Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 979

Yi Jian Du Zun
BC

บทที่ 979 : ถ้าเช่นนั้นก็คร่ำครวญเข้าไปสิ! (ปลาย)

C

ปรมาจารย์คูพูกล่าวตอบยิ้มๆ “เจ้าพูดถูก แต่ถ้าคิดจะควบคุมตัวน้องสาวของเขา เราต้องจู่โจมสำนักกระบี่กับสถาบันฝึกยุทธ์ ถึงแม้ตอนนี้ไม่มีร่างอวตารของผู้ก่อตั้งของพวกเขาอีกต่อไป แต่ถ้าเกิดฮึดสู้ต้านทานจนสุดกำลัง พวกเราชุมนุมผู้คุมกฎไม่แคล้วต้องสูญเสียอย่างหนักไปด้วย”

ฉินเทียนหันมาตอบให้ว่า “จะเป็นไปได้หรือที่พวกเราได้ครอบครองสมบัติล้ำค่าโดยไม่เกิดการสูญเสีย? เป็นไปไม่ได้แน่นอน……ไม่ใช่หรือ?”

อีกฝ่ายสั่นศีรษะโต้พลางยิ้มในหน้า “ผู้พิทักษ์ฉินดูท่าเจ้าจะมองข้ามไปอย่างหนึ่ง แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนที่พวกเราจู่โจมนครอานุภาพเวลานั้นเผ่าถังกับเผ่าอสูรจะไม่เคลื่อนไหวหรือ? ถ้าเกิดพวกมันฉวยให้เราเป็นเหยื่อล่อ แล้วทำตัวรอคอยผลประโยชน์ไปฝ่ายเดียวเล่า?”

คนตรงข้ามสวนตอบทันควัน “ถ้าเช่นนั้นยิ่งต้องมุ่งมั่นให้ถึงที่สุด เมื่อใดก็ตามที่จู่โจมนครอานุภาพ พวกเราต้องตัดวงจรให้สั้นลงและจะได้รับชัยชนะเร็วที่สุด”

จากนั้นผู้พูดมองเลยไปยังคนอื่นๆ ที่ยืนอยู่ในบริเวณ “เยี่ยฉวนรู้จักที่จะซ่อนตัวอย่างมิดชิด พวกเราไม่แน่ใจว่าจะตามหาเขาพบ เว้นเสียแต่ว่านายใหญ่จักรวาลดวงดาวลงมือค้นหาด้วยตนเอง แม้นว่าจะพบแล้วก็ไม่มั่นใจนักว่าจะจัดการได้โดยเฉพาะมีเผ่าถังกับคนอื่นๆ ซุ่มลอบกัดพวกเราอยู่เช่นนี้! ทว่าถ้าควบคุมตัวน้องสาวของเขาเอาไว้ได้ โอกาสนี้เช่นนี้ เจ้าหนุ่มนั่นคงจะยอมจำนนและเป็นฝ่ายวิ่งเข้ามาหาเราเอง!”

ปรมาจารย์คูส่ายหน้า “ผู้พิทักษ์ฉิน เจ้าพูดถูก ทว่ายังมีปัญหาอีกอย่าง ถ้าใช้วิธีนี้แล้วกลายเป็นผลักไสเยี่ยฉวนให้ไปเข้ากับเผ่าถังและเผ่าอสูรเล่า?”

ฉินเทียนยิ้มบางเบาขณะตอบว่า “เขาไม่มีทางทำเช่นนั้นแน่ เพราะสำหรับเยี่ยฉวนแล้วน้องสาวคนนี้สำคัญยิ่งกว่าชีวิตตัวเองด้วยซ้ำ! อีกประการหนึ่งเวลานี้นครอานุภาพไร้ซึ่งไม้ตายจะป้องกันเมืองแล้วอย่างสิ้นเชิง พวกเราชุมนุมผู้คุมกฎควรฉวยโอกาสยึดเมืองเสีย! ถ้ายึดเมืองนี้มาครองได้สำเร็จ พวกเจ้าย่อมรู้ดีว่าผลประโยชน์ที่จะได้รับมีอะไรบ้าง จริงไหม?”

ยึดครองนครอานุภาพ!

ในจวน คนเหล่านี้ถูกวาจาล่อลวงขึ้นทีละน้อย!

