บทที่ 958 : จ้าวมู่! (ปลาย)
ขณะที่จ้าวมู่กำลังจะปล่อยพลังจู่โจม พลันกระบี่บินสองเล่มตวัดฟาดเข้าใส่หญิงสาวอย่างรวดเร็ว คนเหลือบมองทางหางตาพลางนิ่วหน้าเล็กน้อย พร้อมกันนั้นนางขยับตั้งท่อนแขนขึ้นสกัดกระบี่ได้ทันท่วงที
เปรี้ยง เปรี้ยง!
ปรากฏลำแสงกระบี่ฟาดลงไปยังท่อนแขนของนางเต็มที่ ถึงกระนั้นหญิงสาวขยับถอยไปเพียงไม่กี่จั้งเท่านั้น ไม่เห็นร่องรอยบุบสลายแม้ชายแขนเสื้อด้วยซ้ำ!
สิ่งที่เห็นทำให้ชายหนุ่มตรงกันข้ามถึงกับสีหน้าเคร่งขรึม “นางแข็งแกร่งอะไรเช่นนี้?”
ขณะเดียวกันชายหนุ่มรู้สึกชาวูบไปทั่วร่าง ถ้าไม่ได้กระบี่เข้ามาต้านรับพลังแห่งแสงนั้นไว้เกือบหมดสิ้น……มีหวังอาจสิ้นลมไปแล้ว!
เสียงถังชิงพูดขึ้นในใจ “นี่คงคิดว่า ทั้งโลกมีอัจฉริยะยอดฝีมือที่เป็นคนรุ่นใหม่……จะมีเพียงเจ้าเท่านั้นสินะ?”
เมื่ออีกฝ่ายขยับจะอ้าปากโต้ตอบ จ้าวมู่ที่อยู่ตรงหน้าพลันหายวับไปกับตา
เยี่ยฉวนหุบปากกับมองดูพลางขมวดคิ้ว ขณะที่เอียงตัวหลบวูบไปข้างหนึ่ง ทำให้คลื่นพลังเฉียดหน้าอกไปเพียงนิดเดียว ชายหนุ่มจึงฉวยจังหวะฟาดกระบี่พุ่งในแนวนอนออกไปทันที
ชายหนุ่มไม่รอช้าฟาดคมกระบี่ใส่ที่กลางลำตัวของจ้าวมู่ที่โผล่เข้ามาตรงหน้าพอดี ทว่าคมกระบี่กลับพลาดเป้า……ประหนึ่งฟันโดนโลหะชั้นเยี่ยมขั้นไขว่คว้าเต๋าก็มิปาน!
เมื่อเยี่ยฉวนพลาดจากการทะลุทะลวงพลังต้านทานของจ้าวมู่ เขาจำต้องถอยห่างออกในทันที ทว่าจ้าวมู่ชันเข่ายกขึ้นก่อนที่จะสะบัดเข่ากระแทกออกไปเต็มแรง!
ชายหนุ่มรีบยกกระบี่ตั้งขึ้นต้านแรงปะทะนั้นไว้อย่างทันท่วงที
เปรี้ยง!
ร่างของเขาทะยานถอยห่างอย่างแรงในเวลาอันรวดเร็วกว่าสามร้อยจั้ง!
หลังจากเยี่ยฉวนชะงักนิ่งหยุดอยู่กับที่ พลันมองกลับไปยังฝ่ายตรงข้ามสีหน้าเคลือบความรู้สึกสิ้นหวัง เมื่อเห็นกระบี่ขั้นก่อเกิดชั้นเนรมิตที่ตนเพิ่งใช้อยู่ บัดนี้หงิกงอผิดรูปเสียสิ้นแล้ว!
กระบี่หักงอ!
กระบี่ขั้นก่อเกิดชั้นเนรมิต!
ไกลออกไปไม่มากนัก จ้าวมู่ขยับทำท่าจะเคลื่อนไหวออกปะทะอีกหน ขณะเดียวกันกับเยี่ยฉวนรีบโบกมือยับยั้ง “เดี๋ยวก่อน… พวกเราหยุดสู้กันก่อนได้ไหม?”
อย่างไรก็ตาม หญิงสาวหาได้หยุดยั้งไม่ นางกระโจนเข้าหาคนตรงหน้าอีกครั้งซ้ำ ด้วยการเตะเข้าที่ด้านข้างศีรษะของเยี่ยฉวนเต็มแรง!
