Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 548

№ 548 ความจนใจของผู้เฒ่าเฟิ่ง

ซู่ซีเห็นแล้วถลึงตาคู่งาม รีบร้อนโน้มร่างลงประคองเขาขึ้น “ดูท่านสิ กลัวถึงเพียงนั้นเชียว?”

“อย่าๆๆ ข้าลุกเองได้” ผู้เฒ่าเฟิ่งโบกมือรัวๆ ตกใจจนขยับไปด้านหลัง สองตาไม่แม้แต่จะกล้ามองนาง

เห็นดังนั้นซู่ซีก็กัดฟันกรอด ทั้งเขินอายจนโกรธเคืองและเจ็บใจนิดหน่อย มองเขาทั้งเบ้าตาแดงเรื่อ ก่อนจะใช้แขนเสื้อปิดหน้าวิ่งหนีไปโดยเร็ว

“เฮ้อ!”

ผู้เฒ่าเฟิ่งถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ในใจมีความรู้สึกที่ไม่อาจเอ่ย เขายังไม่ลุกขึ้น นั่งอยู่บนพื้นเช่นนั้น สองขาขัดสมาธิ แล้วหยิบน้ำเต้าสุราตรงเอวมาดื่ม ผ่านไปนานถึงจะลุกขึ้นปัดๆ ชุดคลุมที่เปื้อนฝุ่น เดินเอามือไพล่หลังออกไป

ตรงมุมมืด องครักษ์ลับสองคนแอบตามไป ไม่ใช่ว่าพวกเขาอยากตาม แต่ผู้นำตระกูลสั่งไว้ว่าจะปล่อยเป้าหมายหนีไปไม่ได้

เดินออกประตูใหญ่บ้านตระกูลหลินมาแล้ว ผู้เฒ่าเฟิ่งสูดหายใจเข้าลึกๆ จัดระเบียบชุดคลุมเดินไปทางถนนใหญ่ เขาเป็นแค่ตาเฒ่าคนหนึ่ง สวมชุดคลุมสีเทาไม่สะดุดตา สิ่งเดียวที่พิเศษคือน้ำเต้าสุราตรงเอว เขาเดินคนเดียวบนถนนใหญ่เช่นนี้ไม่ดึงดูดสายตาคนอื่นแน่นอน

เขาหันมองรอบๆ ด้านนอก เห็นคนสัญจรไปมาบนถนนคึกคัก เขาไม่ได้ไปสถานที่อย่างโรงเหล้าหรือโรงเตี๊ยม แต่หามุมตามใจ แล้วนั่งขัดสมาธิบนถนนพลางดื่มเหล้า ไม่รู้กำลังคิดอะไร

อาจเพราะเขาดูแล้วไม่ต่างอะไรกับขอทานพเนจรแก่ๆ ถึงมีคนโยนเหรียญเงินให้ เสียงเหรียญกระทบดังขัดจังหวะความคิดของผู้เฒ่าเฟิ่ง พอได้สติกลับมาก็เก็บเหรียญเงินบนพื้นขึ้นมาอย่างตกใจเล็กน้อย สีหน้าแปลกใจ

องครักษ์ลับตรงมุมมืดเห็นแล้วมุมปากอดกระตุกไม่ได้ เพราะผู้เฒ่าเฟิ่งคนนี้อยู่บ้านตระกูลหลินมาหลายวันแล้ว ผู้นำตระกูลยังเคยสั่งองครักษ์ลับไปสอบถามเรื่องทางราชวงศ์เฟิ่งหวง ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงรู้ว่าผู้เฒ่าคนนี้เป็นบิดาของผู้ครองแคว้นราชวงศ์เฟิ่งหวง

แต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะไม่วางท่าเลยสักนิด หลังจากเดินเล่นบนถนนใหญ่สองสามรอบก็หามุมนั่งขัดสมาธิดื่มเหล้า ไม่นึกว่ายังมีคนโยนเหรียญเงินให้อีก นี่เห็นเขาเป็นขอทานหรือ?

ครั้นเห็นท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เขาก็ไม่มีความคิดจะกลับไป องครักษ์ลับทั้งสองพูดคุยเสียงเบา หนึ่งคนในนั้นมุ่งไปยังจวน

ซู่ซีในชุดกระโปรงงามสง่าตามองครักษ์ลับมา เห็นร่างนั้นนั่งเหม่อลอยตรงมุมถนนอยู่ไกลๆ ไม่รู้กำลังคิดอะไร ท่าทางเซื่องซึมไร้สติ คิ้วขมวดเล็กน้อย ใบหน้ามีความเศร้าหม่นที่ไม่แปรเปลี่ยนไป

นางเห็นเขาเป็นเช่นนี้พลันเจ็บปวดใจ ในใจหดหู่ขึ้นมา เอ่ยถามตัวเองเสียงเบาอย่างอดไม่ได้ว่าไม่ควรบังคับเขาเช่นนี้ใช่หรือไม่?

ฝีเท้าที่เดิมทีเตรียมจะเดินเข้าไป เพราะเห็นเขานั่งงงงันอยู่ตรงนั้นจึงก้าวไม่ออก นางยืนมองตรงมุมถนน อยู่เป็นเพื่อนเขาเงียบๆ

องครักษ์ลับสองคนเห็นเช่นนี้ก็มองหน้ากันทันควัน มองตาเฒ่าที่นั่งตรงมุมถนน แล้วมองท่านน้าซู่ซีที่ยืนตรงมุมถนนอีกด้าน ทั้งสองต่างหมดคำจะพูด

จนกระทั่งท้องฟ้ามืดลงแล้ว ผู้เฒ่าเฟิ่งถึงจะลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า มือไพล่หลังพลางเดินไปยังบ้านตระกูลหลิน

มุมถนนอีกด้านหนึ่ง ซู่ซียังไม่ปรากฏตัว เพียงมองอยู่ไกลๆ ตามไปอย่างเงียบเชียบ รอจนเขาผ่านประตูใหญ่เข้าไปภายในเขตเรือน ถึงจะสั่งคนรับใช้ในจวนเตรียมพวกของกินส่งไปให้เขา

ชายอายุสี่สิบกว่าผู้หนึ่งเดินออกมา เมื่อเห็นซู่ซีจึงเผยรอยยิ้มออกมา “ท่านน้า ท่านพ่อตามหาท่าน บอกว่าท่านกลับมาแล้วให้ไปที่ห้องหนังสือหน่อยขอรับ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!