หลายปีที่ผ่านมาทั้งสำนักกระบี่และสถาบันฝึกยุทธ์ต่างช่วยกันพัฒนานครอานุภาพมาอย่างยาวนาน พวกมันต้องมีของล้ำค่ามากมายและที่สำคัญที่สุดในนครอานุภาพมีเส้นโลหิตศักดิ์สิทธิ์!

เส้นโลหิตศักดิ์สิทธิ์!

นี่เป็นสิ่งสำคัญที่กำลังหลอกล่อผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้น!

ทันใดนั้น เสียงของผู้นำสูงสุดแห่งจักรวาลดวงดาวถามขึ้นทันที ขณะมองไปยังฉินเทียนด้วยสายตาแน่วนิ่ง “แน่ใจนะว่าจะบุกยึดนครอานุภาพสำเร็จ?”

ฉินเทียนรีบพยักหน้า “ขอรับ! ทว่าข้าต้องมีผู้ช่วยจำนวนหนึ่ง”

นายใหญ่จักรวาลดวงดาวย้อนถาม “ข้าจะให้ผู้คุมอาญาสารยี่สิบคนและยอดฝีมือขั้นไขว่คว้าเต๋าชั้นรู้แจ้งสองคน รวมทั้งคนขั้นไขว่คว้าเต๋าอีกสามสิบนาย พอใจไหม?”

คนตรงข้ามรีบก้มศีรษะ “ขอรับ!”

ลองให้คนพวกนี้ดาหน้ากันเข้าไปย่อมเหนือกว่าพวกสำนักกระบี่และสถาบันฝึกยุทธ์ที่นครอานุภาพอย่างสิ้นเชิง!

ผู้นำสูงสุดแห่งจักรวาลดวงดาวพยักหน้า “เจ้าจะต้องเป็นคนรับผิดชอบต่อภารกิจนี้ พวกเจ้าที่เหลือให้อยู่ภายใต้การนำของปรมาจารย์คู มีหน้าที่สอดส่องความเคลื่อนไหวของเผ่าถังและเผ่าอสูร พยายามกีดกันอย่าให้พวกเขาให้ความช่วยเหลือแก่นครอานุภาพ”

ต่อจากนั้นไม่นานเขาก็หายวับไปจากสายตา

ภายในจวน ปรมาจารย์คูมองหน้าฉินเทียน “ระวังเยี่ยฉวนไว้ให้ดี อย่าได้ประมาทเขาเป็นอันขาด”

ฉินเทียนค้อมกาย “ขอบคุณที่ช่วยข้าสอดส่องเป็นหูเป็นตาเรื่องเผ่าถังและเผ่าอสูรขอรับ!”

ปรมาจารย์คูพยักหน้านิดหนึ่ง จากนั้นเขาพร้อมด้วยผู้ติดตามจึงพากันกลับออกไป

ขณะที่ฉินเทียนเองก็หมุนตัวกลับและเดินออกไป

เหนือท้องทะเลมหันต์สมุทร

หลังจากใช้ระยะราวหนึ่งชั่วยามในการขับเคลื่อนและเหินกระบี่ เยี่ยฉวนได้มาถึงยังเกาะแห่งหนึ่งที่มีขนาดใหญ่มากทีเดียว โดยจัดว่าเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเกาะหนึ่งในทะเลมหันต์สมุทรเท่าที่เขาเคยเห็นมา!

เยี่ยฉวนหยุดยืนบนพื้นดิน พลันกฎเต๋าแห่งปฐพีปรากฏขึ้นที่บริเวณกึ่งกลางหว่างคิ้วทันที

ชายหนุ่มถามขึ้นมาลอยๆ “แม่นางเยว่ ข้าควรทำอย่างไรต่อไป?”

เสียงดังลอดออกมาจากภายในหอคอยแห่งเรือนจำ แม่นางเยว่ตอบมาว่า “จงใช้กฎเต๋าแห่งปฐพีรับรู้พลังแห่งปฐพีที่อยู่รอบตัวและจงใช้พลังแห่งปฐพีรับรู้พลังเส้นโลหิตแห่งปฐพีที่อยู่ลึกลงไป หลังจากนั้นจงสูบเอาพลังเส้นโลหิตแห่งปฐพีเข้าไว้ แล้วสิ่งนั้นจะตื่นขึ้นมา!”

เมื่อฟังเสียงที่แม่นางเยว่บอกมาจนจบแล้ว ชายหนุ่มรีบทำอย่างที่ได้รับการบอกกล่าวทันที ต่อมาไม่นานด้วยความช่วยเหลือของกฎเต๋าแห่งปฐพี เยี่ยฉวนจึงรับรู้พลังแห่งปฐพีที่อยู่รอบตัว!

