Skip to content

องครักษ์เสื้อแพร 561

ตอนที่ 561 วางแผนดำเนินงาน กล่าววาจาข่มกัน

“……เซิงเก๋อตูกู่เหลิงกับมเหสีสามร่วมกระโจม พวกข่านแต่ละเผ่าบนทุ่งหญ้าก็พากันไปแสดงความยินดีทีเมืองกุยฮว่าเฉิง…”

ชายหญิงบนทุ่งหญ้าสมรส ย่อมอยู่ร่วมกระโจม คำว่าสมรสร่วมกระโจมมีที่มาเช่นนี้ เรื่องนี้ร้านสามธารา ณ เหลียวโจวย่อมต้องรายงานมา

“เรื่องราวเช่นสัตว์ป่าเช่นนี้ ยังมีเรื่องมงคลอันใดให้กล่าวถึง!”

หยางซือเฉินอ่าน อดเสียดสีไม่ได้ หวังทงพิงพนักพิงยิ้มอธิบายว่า

“ชนชั้นสูงบนทุ่งหญ้าโปรดภรรยาหลวงหรือน้อย ก็มักมองสัตว์เลี้ยงให้เป็นรางวัล บนทุ่งหญ้ายังมีประเพณีหญิงเท่าเทียม การให้ภรรยาสืบทอดอำนาจไม่ได้น้อยไปกว่าการมอบให้ลูกหลาน พอหัวหน้าเผ่าตายไป ผืนที่ใหญ่ก็แบ่งเป็นหลายส่วน หากจะธำรงไว้ ก็ย่อมใช้วิธีการสมรสกัน”

ในห้องทุกคนพยักหน้า จางซื่อเฉียงข้างๆ กล่าวาขึ้นว่า

“เมืองเซวียนฝู่การค้ารุ่งเรือง ตอนนี้พวกชนชั้นสูงบนทุ่งหญ้าก็มารวมกันอยู่ที่เมืองกุยฮว่าเฉิง การป้องกันพื้นที่ก็ย่อหย่อนลงมาก เผ่าเล็กๆ บนทุ่งหญ้าก็ฉวยโอกาสลักลอบขนส่งผงฟูและสัตว์เลี้ยงมาขายที่เมืองเซวียนฝู่”

“ไม่ว่าหมิงหรือมองโกง มีโอกาสหาเงินได้ ผู้ใดย่อมไม่อาจปล่อยโอกาสไป!”

ได้ยินหวังทงกล่าวเช่นนี้ ทุกคนก็ยิ้ม หวังทงถามต่อว่า

“กู่จื้อปิน ของที่ขายดีที่สุดบนทุ่งหญ้าคืออะไร?”

คนของหวังทงล้วนอยู่ที่นี่กัน หวังทงถามขึ้น กู่จื้อปินรีบยืนขึ้นตอบว่า

“เสบียงอาหาร ผ้า เกลือ รองเท้าหนังอะไรพวกนี้ก็เอาหมด บางทีแม้แต่เข็มเย็บผ้าก็ยังขายได้ราคาสูง”

สินค้าบนทุ่งหญ้าขาดแคลน จากวาจานี้ก็เห็นได้ หวังทงมองไปกลางห้อง อย่าว่าแต่หลี่หู่โถว แม้แต่พวกถานเจียงเองที่เดิมนิสัยเคร่งขรึมก็ยังมีสีหน้าดูถูก

หวังทงส่ายหน้า กล่าวว่า

“พวกเจ้าคิดว่าพวกมองโกลอาศัยอันใดต่อสู้กับราชวงศ์หมิงเรามาหลายร้อยปีเช่นนี้ ก็เพราะว่าจนอย่างไรเล่า หากกินอิ่ม นอนอุ่น ผู้ใดอยากจะออกมาสู่สนามรบจับอาวุธกัน”

สีหน้าหลี่หู่โถวเผยรอยยิ้มมีเลศนัย กระซิบว่า

“ทหารกองกำลังหู่เวยกินอิ่ม นอนอุ่น แต่เข้าสู่สนามรบก็กล้าหาญ จากระดับพวกเราไปจนระดับล่าง ก็ไม่มีผู้ใดรักตัวกลัวตาย!”

