางขึ้นมา!
สำนักกระบี่ส่งยอดฝีมือขั้นไขว่คว้าเต๋ามาหาโดยเฉพาะ!
เยี่ยฉวนไม่อาจบุ่มบ่ามได้ ชายหนุ่มดีดตัวไปข้างหน้า ปัดเป่าคลื่นพลังกระบี่ให้พ้นทางด้วยกระบี่ในมือทั้งสองข้าง
ฉ่า!
กระบี่บินออกมาตวัดสะบั้นซึ่งทุกสิ่ง เสียงเสียดหัวพลันเปล่งออกมา
ตูม!
ทันทีที่กระบี่ของเยี่ยฉวนเข้ากระทบ เขาถอยห่างไปหลายสิบจั้งทันที ทว่ากระบี่บินสองเล่มกลับโผล่มาตรงหน้าชายแก่เสียได้!
ชายเฒ่าแสดงสีหน้าไร้อารมณ์ จ้วงกระบี่ไปทางซ้ายและขวา ในพริบตาเดียว กระบี่ของชายหนุ่มซึ่งอัดแน่นด้วยพลังจากกระบี่พลันสลายกลายเป็นฝุ่นผง!
ชายแก่ก้าวไปข้างหน้าพร้อมชี้ปลายกระบี่ไปทางเยี่ยฉวน
ห่างไปหลายสิบจั้ง พื้นที่ตรงหน้าชายหนุ่มพลันแตกร้าว ปรากฏให้เห็นคลื่นพลังแสงสีเย็น!
เยี่ยฉวนไม่หลีกหนีไป ชักกระบี่แล้วพุ่งไปต้านมันไว้
ออกกระบี่ชี้ชะตา!
ในยามนี้ นี่คือวิชากระบี่อันทรงพลังที่สุดเมื่อเข้าโจมตีระยะใกล้!
หลังจากนั้น เสียงกระบี่กระทบกันพลันส่งผลให้รอบด้านแตกออก
ยามกระบี่เยี่ยฉวนกระทบเข้ากับคลื่นพลังแสงจากกระบี่ เขาสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลแผ่พุ่งมายังทั้งร่าง ชายหนุ่มรีบถอยกลับหลัง ยิ่งไปกว่านั้น บัดนี้กลับรู้สึกราวร่างกายกำลังแตกเป็นเสี่ยง!
ช่างแข็งแกร่งอะไรเช่นนี้!
หลังถอยไปตั้งหลักได้หลายสิบจั้ง ชายหนุ่มพลันคำราม เท้าขวากระทืบพื้นอย่างแรง แล้วใช้มือทั้งสองข้างกระชับกระบี่ให้แน่น แทงสวนไปข้างหน้าทันที
ตูม!
คลื่นพลังแสงนั้นแตกสลายออก ทว่าบีบให้เขาถอยหลังไปอีกถึงร้อยจั้ง!
หลังเยี่ยฉวนหยุดอยู่กับที่ มือขวานั้นสั่นไหว อีกทั้งสัมผัสได้ถึงอวัยวะภายในปั่นป่วน!
ทรงพลังอะไรอย่างนี้!
เยี่ยฉวนกระชับกระบี่ในมือแน่น ที่แท้ฝีมือขั้นไขว่คว้าเต๋าเป็นแบบนี้เองหรือนี่
ห่างออกไปไกลนัก ชายแก่มองเยี่ยฉวนอย่างใจเย็น ไม่เอ่ยคำใดแต่กลับใช้ปลายกระบี่ชี้ไปทางเยี่ยฉวน กระบี่ในมือพลันพุ่งไปเฉกเช่นอสนีบาต
กระบี่นี้ตัดผ่านอาณาบริเวณ มุ่งตรงไปยังเยี่ยฉวน พื้นที่ที่พุ่งผ่านในระยะสิบจั้งต่างล้มระเนระนาด!
กระบวนท่านี้ถือว่ามากพอจะทำลายสวรรค์และปฐพี!