พลังแห่งปฐพีที่ไร้ขอบเขต!

ชายหนุ่มเร่งติดตามพลังแห่งปฐพีต่อเนื่อง เพื่อสัมผัสพลังสายโลหิตแห่งปฐพีทันที เวลาผ่านไปเป็นนานเยี่ยฉวนพึมพำเสียงเครียด “แม่นางเยว่ ข้าไม่เห็นรับรู้อะไรเลย!”

เยว่บอกเสียงเรียบ “ถ้าเช่นนั้นก็คร่ำครวญเข้าไปสิ!”

เยี่ยฉวนเม้มปากแน่น

เสียงอีกฝ่ายพูดต่อมา “เจ้าคิดว่าอะไรจะได้มาง่ายๆ งั้นหรือ? ตั้งอกตั้งใจทำต่อไป! พลังเส้นโลหิตแห่งปฐพีซ่อนตัวอยู่ลึกลงไป ถ้าเจ้าไม่มีสมาธิ จะรับรู้มันได้อย่างไร?”

คนฟังพยักหน้าหงึก ก่อนจะทำจิตใจให้สงบเยือกเย็นและดูดซับเอาพลังต่อไป ขณะต่อมาเขาเริ่มใช้เวลาในการรับรู้พลังเส้นโลหิตแห่งปฐพีอีกครั้ง กระทั่งอีกนานต่อมาก็ยังไม่ได้สัมผัสรับรู้อะไรสักอย่าง

หลังจากนิ่งเงียบครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ชายหนุ่มเริ่มหันมาใช้พลังจิตวิญญาณมังกร จากนั้นพลังจิตวิญญาณกับพลังจิตอิทธิฤทธิ์ของเขามีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว!

เหตุการณ์ดำเนินไปเช่นนี้อีกราวครึ่งชั่วยาม พลันนั้นสีหน้าท่าทางของเยี่ยฉวนแปรเปลี่ยนสิ้นเชิง ด้วยเขาสัมผัสได้ถึงพลังงานเป็นเงาลางๆ ดูละม้ายคล้ายพลังแห่งปฐพี ทว่าบริสุทธิ์สะอาดกว่าพลังแห่งปฐพี!

พลังเส้นโลหิตแห่งปฐพี!

เยี่ยฉวนรู้ได้ทันทีว่านี่จะต้องเป็นพลังเส้นโลหิตแห่งปฐพีเป็นแน่แท้!

ชายหนุ่มค้นหาอย่างต่อเนื่องต่อไป ต่อมาไม่นานยิ่งค้นหามากเท่าไรยิ่งพบพลังเส้นโลหิตแห่งปฐพีมากขึ้นเท่านั้น สิ่งนี้ทั้งอยู่ลึกและยากแก่การค้นหานัก!

ในตอนนี้เองเสียงแม่นางเยว่บอกมาทันทีว่า “กระตุ้นกฎเต๋าแห่งปฐพีแล้วซับเอาพลังงานออกมาได้แล้ว!

เยี่ยฉวนไม่รอช้ารีบทำตามที่นางบอกมาทันที

ไม่นานภายใต้การดึงดูดของกฎเต๋าแห่งปฐพี พลังเส้นโลหิตแห่งปฐพีเริ่มไหลบ่ามุ่งหน้ามาที่เยี่ยฉวน และทำให้กฎเต๋าแห่งปฐพีที่ปรากฏขึ้นกลางหน้าผากของชายหนุ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีคล้ำดำขึ้นทุกขณะ หลังจากที่ได้ดูดซับเอาพลังงานนี้เข้ามา……

ราวครึ่งชั่วยามเห็นจะได้ พลันกฎเต๋าแห่งปฐพีกลางแสกหน้าของเยี่ยฉวนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ทั้งปรากฏคลื่นพลังสีทองเปล่งประกาย ขณะนั้นชายหนุ่มเงยหน้ามองขึ้นไปข้างบน พร้อมกับพลังงานพุ่งพรวดออกจากร่างทะยานขึ้นสูงสู่ท้องฟ้า!

ชั่วครู่หนึ่งขณะที่กำลังยืนอยู่บนพื้นดิน เขาสัมผัสได้ว่าตนเป็นนายใหญ่แห่งปฐพีแล้วจริงๆ อีกทั้งสามารถทำลายโลกทั้งใบให้พินาศได้ในพริบตา!

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!