บทที่ 982 : เจ้าจะคิดถึงข้าไหม? (ต้น)
ฆ่ามัน!
สิ้นเสียงสั่งการ ผู้คุมอาญาสารทั้งสามสิบพร้อมกันทะยานตรงเข้าหาอู่เวิ่นและฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ไม่ไกลทันที คนพวกนี้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วดุจภูตผีปีศาจก็มิปาน!
พลันทำให้ยอดฝีมือจากสำนักกระบี่ที่มายังสถาบันฝึกยุทธ์ทั้งหมดชะงักหยุดไปด้วยซ้ำ เว้นแต่เยว่อู่เฉิน!
ขณะที่เยว่อู่เฉินขยับเตรียมที่จะเคลื่อนไหว ฉับพลันปรากฏพลังลมหายใจสองพลังแผ่เข้าครอบงำเขาเอาไว้จนหมดสิ้น!
ยอดฝีมือขั้นไขว่คว้าเต๋าชั้นรู้แจ้งสองคน!
เยว่อู่เฉินไม่กล้าบุ่มบ่ามลงมือ เขาจึงรีบบอกอีกฝ่ายเสียงขรึม “พี่อู่ ระวังตัวด้วย!”
จากนั้นผู้พูดกลายเป็นลำแสงกระบี่ทะยานวาบ และพุ่งไปยังคนสองคนดังกล่าว
สองยอดฝีมือขั้นไขว่คว้าเต๋าชั้นรู้แจ้งไม่อาจประมาทด้วยเช่นกัน!
บุคคลที่อยู่ต่อหน้าพวกตนเป็นถึงมหาเซียนกระบี่ชั้นยอด!
ต่อมาไม่นาน คนทั้งสามตรงเข้าต่อสู้ห้ำหั่นกันเหนือท้องฟ้าสถาบันฝึกยุทธ์!
ในขณะที่ยอดฝีมือขั้นไขว่คว้าเต๋าจากสถาบันฝึกยุทธ์หลายคน ต่างมุ่งหน้าเข้าปะทะกับพวกผู้คุมอาญาสารด้วยเหมือนกัน ทว่าไม่นานนักพวกเขากลับเป็นฝ่ายถูกต้อนจนล่าถอย!
ความแข็งแกร่งระหว่างคู่ต่อสู้ทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!
ตอนนี้เองจู่ๆ เงาดำเงาหนึ่งพุ่งมาด้วยความเร็วสูงตรงเข้าหาอู่เวิ่นและเยี่ยหลิง เพียงพริบตาเท่านั้นมันได้ประชิดชายชราอู่เวิ่นแล้ว!
ฝ่ายหลังถึงกับผงะพลันสีหน้าดุดันทันที เขากำหมัดแน่นก่อนจะกระแทกออกไปตรงๆ
ตูม!
จากนั้นพลังรุนแรงทะยานออกจากหมัดข้างนั้น ประหนึ่งหินร้อนพุ่งออกจากปากปล่องภูเขาไฟด้วยแรงผลักที่น่าสะพรึงกลัวยิ่ง!
ในจังหวะนั้นเงาดำซึ่งปรากฏต่อหน้าต้องพลังปะทะไปด้วยทันที!
หมัดข้างนั้นธรรมดาอย่างที่สุด!
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ร่างเงาออกพลังชก พลังของเขาถูกพลังงานจากกำปั้นของอู่เวิ่นเข้าอย่างจัง ทำให้สลายสูญไปอย่างไร้ร่องรอยในบัดดล ครู่ต่อมาอู่เวิ่นถูกพลังบังคับให้ล่าถอยไปอย่างหนักหน่วง!
แทนที่เงานั้นจะไล่ตามอู่เวิ่น มันกลับมุ่งตรงไปทางเยี่ยหลิงที่อยู่ไม่ไกลออกไป
ดวงตาของเด็กสาวจับจ้องมองร่างเงาที่กำลังมุ่งหน้ามาหาตน สีหน้าและแววตาปราศจากความหวาดกลัวแม่แต่น้อย
ในขณะที่ร่างเงากำลังพุ่งตรงเข้าหาเยี่ยหลิง พลันทวนยาวพุ่งตัดอากาศไปยังด้านข้างของร่างเงา ปรากฏให้เห็นเพียงแสงสว่างวาบ มาพร้อมกับเสียงเสียดแทงดังโหยหวนสั่นสะเทือน!
ร่างเงาหยุดกึกด้วยหากไม่ยั้งหยุด ต่อให้จับตัวเยี่ยหลิงได้……มีหวังคงถูกทวนด้ามยาวนั่นเสียบทะลุหัวก่อนเป็นแน่!