ยอดฝีมือขั้นไขว่คว้าเต๋า!
ในยามนี้ เยี่ยฉวนได้เห็นกับตาแล้วว่าฝีมือขั้นไขว่คว้าเต๋าเป็นเช่นไร!
ฝีมือระดับขั้นพลังก่อเกิดชั้นเนรมิตทำอะไรแบบนี้ไม่ได้แน่นอน!
เยี่ยฉวนยังคงเก็บไพ่ไม้ตายเอาไว้ ยามนี้อยากทดสอบขีดจำกัดของตัวเอง!
ชายหนุ่มเก็บกระบี่เจิ้นหุนกลับไปก่อนจะประกบมือกันโดยพลัน ไม่ทันไรกระบี่บินปรากฏออกมา ทว่ากระบี่บินเหล่านี้ยังไม่สามารถหยุดยั้งคมกระบี่ของชายเฒ่าไว้ได้ และมันกำลังพุ่งตรงมาทางนี้!
หลังกระบี่นั้นเต็มไปด้วยพื้นที่ซึ่งถูกทำลาย!
เยี่ยฉวนพลันตะโกนก้อง ใช้กระบี่ในมือจ้วงออกไป
กระบี่ของเขามีทั้งความเร็ว ความรุนแรง และปณิธาน!
ปณิธานแห่งกระบี่ในตอนนี้แข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนนัก ด้วยปณิธานแห่งกระบี่นี้ พลังแทบจะเพิ่มเป็นสองเท่า!
กระบี่นั้นพุ่งไปเบื้องหน้า
ตูม!
พื้นที่เบื้องหน้าเยี่ยฉวนสลายลงโดยพลัน ทว่ากลับเป็นปกติแทบทันที ในยามนี้ ชายหนุ่มล่าถอยห่างไปอีกร้อยจั้ง ทันทีที่หยุดลง พื้นที่ด้านหลังกลับแตกสลายในพริบตาเดียว! มุมปากเริ่มมีเลือดไหลออกมา
ตอนนั้นเอง ชายเฒ่าพลันหยุดยั้งบางอย่างด้วยกระบี่ กระบี่บินซึ่งพุ่งไปหาพลันแตกกระจาย ทว่าไม่ทันไร ชายหนุ่มพลันปรากฏกายขึ้นเหนือศีรษะ
เยี่ยฉวนรีบชักกระบี่แล้วสับลงไป!
ออกกระบี่ชี้ชะตา!
ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากปณิธานแห่งกระบี่ถึงสองเล่ม
กระบี่สับลงมาแล้ว
ตูม!
ลำแสงกระบี่พลันเปล่งประกายแผดเผาเบื้องหน้าชายหนุ่ม จากนั้นรีบถอยห่างไปหลายสิบจั้งแทบจะทันที!
กระบี่ของชายแก่เกือบจะทำให้เขาสิ้นเสียแล้ว!
เยี่ยฉวนเช็ดเลือดมุมปากแล้วเอ่ยอะไรบ้าๆ ออกมา “ฮ่าๆ… ตื่นเต้นจริงวู้วววว!”
ชายเฒ่ามองเยี่ยฉวน “ต้องยอมรับว่าเจ้านั้นมีความสามารถมากมายนัก”
เขาเอ่ยพลางแบมือ พลันกระบี่ปรากฏขึ้นบนมือ ทันใดนั้นเอง เพลงกระบี่อันทรงพลังปรากฏขึ้นรอบบริเวณ
ตรงข้ามชายเฒ่า เยี่ยฉวนหัวเราะเสียงดังลั่น “ตาเฒ่า เจ้าเองก็แข็งแกร่งนัก”
เอ่ยจบ พละกำลังอันมหาศาลพลันพุ่งเข้ามาในตัวชายหนุ่ม พร้อมกับเสียงร้องดังก้องของมังกร!
จิตวิญญาณแห่งมังกร!
ฤทธานุภาพแห่งมังกร!
