Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 358

№ 358 เจ้าหนู! ช่วยข้าด้วย!

“คน คนนี้ใครกัน?”

ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังสี่คนนั้นมองร่างผอมเล็กที่เดิมเคยนั่งนิ่งอยู่ยืนขึ้นและพุ่งออกไปอย่างกะทันหันด้วยความตกตะลึง มายังสถานที่ที่ห่างจากพวกเขาแค่ราวๆ ห้าหกเมตรเพื่อลากชายหนุ่มที่เนื้อตัวมอมแมมขึ้น หลังใช้มือข้างหนึ่งปิดปากปิดจมูกเขาไว้ก็ลากคนออกไปนอกเขตอาคม พวกเขาจึงมองตาค้างโดยฉับพลับ

พวกเขาเข้าค่ายกลนี้มาพร้อมวรยุทธ์ระดับหลอมแก่นพลังเพียงรู้สึกว่าร่างกายไร้เรี่ยวแรงแม้แต่ลุกยืนยังทำไม่ได้ แล้วร่างเล็กๆ นั่นทำได้ยังไง? ด้านในนี้นอกจากเขตอาคมกับค่ายกลยังมีเสียงวิญญาณของผีสาวชุดแดงคอยปั่นป่วนจิตใจ หากไม่มีวรยุทธ์ระดับหลอมแก่นพลังก็ไม่มีทางต่อต้านได้เลย

แต่ แต่ว่าภาพในตอนนี้กลับทำลายแบบแผนนี้เสียดื้อๆ ทำให้ในหัวพวกเขาว่างเปล่ามองภาพเช่นนี้ด้วยความตกใจ

กลิ่นฉุนกึกพุ่งตรงเข้าสู่ห้วงความคิดทำให้หลัวอวี่พลันตื่นตัวขึ้นมา เมื่อเห็นสิ่งของบางอย่างที่ทั้งแปลกประหลาดและน่าสยดสยองรอบข้างก็อดไม่ได้ที่จะอุทานขึ้น “อ๊ะ! บ้าอะไรเนี่ย!”

“ผีกินคน! ยังไม่รีบหนีอีก!”

เฟิ่งจิ่วเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะดึงคอเสื้อลากเขาพุ่งไปนอกเขตอาคมทันทีอย่างรวดเร็ว

เวลานี้ชายชราผอมแห้งผู้ชั่วร้ายได้สติกลับมาจากตื่นตระหนก ดวงตาเห็นทั้งสองคนจะหนีออกจากเขตอาคม พอเขาสะบัดฝ่ามือเพียงเห็นเลือดสดผุดขึ้นจากพื้นดินราวกับน้ำพุเลือดที่ซัดสาดขึ้นมาหลั่งไหลออกจากเขตอาคมแล้วย้อนกลับมาอีกครั้ง

และทันใดนั้นเองเมื่อเฟิ่งจิ่วกระชากคอเสื้อหลัวอวี่โผไปข้างหน้าโดยไม่อาจถอยกลับ ยังไม่ทันปะทะกับน้ำพุเลือดนั้นก็ถูกดีดกลับมา

“ผัวะ!”

“ซี๊ด!”

เสียงกระแทกดังขึ้น หลังจากทั้งสองโดนดีดกลับมาก็ล้มก้นจ้ำเบ้าลงไปนั่งบนพื้น ยังไม่ทันลุกยืนขึ้นก็เห็นว่าใต้ผืนดินที่นั่งอยู่มีมือโครงกระดูกคู่หนึ่งจับขาไว้และใช้กำลังลากพวกเขาลงไป

“ออกไปให้พ้น!”

หลัวอวี่ตะโกนลั่นยื่นขาออกไปเตะมือโครงกระดูกคู่นั้นให้แตก ใครจะรู้ว่ามันกลับแข็งแกร่งดั่งเหล็กเตะยังไงก็ไม่แตกหักเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามแรงที่ดึงเขาลงไปในดินกลับยิ่งมากขึ้นสองขาจึงจมลึกลงเพราะเหตุนี้ ในขณะที่กำลังเสียขวัญไปบ้าง เมื่อมองไปทางนายท่านกลับต้องตกใจในความห้าวหาญของนาง

แค่เห็นนางจ้องมองมือโครงกระดูกคู่นั้นที่คว้าดึงสองขาลงไปด้วยสีหน้าไม่น่ามองนักคล้ายจะถูกทำให้โกรธเคือง หลังจากใช้มือบีบโครงกระดูกจนแตกเสียดื้อๆ ก็เตะเท้าลุกยืนขึ้นมา ปากพ่นคำสบถด้วยความรังเกียจ

“บ้าเอ้ย! ของบ้าพวกนี้สกปรกชะมัด!”

หลัวอวี่มองนางอย่างอึ้งๆ แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยรู้ว่านายท่านที่สง่างามไร้ที่ติ อ่อนโยนไร้พิษสง และเจ้าเล่ห์ปานจิ้งจอกในบางครั้งจะพ่นคำสบถได้อย่างคาดไม่ถึง!

เขาพลันได้สติกลับมาเห็นสองมือตนเองถูกมือโครงกระดูกจับไว้เช่นกัน จึงอุทานเสียงหลงทันใด “นายท่าน! ช่วยด้วยขอรับ!”

เฟิ่งจิ่วหันกลับไปมองเห็นเขายังนั่งอยู่บนพื้นและโดนมือโครงกระดูกจับแขนไว้ ใช้นิ้วมือจับข้อนิ้วดีดออกไปทันที แค่ได้ยินเสียงผัวะๆ ดังขึ้นสองสามเสียง โครงกระดูกที่จับหลัวอวี่ไว้ต่างก็กะเทาะแตกออกกระจายลงบนพื้น

“ไป!”

มือหนึ่งเธอกระชาดคอเสื้อลากเขาขึ้นมาไม่ร่วมการต่อสู้ สายตาจับจ้องยังเขตอาคมนั้นอีกครั้งคิดจทำลายมันออกไป

ส่วนผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังทั้งสี่ที่เห็นนางแค่ดีดนิ้วใช้วิชายุทธ์ก็จัดการได้ต่างมีดวงตาแวววาว นัยน์ตามีประกายแห่งความหวังผุดขึ้น เห็นนางจะลากชายหนุ่มคนนั้นหนีจึงส่งเสียงตะโกนลั่นทันที

“เจ้าหนู! ช่วยเราด้วย!”

ได้เสียงร้องขอความช่วยเหลือที่ลอยมาจากด้านหลังมุมปากเฟิ่งจิ่วกระตุก แล้วพูดโดยไม่หันหน้ากลับไป “ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลันขอร้องให้ข้าช่วยเนี่ยนะ? อย่ามาล้อเล่นน่า!”

………………………..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!