มิทันไร ช่องอากาศที่ว่างเปล่าตรงหน้าชายหนุ่มพังทลายลงในพริบตา!
เยี่ยฉวนถึงกับสะดุ้งสุดตัว แทนที่จะต้านรับแรงซัดจากด้านบนที่ว่า……ชายหนุ่มกลับรีบกระถดถอยไปไกลกว่าสามร้อยจั้ง ถึงกระนั้นก่อนที่เจ้าตัวจะหยุดนิ่ง จู่ๆ เงาดำไล่หลังตามมาอย่างกระชั้นชิด!
เมื่อเงาดำเคลื่อนผ่าน ทุกพื้นที่ว่างเปล่าพังครืนลงมาทีละน้อยๆ!
หัวคิ้วของเยี่ยฉวนขมวดกดแน่น ยามนี้ชายหนุ่มหาได้ถอยแม้แต่ก้าวเดียว ไม่นานร่างค่อยๆ เลือนหายไปอย่างน่าประหลาด ขณะต่อมากระบี่บินมากมายนับไม่ถ้วนพุ่งวาบเข้าหาจ้าวมู่พร้อมๆ กัน
พลันความเงียบครอบงำไปทั่วบริเวณ
ตูม!
กระบี่บินแหลกสลายไปในทันที ทว่ามีกระบี่บินโผล่เข้าไปอีก!
จ้าวมู่ยกแขนขึ้นสกัดกั้น
เปรี้ยง!
นางถูกบังคับให้ถอยไปรวดเดียวไกลกว่าสามร้อยจั้ง ทว่ายังมิทันที่จะหยุดนิ่ง กระบี่อีกเล่มแล่นตรงมาอย่างรวดเร็ว… หนนี้จ้าวมู่ต้องพลังปะทะคราวเดียวทะยานถอยไกลกว่าหกร้อยจั้งชั่วพริบตา!
รอบตัวของหญิงสาว ปรากฏกระบี่บินพุ่งมารอบทิศทางทั้งแนวตั้งและแนวนอน กระบี่ทุกเล่มแล่นเข้าหานางเล่มแล้วเล่มเล่า ไม่เปิดโอกาสให้คนตั้งรับหรือยับยั้งได้เลยแม้แต่น้อย!
อย่างไรก็ตาม กระบี่หาได้ทำอันตรายระคายเคืองต่อจ้าวมู่ไม่!
นางมีความแข็งแกร่งทางกายภาพยิ่งนัก!
ตอนนี้เอง จ้าวมู่พลิกฝ่ามือข้างขวากดลงต่ำ จากนั้นพลิกฝ่ามือหงายกลับขึ้นมาทันที
ตูม!
พลังงานพุ่งวาบออกจากกลางฝ่ามือ พลันช่องอากาศรอบระเบิดแหลก แตกกระจายออกเป็นเสี่ยง พร้อมกับกลุ่มกระบี่บินของเยี่ยฉวนหายวับไปอย่างไร้ร่องรอยทันที!
หลังจากนั้นชั่วไม่กี่อึดใจ ช่องอากาศรอบด้านกลับสู่สภาพปกติ ร่างของคนทั้งคู่ผละออกห่างจากกันทันที ก่อนที่ต่างฝ่ายต่างลอยละลิ่วไปไกลกว่าสามร้อยจั้ง
จ้าวมู่เขม้นมองเยี่ยฉวนตาไม่กะพริบ มือข้างขวาค่อยๆ กำเข้าหากัน ในขณะที่หญิงสาวทำขยับท่าเตรียมเคลื่อนไหว ชายหนุ่มรีบส่งเสียง “เดี๋ยว!”
เขาพูดพลางสีหน้าดูจริงจัง “แม่นาง เจ้ารู้ไหมว่าข้าคือใคร?”
