Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 424

№ 424 จวนตระกูลเฟิ่งเปิดประตู!

เฟิ่งจิ่วที่ล้างมือกลับมาเรียบร้อยเหลือบมองหลัวอวี่แวบหนึ่ง บอกว่า “หยิบกระบอกระเบิดบนโต๊ะมา แล้วตามข้าออกไป”

“ขอรับ!” หลัวอวี่รีบขานรับด้วยความเคารพ เข้าไปหยิบข้าวของบนโต๊ะมา จากนั้นค่อยตามหลังนางออกไป

เหล่าอาจารย์ของหลัวอวี่เฝ้าอยู่ภายในเรือนเฟิ่งเซียว คอยดูแลความปลอดภัยของเขา ส่วนพวกฉีคังเฝ้าระวังอยู่ด้านหน้าจวน และยามนี้ตรงหน้าประตูใหญ่จวน มีกองกำลังสองขบวนกำลังยืนประจันหน้ากัน แถวหนึ่งขนสินสอดทองหมั้น อีกแถวหนึ่งเป็นองครักษ์ตระกูลเฟิ่งผู้กล้าหาญในชุดเกราะสีเงินเหมือนๆ กัน

ห่างออกไปประมาณร้อยเมตร คนที่มุงดูพวกนั้นมองกองกำลังสองขบวนยืนประจันหน้า แต่ละคนมีท่าทีแปลกใจ รูปแบบการสู่ขอเช่นนี้เพิ่งเคยเห็นครั้งแรก แต่สำหรับเรื่องคลุมถุงชนอะไรนั่น เดาว่าสุดท้ายก็ต้องสู้กัน ไม่รู้ว่ากองกำลังทั้งสองขบวนนี้สู้กันขึ้นมาใครจะชนะ?

แม้ในใจจะคิดเช่นนี้ แต่แทบทุกคนต่างรู้ดี แม้องครักษ์จวนตระกูลเฟิ่งจะโดดเด่น ก็ยังไม่มีคุณสมบัติพอจะสู้รบกับผู้ฝึกวิชาเซียนแคว้นเหินเวหา อีกทั้งกำลังของผู้ฝึกเซียนที่รัชทายาทพามาก็ไม่ได้ด้อย ต้องรู้ไว้ว่ากำลังต่อสู้ของผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังสามารถต้านทานทหารอารักขาได้ร้อยถึงพันคน ต่อให้คนจวนตระกูลเฟิ่งมากมายกว่านี้ หากไม่มีกำลังทัดเทียมก็ไม่มีทางสู้พวกเขาได้

“องค์ชายรัชทายาทมาสู่ขอด้วยตัวเอง ยังไม่รีบเปิดประตูจวนอีก!”

ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนหนึ่งก้าวออกมาตะโกนเสียงดัง เห็นเพียงแรงกดดันจากวรยุทธ์ระดับหลอมแก่นพลังกระจายออกไปราวกับลายน้ำ โจมตีไปทางเหล่าองครักษ์ที่ขวางอยู่หน้าประตูจวน พลังมหาศาลของแรงกดดันนี้มากเกินกว่าที่เหล่าองครักษ์จะต้านทานไหว แค่ตะโกนมาเช่นนี้ แต่ละคนก็รู้สึกว่าเลือดลมในอกปั่นป่วน มีกลิ่นคาวเลือดพุ่งขึ้นมาในลำคอ ทำท่าจะทะลักออกมา

ร่างกายยิ่งแข็งทื่อท่ามกลางเสียงตะโกนที่แฝงด้วยแรงกดดันนี้ มีความรู้สึกที่อยากขยับตัวแต่ทำไม่ได้ ความรู้สึกกดดันที่ทรงพลังนั้นทำให้ในดวงตาพวกเขาปรากฏเส้นเลือดหลายเส้น บุรุษผู้กล้าตายแต่ละคนจึงยืนตัวตรงอยู่เช่นนั้น ดวงตาดุดันจับจ้องผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนนั้น

สำหรับเรื่องนี้ นัยน์ตาผู้ฝึกตนคนนั้นฉายแววประหลาด พลังขององครักษ์พวกนี้ไม่ถึงระดับยอดปรมาจารย์นักรบ เผชิญหน้ากับแรงกดดันระดับหลอมแก่นพลัง นึกไม่ถึงว่าจะยังยืนตัวตรงอยู่เช่นนี้ได้ ไม่บอกไม่ได้เลยว่าทำให้เขาต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่

หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น แม้เป็นผู้ฝึกเซียนระดับสร้างรากฐานก็ยังไม่กล้าจ้องเขาภายใต้แรงกดดันเช่นนี้ บอกได้เพียงว่าองครักษ์ตระกูลเฟิ่งเป็นบุรุษใจแกร่งที่เด็ดเดี่ยวจริงๆ แต่ละคนมีกายเหล็ก ไม่ยอมแพ้ใครโดยง่าย มิน่ากองกำลังองครักษ์ตระกูลเฟิ่งถึงทำให้หลายแคว้นโดยรอบสะพรึงกลัวได้

พวกฉีคังเฝ้าอยู่หน้าประตู จ้องมองผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนนั้น กลิ่นอายแข็งแกร่งถาโถมมา ทำให้พวกเขารู้ชัดถึงพลังอันแข็งแกร่งของผู้ฝึกวิชาเซียนจากแคว้นเรืองอำนาจ พลังนั้น พวกเขาไม่อาจต้านทานได้แน่

เมื่อรู้สึกว่าพวกเขาจะทนแรงกดดันทรงพลังนี้ไม่ไหว เลือดที่พลุ่งพล่านในอกจะกระอักออกจากปาก ประตูใหญ่ด้านหลังก็ค่อยๆ เปิดออก ในเวลานี้ ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังตรงหน้าถึงจะเก็บแรงกดดันที่แผ่ออกมากลับไปในที่สุด

“นายท่าน!”

ทั้งเจ็ดคนหันกลับไปมองเจ้านายในชุดสีแดงที่เดินออกมา แม้ยังไม่ยอมรับนาย แต่พวกเขาก็เรียกว่านายท่านไปตามสัญชาตญาณแล้ว

ทว่า…

เมื่อเห็นรอยยิ้มอิ่มเอมที่เบ่งบานบนใบหน้างามเลิศ รวมถึงประกายในดวงตาคู่งามซึ่งหรี่หลงครึ่งหนึ่ง ใจพวกเขาก็เย็นวาบ ถอยไปข้างๆ โดยไม่ส่งเสียง

อาจเพราะค่อยๆ คุ้นเคยกับนางแล้ว พวกเขาจึงเข้าใจว่ายิ่งนายท่านยิ้มหวาน ยิ่งแสดงท่าทีไร้พิษสง ก็ยิ่งอันตราย…

……………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!