№ 534 ข้ามองผิดไปกระมัง?
หลิงโม่หานกวาดมองเขาแวบหนึ่ง เข้าห้องไปทันทีโดยไม่ตอบกลับ แค่ทิ้งคำพูดประโยคหนึ่งไว้ว่า “อย่าให้ใครรบกวนข้าพักผ่อน”
ประตูห้องปิดลงดังปัง ฮุยหลางเช็ดๆ จมูกพลางมองทางอิ่งอี เห็นสหายมีสีหน้าครุ่นคิดจึงถามขึ้น “คิดอะไรอยู่?”
“ผู้หญิงคนนั้น ข้านึกออกแล้ว” อิ่งอีพูดจบ สายตาก็เคลื่อนจากร่างของผู้หญิงด้านล่างมาหยุดลงที่ฮุยหลาง
“ใคร?” เขาเองก็ตามรับใช้อยู่ข้างกายนายท่านบ่อยครั้ง ทำไมถึงนึกไม่ออกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร
“อาจารย์สำนักศึกษาหกดาราจากแคว้นระดับสาม และก็เป็นคนที่ชอบพอนายท่าน” อิ่งอีพูดพลางมองผู้หญิงที่ชั้นล่าง “นึกไม่ถึงว่าจะได้เจอหน้ากันที่นี่”
พูดถึงตรงนี้ สีหน้าเขาฉายแววประหลาดบางส่วน กำลังคิดว่าหากภูตหมอเห็นหญิงคนนี้จะเป็นเช่นไร? นี่ถึงเป็นคนที่ชอบพอนายท่านเลยเชียว
“อ้อ? นางนั่นเอง! มิน่าถึงบอกว่ารู้สึกคุ้นตา” ทันใดนั้น ในที่สุดฮุยหลางก็นึกออกว่าผู้หญิงตรงชั้นล่างนั้นเป็นใคร
ตอนที่นายท่านปะปนอยู่ในสำนักศึกษาหกดาราแห่งแคว้นเหินเวหาด้วยตัวตนหลิงโม่หาน ว่ากันว่าผู้หญิงคนนี้ตามตื๊อนายท่านตลอด พวกเขายังเคยเห็นเลย แต่ไม่นึกว่าอาจารย์หญิงคนนั้นจากสำนักศึกษาหกดาราจะมาที่นี่ และยังพบกับนายท่านอีก
“นี่ เจ้าว่าหากภูตหมอเห็นผู้หญิงด้านล่างคนนั้นจะเป็นอย่างไร?” ฮุยหลางถามอย่างอยากรู้อยู่บ้าง ดวงตาคู่นั้นฉายประกายตื่นเต้นดีใจ
อิ่งอีชำเลืองมองเขา “ถึงเวลาก็รู้เองไม่ใช่หรือ?”
ได้ยินคำพูดนี้ แม้รู้ว่าเป็นความจริง แต่ยามนี้หัวใจกลับตื่นเต้น พวกเขาไม่กังวลว่าภูตหมอจะลำบากใจใต้เงื้อมมือผู้หญิงคนนั้น พวกเขาแค่อยากรู้ว่าหากเห็นว่ามีผู้หญิงกล้ามาตามติดนายท่าน ภูตหมอจะเป็นเช่นไร?
หึงหวง? พวกเขาเหมือนจะไม่เคยได้ยินว่าภูตหมอหึงหวงมีท่าทางเช่นไร ไม่อาจจินตนาการภาพนั้นได้โดยสิ้นเชิง
โกรธเคือง? ข้อนี้กลับเป็นไปได้ยิ่งนัก
ทว่า สิ่งที่ทำให้พวกเขาต้องรอนานคือเฟิ่งจิ่วกลับหลับจนท้องฟ้าค่อยๆ มืดเสียได้ ถนนใหญ่เริ่มจุดโคมไฟสีแดง แม้แต่นายท่านพวกเขายังตื่นนอนเดินออกจากห้อง มานั่งยังบริเวณชั้นหนึ่งแล้ว
ส่วนผู้หญิงคนนั้น หลังจากตามหลังเจ้าตำหนักกลับมาก็ยังไม่ออกไป ด้วยเหตุนี้เมื่อหลิงโม่หานลงมาดื่มชาที่ชั้นหนึ่ง นางจึงนั่งลงที่โต๊ะเขาโดนไม่เกรงกลัวไอเย็นบนร่าง พร้อมหาเรื่องพูดคุยสร้างความคุ้นเคย
แน่นอนว่าหลิงโม่หานเพียงดื่มชาเงียบๆ ไม่ตอบกลับสักประโยค ถึงกับไม่แม้แต่จะมองหญิงผู้มีรูปโฉมโดดเด่นคนนั้น
จนกระทั่งได้ยินเสียงเปิดประตูห้องปีกตรงชั้นสองดังมา แววตาถึงจะสั่นไหวเล็กน้อย คล้ายกำลังนั่งคอยอะไรบางอย่างเงียบๆ
เฟิ่งจิ่วที่เพิ่งตื่นนอนใบหน้างดงามยังดูง่วงงุนงง ดวงตาที่หรี่ลงครึ่งหนึ่งมีความเกียจคร้านอยู่บางส่วน ชุดสีแดงแสบตาสวมอยู่บนร่าง อาจเพราะเพิ่งตื่นนอน ตรงปกสาบเสื้อด้านหน้าจึงยังจัดการไม่เรียบร้อย ซ้ำยังเปิดออกเล็กน้อย เผยให้เห็นผิวพรรณขาวราวหิมะ ระหว่างเคลื่อนไหวทั่วร่างมีกลิ่นอายเฉื่อยชา เธอยกมือขึ้นพลางหาวหวอด ถามเหลิ่งซวงที่เฝ้าอยู่ตรงประตูไปเรื่อยเปื่อย
“ท่านอากลับมาหรือยัง?”
“กลับมาแล้วเจ้าค่ะ นั่งอยู่ชั้นล่าง” เหลิ่งซวงตอบกลับ สายตามองไปชั้นล่าง เฟิ่งจิ่วได้ยินก็เดินมาก้มลงมองบริเวณระเบียง เห็นแล้วเธอเบิกตาโตทันที ความง่วงงุนทั่วทั้งร่างพลันตื่นตัวขึ้นมาเกินครึ่ง สีหน้าทั้งเหลือเชื่อและสงสัย
“ข้ามองผิดไปกระมัง? นึกไม่ถึงว่าท่านอาจะพาผู้หญิงกลับมาด้วย?”
…………………..