ด้วยความช่วยเหลือจากพลังทั้งสอง ปราณรอบตัวเยี่ยฉวนพลันแผ่พุ่งออกมา!
อีกทั้งชายหนุ่มเริ่มใช้ปราณแมวดำแล้วด้วย!
ยามนี้มีพลังถึงสามชนิดกำลังสนับสนุนเขา!
ชายหนุ่มอยากตรวจสอบขีดจำกัดของตนจึงไม่ได้ใช้ไพ่ตาย ทว่าตอนนี้ชายแก่ไม่คิดออมมืออีกต่อไปเพื่อจะฆ่าเขา!
หากยังเก็บไพ่ตายไว้อยู่ ย่อมไม่รู้ขีดจำกัด……ทว่ากำลังจะยื่นคอไปให้อีกฝ่ายสับเสียมากกว่า!
เห็นพลังปราณของเยี่ยฉวนเช่นนั้น ชายแก่หน้าตึงไปเล็กน้อย ทันใดนั้น ส่งกระบี่ในมือพุ่งออกไป ความเร็วมากกว่าสายฟ้าฟาดเสียอีก!
ห่างไปไม่ไกล เยี่ยฉวนฟันกระบี่ออกไปเบื้องหน้า!
ตูม!
กระบี่ของชายแก่ถูกหยุดยั้งเอาไว้ด้วยกระบี่ของเยี่ยฉวน!
ครานี้ ชายหนุ่มถูกบีบให้ถอยไปน้อยกว่าหนึ่งจั้ง!
เห็นดังนั้น ชายเฒ่าหรี่ตาลง และทันใดนั้นเองยกกระบี่ขึ้นมาตั้งท่าป้องกัน…
เคร้ง!
กระบี่บินสองเล่มฟันลงมาบนกระบี่ในมือชายแก่ ส่งให้ร่างถอยร่นไปหลายก้าว ทันทีที่หยุดลง กระบี่บินหลายเล่มต่างกรูเข้าไปหาอีกครั้ง
ชายแก่หน้าตึงก่อนจะฟันกระบี่ลงมาอย่างแรง
ซ่า!
หลังจากนั้น ทะเลแสงคมกระบี่ต่างแยกออกจากกันคล้ายภูเขาไฟระเบิด ส่วนกระบี่บินซึ่งไม่ได้มาถึงตัวเขา ทว่าต่างสลายหายไปโดยพลัน!
ทว่าสีหน้าชายเฒ่าแปรเปลี่ยน เนื่องจากเยี่ยฉวนไม่ได้ลงมือโจมตีต่อ แต่กลับหันไปทำลายค่ายกลด้วยกระบวนท่าเดียวเสียอย่างนั้น!
ทันทีที่ทำลายเสร็จ เยี่ยฉวนรีบพุ่งออกห่างไปหลายสิบลี้!
ต้องหนี!
เขาต้องหนีอยู่แล้ว เนื่องจากไม่สามารถยืนยันได้ว่าสามารถสังหารชายเฒ่านั่นได้หรือไม่ การสู้ต่อถือเป็นเรื่องโง่เขลายิ่ง!
เมื่อเล็งเห็นว่าชายหนุ่มทำลายค่ายกลจนสิ้น ชายแก่ย่อมไม่ตามไป ทั้งยังรีบหลบอีกด้วย!
เขามาเพื่อสังหารเยี่ยฉวนอย่างลับๆ เนื่องจากสำนักกระบี่ไม่อยากให้ใครรู้
ซึ่งชายหนุ่มทำลายค่ายกลไปแล้ว หากตนไปจัดการเยี่ยฉวนต่อ คนนอกย่อมรู้เรื่องนี้ หลังจากนั้นต่อให้ฆ่าแล้วชิงมหาสมบัติมา สำนักกระบี่ย่อมกลายเป็นเป้าหมายแก่คนโลภมากพวกนั้น!