ทักษะนี้ข่มขวัญมันเอาการทีเดียว!
ฉับพลันที่เงาดำหยุดนิ่ง พร้อมกับยืดแขนขวาออกไปทางขวาและใช้ฝ่ามือป้องกันทวนยาวที่พุ่งปะทะทันที
ตูม!
ร่างเงาขัดขวางทวนยาวไว้อย่างรวดเร็ว!
พลังปะทะนี้ ทำให้เงาดำที่ครอบงำเขาอยู่แตกออกเป็นเสี่ยงกระจัดกระจายไปในทันทีก่อนที่เงานั้นจะวูบหาย กลายเป็นชายวัยกลางคนที่มีผมยาวปรกไหล่ผู้หนึ่ง!
ทันใดนั้นเงาสีขาวกระจ่างทะยานตรงเข้าหา ขณะต่อมาปรากฏฝ่าเท้าเตะเข้าที่ด้ามทวนยาว
ตูม!
ชายวัยกลางคนผมยาวร่างถูกพลังปะทะจนกระเด็นไกลไปกว่าสามสิบจั้ง!
คนที่เป็นต้นเหตุที่แท้คืออันหลานซิ่ว!
อันหลานซิ่วยืนขวางหน้าเยี่ยหลิง ขณะนั้นหญิงสาวเขม้นมองไปที่ชายผมยาว ต่อมาฝ่ายหลังกลับวูบหายไปทันที
หัวคิ้วของอันหลานซิ่วขมวดเข้าหาเล็กน้อย ชั่วพริบตานางยื่นมือออกไปตรงๆ
ตูม!
อึดใจถัดมา อันหลานซิ่วไปปรากฏอีกสถานที่ที่ไกลออกไปกว่าสามร้อยจั้ง ทว่าขณะต่อมานางกลับหายวับไป……
เปรี้ยง!
บริเวณตรงหน้าเยี่ยหลิง มีเสียงระเบิดสนั่นดังให้ได้ยินและชายวัยกลางคนผมยาวประบ่ากำลังพุ่งตัวมาทางเยี่ยหลิง ร่างนั้นต้องพลังรุนแรงส่งให้ล่าถอยไปอย่ารวดเร็ว!
ต่อมาอันหลานซิ่วกลับมาปรากฏเบื้องหน้าเยี่ยหลิงอีกหน
คนที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม ชายวัยกลางคนผมยาวประบ่ามองตรงมายังอันหลานซิ่วด้วยสายตาแน่วนิ่ง เขารู้แล้วว่าถ้าจะจับตัวเยี่ยหลิง……ต้องข้ามศพอันหลานซิ่วไปก่อน!
ว่าแล้วเขาค่อยๆ กำมือข้างขวาเข้าหากันช้าๆ จากนั้นใช้เท้าขวากระทืบลงไป
ตูม!
พื้นบริเวณแตกแยกออกจากกันทันที ต่อมาร่างเงาหนึ่งออกมาปรากฏต่อหน้าอันหลานซิ่ว จังหวะที่เงานั้นปรากฏได้มีเงาประหลาดอีกจำนวนหนึ่งโผล่เข้ามาล้อมหญิงสาวเอาไว้
ทุกร่างเป็นเงาเสมือนจริง!
อันหลานซิ่วเผยฝ่ามือออกไปเบื้องหน้า บนฝ่ามือปรากฏทวนอัคคีด้ามยาวขึ้นเล่มหนึ่ง หญิงสาวใช้ทวนด้ามฟาดในแนวนอนออกไปอย่างรุนแรง!
แฉ่!
ทวนด้ามยาวพุ่งทะยานประดุจมังกรไฟที่ดุร้าย อีกทั้งเปลวเพลิงร้อนแรงแลบเลียไปอย่างรวดเร็ว พร้อมที่จะกวาดทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า!
เปรี้ยง!
ร่างเงาหลายร่างตรงหน้าพลันวับวูบหายไปทันที ขณะเดียวกันร่างของใครคนหนึ่งปะทะพลังจนถอยหลังไปไกลอย่างเร็วรวดเดียวกว่าร้อยจั้ง!
เป็นชายวัยกลางคนผมยาว!
หลังจากที่ชายคนนั้นผงะหงายถอยห่างไปชั่วครู่ เขาเผยฝ่ามือข้างขวากางออกพร้อมผลักตรงไป จากนั้นพลิกฝ่ามือก่อนกดลงเบาๆ!