ในห้องมีเพียงหลี่หู่โถวที่สามารถกล่าววาจาเช่นนี้กับหวังทงได้ ทุกคนพลอยยิ้มตามไปด้วย แต่คำถามนี้ก็ยังรอคำตอบจากหวังทงอยู่ ทุกคนไม่แน่ว่าจะคิดออก

หวังทงยิ้มก่อนจะทำท่าทางจริงจังกล่าวว่า

“ยุทโธปกรณ์พร้อม ฝึกเข้ม ระเบียบเข้มข้น ให้พวกเขากินอิ่มนอนอุ่น ชุดเกราะชั้นดี เงินทองดี พวกทหารไม่มีห่วง นี่เป็นเพราะยุทโธปกรณ์พร้อม ฝึกฝนทุกวันไม่หยุดพัก ไม่ปล่อยให้เกียจคร้าน ให้พวกเขาสุขภาพแข็งแรง ให้พวกเขารู้เทคนิคการรบ ให้พวกเขาไม่ลังเลต่อคำสั่งปฏิบัติการ นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าฝึกเข้มข้น สำหรับระเบียบเข้มนั้น ก็คือห้ามกระทำผิดคิดไม่ซื่อ ห้ามฝ่าฝืนคำสั่ง ห้ามหลบหนีโดยพลการ ผู้ฝ่าฝืนย่อมถูกลงโทษ ก็คือตัดหัว ให้พวกเขาเกรงกลัว นี่ก็คือที่เรียกว่าระเบียบเข้มข้น หากทำได้ดังนี้ ก็สามารถฝึกกองทัพขึ้นมาได้กองหนึ่ง กองกำลังหู่เวยเราก็เป็นกองทัพเช่นนี้!!”

วาจานี้กล่าวจบ ในห้องก็เงียบกริบ มีคนยังคงไม่เข้าใจ หากมีบางคนเริ่มคิด เงียบไปสักพัก ถานเจียงก็ถอนหายใจ กล่าวว่า

“นายท่านกล่าวได้ถูกต้อง แต่หลักการนี้มีผู้รู้กันมาก นอกจากพวกเราที่ทำได้แล้ว ก็ยังมีกองทัพใต้เท้าชีและใต้เท้าอวี๋”

ลูกน้องหวังทงในสำนักองครักษ์เสื้อแพร กองกำลังหู่เวย ร้านสามธารา ทุกคนจะมารวมตัวกันเป็นประจำที่กำหนด เพื่อวิเคราะห์ที่ผ่านมาและวางแผนงานใหม่ ผู้ที่สามารถปรากฏตัวพูดจาในที่นี่ได้ ก็เป็นดังโอกาสแห่งการเป็นที่รู้จัก หวังทงกำลังคุยเรื่องกองทัพ ทุกคนก็กำลังครุ่นคิด เป็นจังหวะให้กู่จื้อปินกล่าวขึ้นก่อนว่า

“นายท่าน หลายวันก่อนเมืองเซวียนฝู่กลับมารายงานบัญชี กล่าวกับข้าน้อยเรื่องหนึ่ง กล่าวว่าพ่อค้ามองโกลตอนเหนือไม่อยากเคี่ยวผงฟูเองแล้ว”

ผงฟูจากบนทุ่งหญ้าสามารถนำมาจากทะเลสาบละแวกนั้นไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นดินผงฟู ล้วนต้องเคี่ยวกลั่นในหม้อ หลักการนี้นอกจากพ่อค้าในห้องแล้ว ที่เหลือก็ไม่เข้าใจ

เห็นหวังทงพยักหน้า กู่จื้อปินก็กล่าวต่อว่า

“บอกว่าขนมาให้พวกเราเคี่ยวเองได้หรือไม่ ราคาลดได้มาก แต่ทางนั้นคิดดูแล้ว ดินผงฟูทำให้เราได้กำไรมากอีกครึ่ง แต่เราต้องจ้างคนมา สร้างโรงเคี่ยว เงินนี้เกรงว่าต้องสามปีจึงจะได้กำไรคืนมา”

“บนทุ่งหญ้าขาดแคลนฟืน หากใช้ขี้วัวในการนี้ เกรงว่าพวกเขาคงหุงหาอาหารกันลำบาก นี่เรื่องเล็ก แต่ราคานั้นสามารถกดลงให้ต่ำได้อีกสองสามส่วน”

หวังทงให้ข้อสรุป นี่เป็นเรื่องเล็ก กู่จื้อปินนำมากล่าวที่นี่เรียกได้ว่าเรื่องเล็กทำเป็นเรื่องใหญ่ แต่กู่จื้อปินพอรับคำสั่งก็ยังกล่าวต่อว่า

“นายท่าน นอกจากเรื่องนี้ ยังมีพวกเผ่าเล็กๆ ต้องการนำดินผงฟูแลกสุรา นายท่านเคยสั่งไว้ว่า ร้านสามธาราเราขายสินค้าให้พวกบนทุ่งหญ้า หากเปลี่ยนแปลงใดให้รายงานนายท่านก่อน”

กล่าวจบ กู่จื้อปินกล่าวเสริมต่อว่า

“สุราเหล่านี้ ต้องหาซื้อจากเมืองเซวียนฝู่ กับเป่าอันและเหยียนชิ่ง ราคาลดไม่ได้ หากใช้สุราแลก กำไรผงฟูเราย่อมหมดกัน……”

“ขาย! หากเผ่าอื่นต้องการสุรา พวกเราก็ขาย!”

