Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 953

Yi Jian Du Zun
BC

บทที่ 953 : ชุมนุมเต๋าผู้รอบรู้! (ปลาย)

C

คนที่ชั้นหกกล่าวว่า “ศาสตร์พยากรณ์เป็นหนึ่งในศาสตร์มารลี้ลับ ซึ่งในยุคสมัยของข้าพบเห็นได้น้อยมาก สิ่งใดที่มีพลังอำนาจมากที่สุดจะช่วยให้ผู้ที่รู้ศาสตร์ฉวยเอาสิ่งนั้นมาใช้ประโยชน์ ดังเช่นเนตรทิพย์แห่งปฐพี เนตรทิพย์แห่งสวรรค์ และเนตรทิพย์แห่งสรรพสิ่ง ผู้ที่รู้ศาสตร์นี้สามารถใช้เนตรทิพย์แห่งปฐพี และคนคนนี้ยังรู้ศาสตร์ยามสามตา รวมทั้งศาสตร์พยากรณ์กระดองเต่า แม้พลังชี่ของเจ้าแกร่งกล้าหนาแน่นก็จริง แต่ไม่อาจซ่อนเร้นเหตุและผลอันเกิดจากโชคชะตาของตัวเอง ถึงอย่างไรด้วยศาสตร์ยามสามตากับพยากรณ์กระดองเต่า จึงทำให้คนผู้นั้นสามารถมองเห็นต้นเหตุและผลอันเกิดจากโชคชะตาของเจ้าได้……”

เยี่ยฉวนส่ายหน้าอย่างงุนงง “ข้ายังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดีขอรับ”

เสียงคนที่ชั้นหกพูดว่า “นั่นเป็นเรื่องปกติ การทำนายโชคชะตาเป็นศาสตร์ลึกลับ ยากที่คนคนธรรมดาจะเข้าใจ”

ชายหนุ่มถามขึ้น “ผู้อาวุโส ข้าควรรับมืออย่างไรดี?”

คนที่ชั้นหกตอบทันที “นั่นมันเรื่องของเจ้า!”

เยี่ยฉวนถึงกับอึ้งไปทีเดียว

เสียงพูดของอีกฝ่ายดังขึ้นต่อมา “ข้าอยากนอนสักตื่น แค่เพียงไม่นาน อาจจะสิบวันหรือครึ่งเดือน ถ้ายาวๆ ก็ราวครึ่งปีหรือสิบปี หวังว่าตอนที่ตื่นขึ้นมา……เจ้าจะยังมีชีวิตอยู่ ดูแลตัวเองล่ะ!”

ชายหนุ่มได้ยินเข้าดังนั้น รีบพูดออกไปว่า “ผู้อาวุโสข้ายังมีเรื่องจะถามท่านขอรับ!”

ถึงกระนั้น ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝ่ายเสียแล้ว

สีหน้าของเยี่ยฉวนหม่นหมองไปทันที อีกฝ่ายอยากพักขึ้นมาจริงๆ เสียอย่างนั้น!

ให้ตายเถอะ!

ชายหนุ่มจะรับมือนักพรตเต๋าลี่ได้อย่างไร?

หลังจากนิ่งเงียบครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ เยี่ยฉวนหันกลับเดินออกไป

แทนที่จะหนีต่อไป ชายหนุ่มตรงไปยังนครผู้คุมกฎ

การซ่อนตัวไม่ใช่วิธีรับมือของเขา!

ไม่นานเยี่ยฉวนมาถึงยังนครผู้คุมกฎ และทันทีที่ที่เหยียบเข้าไปในบริเวณเขาพลันสัมผัสถึงพลังงานมหาศาล ที่กำลังเคลื่อนแกว่งไกวไปมาหนักหน่วง!

เยี่ยฉวนปล่อยตัวไปตามแรงกระเพื่อมของพลังงาน ต่อมา ชายหนุ่มมาถึงยังแท่นบูชาที่ตั้งขึ้นกลางเมือง บนแท่นบูชาดังกล่าว ร่างนักพรตเต๋าลี่กำลังจัดการกับอะไรบางอย่าง

เมื่อเห็นร่างของนักพรตเต๋าลี่ พลันหัวคิ้วของชายหนุ่มขมวดเข้าหากัน ด้วยภาพที่ปรากฏ……นักพรตเต๋าลี่กำลังตั้งค่ายกลเพื่อต้านทานเขานั่นเอง!