พื้นที่อากาศบริเวณฝ่ามือบังเกิดแรงกระเพื่อมดุจระลอกคลื่นเมื่อก้อนหินตกกระทบลงบนผิวน้ำ
ไกลออกไป สีหน้าของอันหลานซิ่วแปรเปลี่ยนอย่างฉับพลัน หญิงสาวกำด้ามทวนในมือข้างขวาแน่นก่อนแทงเสือกออกไป
เปรี้ยง!
ทวนฟาดออกไปข้างหน้าพร้อมกับสะบั้นทุกอย่างที่ขวางหน้า!
ครู่ต่อมานั้น……
ตูม!
ร่างของอันหลานซิ่วถูกซัดอย่างแรงจนกระเด็นพร้อมทวนยาวในมือไกลออกไปกว่าสามร้อยจั้ง ทันทีที่นางหยุดชะงักปรากฏว่าที่มุมปากมีโลหิตไหลซึมออกมา
ชายผมยาววูบหายไปทันที!
ฝ่ายหญิงสาวเมื่อสังเกตเห็นเช่นนั้น นางหรี่นัยน์ตาลงเล็กน้อย พลันปล่อยมือจากทวนยาวที่ถืออยู่ก่อนจะขยับกำมือข้างขวา แล้วสาวเท้าออกไปข้างหน้า ในเวลาเดียวกันผลักหมัดขวาชกออกไป “อวสาน!”
นางชกออกไปตรงหน้า
ตูม!
พื้นที่ว่างเปล่าถล่มทลายลงต่อหน้าต่อตาอย่างรวดเร็ว อีกทั้งพื้นดินในบริเวณกายเป็นเศษธุลีกระจายฟุ้งไปทั่ว
ฟากตรงข้ามกับอันหลานซิ่ว ชายวัยกลางคนถูกบีบบังคับให้ต้องชะงักหยุด เขาทอดสายตามองตรงมาทางหญิงสาวที่ยืนอยู่เบื้องหน้า “แต่ละรุ่นต่างมีโอกาสแสดงความเป็นยอดฝีมือ!”
อันหลานซิ่วสีหน้าเรียบเฉย นางยืนนิ่งมิได้ปริปากอยู่ด้านหน้าเยี่ยหลิง
คนที่อยู่ด้านหลัง เยี่ยหลิงสงบนิ่งเงียบงัน ขณะนั้นเด็กสาวค่อยกำมือข้างขวาแน่นเข้าและพลังงานบางอย่างกำลังค่อยๆ ก่อตัวอยู่ข้างในอย่างเงียบเชียบ
ช่วงเวลานั้น ภายในสถาบันฝึกยุทธ์มีเสียงร้องโหยหวนดังสะท้อนก้องไปทั่วอย่างต่อเนื่อง
ป่าเถื่อน!
แม้ว่าสำนักกระบี่กับสถาบันฝึกยุทธ์จะร่วมมือกัน แต่มิใช่คู่ต่อสู้ของชุมนุมผู้คุมกฎแม้แต่น้อย ถ้าไม่มีการตั้งค่ายกลขนาดใหญ่ของสถาบันฝึกยุทธ์มากมายหลายค่ายกล บรรดายอดฝีมือพลังขั้นไขว่คว้าเต๋าของสถาบันฝึกยุทธ์คงสิ้นชื่อกันไปแล้ว
บนอากาศ ฉินเทียนไม่ได้ออกเคลื่อนไหว ทว่าเขากำลังคอย!
……กำลังคอยเยี่ยฉวนมาปรากฏตัว!
เยี่ยฉวนเก่งในการลอบสังหาร ถ้ามาปรากฏตัวย่อมหมายถึงจะมีคนของชุมนุมผู้คุมกฎตายอย่างแน่นอน หลังจากลอบฆ่าสำเร็จ เยี่ยฉวนจะหลบซ่อนในทันที
ฉินเทียนจึงต้องคอยให้เยี่ยฉวนแสดงตัวออกมา เมื่อใดที่เจ้าหนุ่มนั่นแสดงตัว……เขาจะปราบให้อยู่หมัด!
ฝ่ายชุมนุมผู้คุมกฎ กลุ่มยอดฝีมืออีกพวกที่อยู่นอกเขตนครอานุภาพ
เผ่าถัง!
ตอนที่ชุมนุมผู้คุมกฎจู่โจมสถาบันฝึกยุทธ์ คนพวกนี้มาถึงแล้ว……ถังชิง ถังเอ้อและถังเฝิงก็มาด้วย!
ด้านหลังคนทั้งสามติดตามมาด้วยกองพลม้าศึกจำนวนสามสิบนาย ล้วนแต่มีพลังขั้นไขว่คว้าเต๋ารู้ชะตาทั้งสิ้น!