คนตรงข้ามมองมาด้วยสายตาแน่วนิ่ง ทว่ามิได้เอื้อนเอ่ยคำตอบ
เยี่ยฉวนพูดมา “ข้าเป็นคนของชุมนุมผู้คุมกฎ เคยได้ยินชื่อเสียงของชุมนุมผู้คุมกฎไหม? เจ้า…”
เสียงพูดของชายหนุ่มชะงักหยุดอย่างกะทันหัน
จ้าวมู่ซึ่งยืนหยุดอยู่เบื้องหน้าพลันพุ่งตัวตรงมา ทว่าในครั้งนี้กระบี่บินจำนวนหนึ่งปรากฏออกต่อหน้าหญิงสาวทันที
นางออกหมัดสวนตรงไป…
ชั่วไม่กี่อึดใจ กระบี่บินทั้งฝูงหายไปจากบริเวณจนไม่เหลือ!
พร้อมกับที่เยี่ยฉวนหายตัวไปด้วยเช่นกัน
หญิงสาวนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อได้พบเช่นนั้น พลางใช้สายตามองกวาดไปรอบๆ บริเวณ พลันอำนาจเทวจิตของนางแผ่กระจายดุจตาข่าย……ทว่ากลับไม่พบเห็นสิ่งใดเลย!
หลังจากเงียบงันไปนิดเดียว นางตบฝ่ามือฟาดออกไปเต็มแรง
เปรี้ยง!
พลันพื้นที่ว่างตรงที่ที่ฝ่ามือฟาดลงไปค่อยแตกออกทีละนิดๆ เพียงชั่วพริบตาเดียว ช่องอากาศที่ว่างเปล่าในระยะหกลี้พังครืนลงทันที
เมื่ออาญาสารแห่งฟ้าดินคืนสภาพให้แก่ช่องอากาศที่พังทลายลงมา จ้าวมู่ได้หายวาบไปเสียแล้ว
สตรีมาถึงยังนครผู้คุมกฎ สายตาจับจ้องไปยังตัวอักษรคำว่า ‘นครผู้คุมกฎ’ ซึ่งปรากฏอยู่ ณ ประตูเมือง ขณะต่อมาหญิงสาวซัดฝ่ามือไปยังตัวหนังสือที่อยู่กลางอากาศทันที
ตูม!
เบื้องหน้าของสตรี ผนังกำแพงทั้งแผ่นถูกฝ่ามือกระแทกจนทลายลงโดยพลัน!
ภายในนครผู้คุมกฎ ผู้คนต่างพากันตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น!
จ้าวมู่เดินตรงเข้าไปในเมือง กระทั่งในที่สุดหญิงสาวมาถึงยังจวนเจ้าเมือง หลิ่วสือไป้ก้าวออกมาข้างนอก เมื่อพบเห็นจ้าวมู่ที่ยืนอยู่ เขานิ่วหน้าเล็กน้อย “แม่นาง…”
ก่อนที่คนพูดจะได้เอ่ยจนจบประโยค พลันจ้าวมู่ผลักหมัดกระแทกออกไป
เพียงชั่วอึดใจ ลำแสงสว่างมากมหาศาลนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหาร่างของเจ้าเมือง ประหนึ่งพายุโหมกระหน่ำ!
หลิ่วสือไป้สีหน้าเผือดซีดลงทันที พร้อมกับร่างสั่นน้อยๆ ก่อนจะกระถดถอยห่างอย่างรวดเร็ว
เปรี้ยง!
ทันใดนั้น จวนเจ้าเมืองทั้งหลังแปรสภาพกลายเป็นเถ้าธุลีทันที!
ไม่ไกลออกไปเท่าใด สีหน้าของหลิ่วสือไป้แปรเปลี่ยนสิ้นเชิง แววตาจ้องเขม็งไปที่จ้าวมู่ระคนความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด พลังแข็งแกร่งอะไรเช่นนี้!
ทันใดนั้น เบื้องหน้าของจ้าวมู่ ปรากฏชายชราสวมชุดดำออกมาขวางทาง
คนที่เพิ่งปรากฏกายเขม้นมองสตรีแปลกหน้า “เจ้าเป็นใคร? กล้าดีอย่างไรถึงบุกเข้ามาหาเรื่องถึงในเขตของชุมนุมผู้คุมกฎ? อยากตายหรือไง?
จ้าวมู่มองดูชายชราสวมชุดดำด้วยแววตาเฉยเมย ต่อมาจู่ๆ นางกลับหายวับไปจากสายตา แฉ่! ในบริเวณนั้น พื้นที่อากาศว่างเปล่าค่อยถล่มทลายลงทีละส่วนๆ!!!