ในมุมมืด ชายหนุ่มกวาดสายตาสังเกตโดยรอบ ไม่มีใครอยู่ในละแวกนั้นยกเว้นชายชราสวมชุดดำคนก่อนหน้า ผู้ซึ่งมาพร้อมนักพรตเต๋าลี่

อย่างไรก็ตาม เยี่ยฉวนไม่โง่หลงเชื่ออย่างแน่นอน……ว่าจะมียอดฝีมือเฝ้าอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น

ชายหนุ่มย่องกลับออกไปอย่างเงียบเชียบ

บนแท่นบูชา นักพรตเต๋าลี่กำลังถือกระบี่ไม้ไว้ในมือ ก่อนจะตวัดวาดท่าทางที่มองไม่เห็นด้วยตาออกไปในอากาศ เบื้องหน้ามีโต๊ะทราย [1] ทรายที่อยู่บนโต๊ะเริ่มสั่นไหว!

อีกด้านหนึ่ง ชายชราสวมชุดดำยืนกอดอกนิ่ง ขณะหลับตาเพื่อพักชั่วคราว

เขากำลังส่งพลังจิตตรวจตราออกสำรวจไปโดยรอบบริเวณ

……อยากให้เยี่ยฉวนปรากฏตัวออกมาเสียที ถ้าฝ่ายนั้นโผล่ขึ้นมาเมื่อไร เรื่องจะได้ไม่ต้องยุ่งยากมากนัก!

บนแท่นบูชา นักพรตเต๋าลี่เสือกกระบี่ไม้ชี้ออกไปข้างหน้าทันที “ปรากฏตัว!”

ว่าแล้วสีหน้าของคนกลับซีดเผือดไปชั่วขณะ

ในโต๊ะทราย ปรากฏรูปร่างขึ้นอย่างช้าๆ นอกจากนั้น ทัศนียภาพแวดล้อมปรากฏออกมาด้วย เริ่มจากเป็นภาพเงาคลุมเครือ ทว่าค่อยๆ แจ่มชัดขึ้นทุกขณะ

ชายชราสวมดำจ้องเขม็งไปที่โต๊ะทราย เขารู้ได้ในทันทีที่เห็นภาพที่ตั้งของตำแหน่งของเยี่ยฉวน

ถ้าเยี่ยฉวนหลบซ่อนอยู่ในระยะหนึ่งแสนลี้ เขาสามารถตามไปถึงตัวชายหนุ่มได้ในทันที!

เมื่อถึงตอนนั้น ต่อให้เจ้าหนุ่มนั่นติดปีกก็หนีไม่พ้น!

ไม่ช้า ภาพเยี่ยฉวนกับทัศนียภาพแวดล้อมที่ปรากฏบนโต๊ะทรายค่อยๆ ชัดเจนขึ้นทุกที

ชายชราสวมชุดดำเพ่งมองลงไปบนโต๊ะทราย จนลูกตาแทบถลนจากเบ้า!

นักพรตเต๋าหน้าซีดลงทุกขณะ เหงื่อกาฬผุดเต็มจนไหลย้อยลงมาตามใบหน้า

สถานการณ์บนโต๊ะทรายพลันแปรเปลี่ยนไป รูปลักษณ์ของ ‘เยี่ยฉวน’ ที่ปรากฏขึ้นบนโต๊ะทรายกลับวูบหายไปอย่างรวดเร็ว

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้นักพรตเต๋าลี่รวมทั้งชายชราชุดดำ ต่างพากันตะลึงงัน ทว่าที่น่าตกใจยิ่งกว่า……คือพลังชี่โดยรอบเลือนหายไปจนหมดสิ้น!

ยิ่งกว่านั้น พลังชี่ของนครผู้คุมกฎเลือนหายไปหมดสิ้น!

“เกิดอะไรขึ้น?”

คนสวมดำหันไปมองรอบด้านทันทีด้วยความงุนงงสงสัย

ฝ่ายนักพรตเต๋าลี่นิ่วหน้า มองดูด้วยความพิศวงเช่นเดียวกัน ไร้ซึ่งพลังชี่ ค่ายกลที่ตั้งขึ้นย่อมปราศจากพลังเป็นเรื่องปกติ!