เขายังกล่าวไม่ทันจบ หวังทงก็ตบโต๊ะ กล่าวหนักแน่น เขาสั่งการเช่นนี้ทำเอาคนในห้องตะลึง ใต้เท้าชาญฉลาดเช่นนี้ เหตุใดจึงทำการค้ากำไรน้อยลงเช่นนี้

เห็นทุกคนสีหน้าไม่เข้าใจ หวังทงยิ้มถามหม่าซานเปียวว่า

“ผีสุราขี่ม้าได้ไหม? ผีสุราจับดาบยิงธนูได้ไหม?”

หม่าซานเปียวอึ้งไป รับคำสบถว่า

“หากขี่ม้า ดื่มสุรามาก คนก็ย่อมร่วงจากหลังม้า ยังจะมีอันใดให้กล่าวต่ออีกกัน”

หวังทงพยักหน้า กู่จื้อปินกล่าวกับทุกคนต่อว่า

“พวกมองโกลเมาสุรายิ่งมาก เป็นประโยชน์ต่อหมิงเรายิ่งมาก รอให้พวกมันอดสุราไม่ได้ เจ้าค่อยขึ้นราคา ตอนนี้ขาดทุน ค่อย ๆ ถอนทุนคืนมาวันหน้า”

ทุกคนาจึงเข้าใจกระจ่าง หม่าซานเปียวยิ้มกล่าวว่า

“ใต้เท้ากล่าวได้ถูกต้อง บนทุ่งหญ้าหนาวเหน็บ ชายทางนั้นล้วนอยากสุรา เห็นสุราดี ก็เหมือนแมวจ้องปลา ย่อมหนีไม่พ้น”

หวังทงสั่งการลงไป กู่จื้อปินย่อมไม่รอช้า รีบออกไปจัดการตามคำสั่ง ซุนต้าไห่ตอนนี้เป็นพ่อบ้านหวังทง ในวงสนทนาเช่นนี้ เขาก็มักจะค่อยจัดเตรียมอาหารไว้รอต้อนรับทุกคน พอกู่จื้อปินออกไป ซุนต้าไห่ก็เข้ามากถามหวังทงว่า

“ใต้เท้า เมื่อครู่เสิ่นหวั่งส่งเทียบเชิญมา จะให้เข้าพบหรือไม่”

“……เสิ่นหวั่งมาได้ 4 วันแล้ว……”

“นำเรือมาแค่สามลำ น่าจะไม่ได้มาหาการค้าอันใด ……แต่คนร้านหลูไห่กำลังตรวจบัญชีร้านประกันภัยอยู่ บอกว่ามีความคิดถอนหุ้น……”

ทุกคนเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ หวังทงกวักมือเรียกทังซานมาถามว่า

“เรือ เหลียงเต้าเฉิงจัดการมาให้แล้วใช่ไหม!”

ทังซานรีบคำนับรับ หวังทงใช้นิ้วเคาะโต๊ะ สั่งการว่า

“ปล่อยเรือกวางบิน เรือเจิ้นไห่……เคลื่อนไปยังท่าเรือทหารเรา ไปจัดการตอนนี้เลย จำไว้ว่าให้หน่วยรักษาความปลอดภัยเราจัดการพื้นที่ให้เรียบร้อยก่อนค่อยเคลื่อนย้าย”

สั่งการเสร็จ ทังซานก็ออกไป ในห้องนำยทหารยืนขึ้นพร้อมกัน มองหวังทงอย่างเคร่งเครียด หวังทงกวาดตามอง หลี่หู่โถวตื่นเต้นถามขึ้นว่า

“พี่ใหญ่ จะรบกับเสิ่นหวั่งแล้วหรือ?”

หวังทงหยิบจอกชาขึ้นจิบ ส่ายหน้ากล่าวว่า

“เขาอยู่ประเทศวัว เราอยู่แผ่นดินหมิง ข้ามีเรือแค่ไม่กี่ลำ จะรบอย่างไร?”