เมื่อเยี่ยฉวนชิงหนี เขากู่ร้องเสียงดังเสียใหญ่โต ดังนั้นเหล่ายอดฝีมือย่อมกรูกันมา!
สถานที่ซึ่งเยี่ยฉวนต่อสู้กับชายเฒ่า เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้น “มีคนโจมตีเยี่ยฉวน ตามหามันแล้วอย่าให้คนอื่นจับได้ก่อนพวกเรา!”
ตามมาด้วยพื้นที่รอบบริเวณนั้นกลายเป็นคลื่นกระเพื่อม…
เมื่อหนีมาได้สำเร็จ ชายหนุ่มมายังภูเขารกร้าง ซ่อนตัวด้วยพลังชี่เร้นลับ ทว่ายังคงพะวงอยู่เล็กน้อย จึงจมลงสู่จิตสัมผัสในกายแล้วถาม “ศิษย์พี่ มีวิธีซ่อนแบบใดที่จะช่วยไม่ให้คนขั้นไขว่คว้าเต๋าตามหาเจอบ้างหรือไม่”
ผ่านไปสักพัก ชายในชั้นหกตอบว่า “ชี่ในตัวเจ้าก็พอแล้วน่า!”
เยี่ยฉวนส่ายหัว “ก่อนหน้านี้ข้ายังโดนพบอยู่เลยนะ!”
ชายชั้นหกตอบ “เพราะเจ้าใช้มันไม่ดีน่ะสิ”
เยี่ยฉวนรีบเอ่ย “ได้โปรดชี้แนะ!”
ชายในหอคอยชั้นหกอธิบาย “ควบคุมพลังชี่ในตัวเจ้าซะ ให้ครอบคลุมไปทั่วกายเจ้า แล้วหลอมรวมไปกับมัน!”
เยี่ยฉวนรีบทำตามคำแนะนำ ไม่นานนัก พลังชี่โกลาหลเข้าปกคลุมไปทั่วร่าง…
ไม่ทันไร ชายหนุ่มพบว่าตนอยู่ในสถานะกึ่งล่องหน
เขาสับสนจนต้องเอ่ยถาม “ศิษย์พี่ เกิดอะไรขึ้นกับข้าหรือนี่”
ชายในชั้นหกตอบต่อ “พลังชี่โกลาหลเกิดขึ้นจากความโกลาหล เป็นส่วนหนึ่งของความยุ่งเหยิงแห่งสวรรค์และปฐพี เมื่อเจ้ากับชี่รวมเป็นหนึ่ง ย่อมแปลว่าตัวเจ้าและความยุ่งเหยิงของสองสิ่งกลายเป็นหนึ่ง นอกจากคนพิเศษบางจำพวก คนธรรมดาหาไม่เจอร้อก แต่อย่าขยับตอนกำลังซ่อนตัวล่ะ ไม่อย่างนั้นปราณจะไม่คงที่ คนอื่นก็เจอได้อยู่ดี!”
เยี่ยฉวนถามต่อ “ศิษย์พี่ พลังชี่โกลาหลมีไว้ผนึกปราณอย่างเดียวหรือ”
ชายชั้นหกตอบอีก “ไม่ใช่อยู่แล้วสิ มันช่วยชำระล้างร่างกาย ร่างกายจะค่อยๆ เปลี่ยนไป แต่เจ้านั่นแหละที่ไม่รู้ตัว! ผลของพลังชี่นี่จะคงอยู่ต่อไป มันจะช่วยชำระล้างร่างกายเจ้าทุกเวลา สุดท้ายเดี๋ยวก็ได้เห็นผลดีมันจริงๆ เองนั่นแหละ”
เยี่ยฉวนยังคงถามต่อ “ใช้แบบอื่นได้อีกหรือไม่”
ชายในเรือนจำชั้นหกเงียบไปสักพักก่อนจะกล่าวออกมาในที่สุด “นี่คิดว่าข้าตรัสรู้ไปทุกเรื่องเลยรึไง?”