ปัญหาคือเหตุใดพลังชี่ถึงหายไป?

ยิ่งกว่านั้น พลังชี่ของนครผู้คุมกฎทั้งเมืองได้หายไปด้วย เป็นไปได้อย่างไร?

ขณะที่นครผู้คุมกฎไม่มีพลังชี่ เมืองทั้งเมืองจึงตกอยู่ท่ามกลางความหวาดหวั่น

เมื่อรับรู้ว่าขาดพลังชี่ ผู้คนจำนวนมากรู้สึกอึดอัดขัดข้องทันที ถ้าไม่มีพลังชี่ พวกเขาจะใช้พลังชี่ที่มีอยู่อย่างเบาบางในตัวเองได้อย่างไร? เพียงออกพลังคัมภีร์ยุทธ์สักครั้ง พลังที่มีอยู่นั้นจะหมดสิ้นไม่มีเหลือ!

เสียงพูดของคนที่อยู่บนแท่นบูชา นักพรตเต๋าพึมพำพลางกัดฟันกรอด “บางทีนี่อาจเป็นฝีมือของเจ้าเยี่ยฉวนก็เป็นได้!”

ชายชราสวมชุดดำหันขวับไปมองนักพรตเต๋า ฝ่ายหลังพูดออกมาอีกว่า “ไม่สิ เขาทำไม่ได้แน่ ต้องเป็นฝีมือใครสักคนที่อยู่เบื้องหลังถึงจะทำเช่นนี้ได้!”

จากนั้น เขาหันไปพูดกับชายชราสวมดำ “เจ้าค้นหาแก่นกำเนิดของใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังเขาได้ไหม?”

คนตรงข้ามส่ายหน้า “คนที่จะรู้ตื้นลึกหนาบางดีที่สุด เห็นมีเพียงผู้นำสูงสุดแห่งจักรวาลดวงดาว ทว่าเขาไม่ยอมบอกเลยว่ารู้อะไรมาบ้าง”

นักพรตเต๋าลี่ขมวดคิ้วขณะครุ่นคิดกับตัวเอง แสดงว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเยี่ยฉวนแข็งแกร่งมากจริงๆ ถ้าเขายังทำแบบนี้ต่อไป คนที่จะประสบปัญหาอาจเป็นตนเอง อีกทั้งปัญหาอาจลุกลามไปสู่ชุมนุมเต๋าผู้รอบรู้ก็เป็นได้!

ขณะนั้น ชายชราสวมชุดดำรีบพูดกับอีกฝ่ายทันที “นักพรตเต๋าลี่อย่าได้กังวล ชุมนุมผู้คุมกฎของข้าจะจัดการกับเยี่ยฉวน และคนที่อยู่เบื้องหลังเขาให้เอง เจ้าแค่ค้นหาที่หลบซ่อนของเจ้าหนุ่มนั่นเท่านั้น!”

คนตรงข้ามสั่นศีรษะ “ไร้พลังชี่เสียแล้ว และการตั้งค่ายกลจำต้องอาศัยพลังชี่จำนวนมาก……”

คนสวมชุดดำรีบบอกเสียงเร็ว “พวกเราจะมอบอัญมณีเพชรน้ำค้างเซียนให้เจ้า!”

นักพรตเต๋าลี่ส่ายหน้าเป็นทำนองปฏิเสธ “คนผู้นี้มีความลึกลับซับซ้อน เยี่ยฉวนไม่ใช่คนธรรมดา ข้าอยากกลับไปที่ชุมนุมเต๋าผู้รอบรู้ และสอบถามกับอาจารย์ศาสตร์พยากรณ์ดูสิว่า……ชุมนุมเต๋าผู้รอบรู้ขัดแย้งกับเขาหรือไม่”

พลันสีหน้าของชายชราสวมดำหมองคล้ำเคร่งเครียดไปทันที พูดเป็นเล่น? อยากรู้ก่อนว่าจะขัดแย้งกับเยี่ยฉวนได้หรือไม่……งั้นหรือ?”

…………

[1] โต๊ะทราย คือโต๊ะที่ปูด้วยทราย ในด้านการทหารจะใช้อุปกรณ์ชนิดนี้เพื่อจำลองสมรภูมิหรือภูมิประเทศ

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!