ทุกคนอึ้งไป หวังทงหันไปกล่าวกับซุนต้าไห่ว่า

“ไปบอกเสิ่นหวั่ง พรุ่งนี้ตอนบ่ายมาพบได้ ไปชมริมทะเลด้วยกัน”

ซุนต้าไห่พยักหน้ารับคำสั่ง ออกไปตอบ หวังทงหันกลับไปเห็นสีหน้าทุกคนแล้วก็ยิ้มกล่าวว่า

“ไม่ต้องกังวล ป้อมปืนเราแน่นหนา ราชาทะเลอย่างเสิ่นหวั่งก็ไม่อาจทะลายแนวป้องกันเราได้ รอให้อู๋ต้าส่งข่าวมาก่อน ทะลายท่าเรือลับพวกมันได้ เราก็ยิ่งไม่ต้องกลัวภัยอันใดแล้ว”

“แต่เรือที่ไปมาเทียนจินหากถูกปล้น……”

หลายคนแอบวิจารณ์กัน หวังทงยิ้มกล่าวว่า

“ดังนั้นจึงต้องเจรจา อวดเบ่งบารมีใส่กันสักหน่อย”

*************

วันที่ 2 เดือนเก้าช่วงเที่ยง หวังทงนำผู้ติดตามสิบกว่านายไปยังบริเวณเขตการค้าริมแม่น้ำทะเล เสิ่นหวั่งในชุดยาวสีม่วงกำลังรออยู่ นำคนมาเพียงสองคน

“ใต้เท้าหวัง ไม่เจอกันนาน!”

เสิ่นหวั่งคำนับตามมารยาทสูงสุด หวังทงยิ้มพยักหน้า เสิ่นหวั่งขึ้นม้าตามหลังม้าหวังทงราวครึ่งหัวม้า เดินไปข้างหน้าพร้อมกัน

“อากาศแจ่มใสในฤดูใบไม้ร่วง ฟ้าเปิดทะเลกว้าง เป็นเวลาดีแห่งการออกท่องเที่ยว คิดไม่ถึงว่า ใต้เท้ามีอารมณ์ท่องเที่ยวนี้ด้วย!”

เสิ่นหวั่งเอ่ยขึ้นก่อน หวังทงดึงบังเหียนไว้ ยิ้มกล่าวว่า

“เถ้าแก่เสิ่นเหมือนว่าร่ำเรียนตำรามา”

“ใต้เท้าล้อข้าเล่นแล้ว ข้าน้อยปีนั้นอยู่บ้านนอกเคยร่ำเรียนมาบ้าง มีตำแหน่งระดับบัณฑิตซิ่วไฉอยู่ หากไม่มีวาสนาต่อ ทะเลเทียนจินแม้ว่าอากาศดี แต่ก็ไม่เท่าเหรินชวน ไม่ทราบว่าใต้เท้าเคยไปเยือนหรือไม่”

หวังทงหันไปมอง สีหน้าเสิ่นหวั่งปกติดี หวังทงส่ายหน้ายิ้มเล็กน้อยถามว่า

“เถ้าแก่เสิ่นเรียกได้ว่าเป็นราชาแห่งท้องทะเล หากว่าอยากลงมือกับเทียนจิน สามารถทำได้ถึงขั้นใดกัน”

“ใต้เท้าไยกล่าวเช่นนี้ ข้าน้อยจะเป็นคู่หูการค้าที่เสียสติเช่นนี้ได้อย่างไร แต่ทว่า หากข้าน้อยลงมือกับท่าเรือใดท่าเรือหนึ่งของเทียนจิน ป้อมปืนใหญ่พวกนี้ย่อมไม่อาจฝ่าไปได้ แต่สามารถทำให้ท่าเรือนั้นไม่อาจมีเรือเข้าออกอีกตลอดไปได้ แม้เรือประมงก็ไม่อาจ”

วาจาแม้ว่าสบายๆ แต่ตอนท้ายแฝงแววอำมหิต หวังทงหันไปมอง ยิ้มไม่กล่าวอันใด

**************

“เรือสองลำนี้ กับเรือกวางตุ้งอีกเจ็ดลำ ย่อมไม่อยู่สายตาเถ้าแก่เสิ่น!”

จอดอยู่ที่ท่าจอดเรือทางนั้น หวังทงยิ้มถาม สีหน้าเสิ่นหวั่งแม้มีรอยยิ้ม หากไม่เป็นธรรมชาติ เรือปืนใหญ่สองลำรวมแล้วก็มีปืนใหญ่เกือบร้อย คิดจะรบกันก็ย่อมสูญเสียหนัก ยังมีเรือกวางตุ้งหลายลำรายรอบบังไว้ การรบทางทะเลก็ย่อมยิ่งยุ่งยาก แม้เสิ่นหวั่งมีเรือมาก แต่ไม่ใช่เรือใหญ่เช่นนี้

“เรือรบหลวงที่เหลียวโจว 50 ลำ เกรงว่าเถ้าแก่เสิ่นก็คงไม่เห็นอยู่ในสายตา เรือรบหลวงที่กวางตุ้ง 200 กว่าลำ เถ้าแก่เสิ่นก็คงยิ่งดูแคลนกระมัง?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!