เยี่ยฉวนถึงกับอับจนคำพูด
ชายในชั้นหกเอ่ยต่อ “คราวหลังถ้าจะถามอะไรล่ะก็ ช่วยถามอะไรที่น่าสนใจกว่านี้หน่อยได้ไหม คำถามแบบนี้น่ะมัน… ไร้รสนิยมสุดๆ!”
เยี่ยฉวนลังเลเล็กน้อยแล้วถามอีกครั้ง “ศิษย์พี่ ยอดฝีมือที่ข้าพบมาดูอ่อนแอมากในสายตาท่านใช่หรือไม่”
เขาไม่ตอบ แต่ถามกลับ “ชายชั้นห้าด้านล่างข้าเป็นจักรพรรดิใช่ไหม”
เยี่ยฉวนพยักหน้า “เขาบอกว่าถูกสถาปนาให้เป็นจักรพรรดิน่ะ! แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าหมายความว่าอย่างไร!”
เสียงจากชั้นหกเอ่ย “หมายความว่าไปถึงขั้นไขว่คว้าเต๋าแล้วน่ะสิ รู้ไหมว่าแปลว่าอะไร”
เยี่ยฉวนตอบ “แปลว่าเข้าใจขั้นไขว่คว้าเต๋าแล้ว?”
เสียงนั้นเงียบไปแล้วเอ่ยออกมาในที่สุด “นี่พูดบ้าอะไรอยู่กันแน่”
เยี่ยฉวนถึงกับจุก
ชายในชั้นหกอธิบาย “เต๋าที่ว่าหมายถึงความจริงอันเที่ยงแท้ รวมไปถึงแหล่ง กฎเกณฑ์ หลักการ ขั้นพลังอันสูงสุดและอีกเยอะแยะ เต๋าก่อเกิดซึ่งทุกสิ่ง มันคือทุกอย่างที่อยู่ในธรรมชาติรวมไปถึงทุกรูปแบบที่มี เต๋ามีกฎเกณฑ์ไร้ขีดจำกัด สิ่งที่รู้ในยามนี้คือเต๋า และสิ่งที่ไม่อาจรู้ได้เลยก็คือเต๋า เต๋าแปลว่าวิชชา บริสุทธิ์อยู่ตลอดเวลา ตามหาต้นกำเนิดทุกสิ่งมีชีวิต และมุ่งไปคว้าความเป็นอมตะเอาไว้… เจ้านั่นทำแบบนั้น……เลยถูกสถาปนาให้เป็นจักรพรรดิไง”
ชายหนุ่มนิ่งไปเล็กน้อยแล้วถามต่อ “เต๋านี่ถือว่าเป็นขั้นสุดยอดเลยหรือไม่”
ชายชั้นหกตอบ “ต้องไม่ใช่อยู่แล้ว สำหรับพวกเรา ไปถึงขั้นไขว่คว้าเต๋าไม่ต่างจากการเริ่มต้นหรอก ขั้นไขว่คว้าเต๋าน่ะถูกแบ่งเป็นสี่ชั้นพลังคือชั้นแรกเริ่ม ชั้นรู้ชะตา ชั้นรู้แจ้ง”
เยี่ยฉวนถามต่อ “แล้วขั้นกว่าของชั้นพวกนั้นล่ะ”
ผ่านความเงียบไปพักใหญ่ก่อนจะตอบออกมา “ก็คือชั้นสิ้นศูนย์ในตำนานนั่นแหละ อยู่ในเต๋าคือการถูกมันควบคุม หากออกมาได้จะได้รับนิรันดร์กาล!
เยี่ยฉวนถามต่อ “แล้วขั้นกว่าของชั้นสิ้นศูนย์ล่ะ”
ต่างคนต่างนิ่งไปสักพัก ชายในชั้นหกจึงเอ่ย “มาถามคำถามไร้รสนิยมนั่นของเจ้าเถอะ!”
เยี่ยฉวนถึงกับอับจนคำพูด



