Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 564

№ 564 แสงไฟยามวิกาล

ชายชราระดับกำเนิดวิญญาณคนหนึ่งชำเลืองมองสองคนด้านใน ผลักเหลิ่งซวงไปข้างๆ “ไปยืนข้างๆ” สิ้นเสียงร่างเขาพลันพุ่งไปด้านใน ได้ยินเพียงเสียงกรีดร้องโหยหวนสองเสียงดังมา จากนั้นทั้งเรือนก็กลับสู่ความเงียบสงบทันที

“พี่เหลิ่งซวง!”

เหลิ่งหวาให้ฮุยหลางพามา เมื่อเห็นพี่สาวในลานบ้านที่เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งก็สูดหายใจเฮือก รีบร้อนถอดเสื้อนอกบนร่างคลุมมาให้นาง “พี่เหลิ่งซวง ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?”

ฮุยหลางพินิจมองนางจากบนลงล่าง เห็นว่าแค่คอเสื้อถูกฉีกขาด แขนโดนกรีดบาดเจ็บเลือดไหลเล็กน้อย ถึงจะแอบโล่งใจ โชคดีที่ไม่เป็นอะไร หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นจริงนั่นต้องเป็นปัญหาแน่

“ข้าไม่เป็นไร” เหลิ่งซวงส่ายหน้า เห็นสีหน้าเขาเป็นกังวลจึงเสริมอีกประโยค “แค่โดนเศษแก้วบาด”

เหลิ่งหวาพันแผลหยุดเลือดให้นางโดยเร็ว พลางบอกว่า “พี่เหลิ่งซวง ท่านไม่รู้หรอกว่าตอนท่านหายไปข้ากับนายท่านร้อนใจแทบตาย นายท่านให้คนของเจ้าตำหนักยมราชตรวจสอบ ซ้ำยังไปตลาดมืดให้คนช่วยดูอีก นางพาข้าวิ่งไปตามหาท่านตั้งหลายที่ โชคดีที่ท่านไม่เป็นอะไร”

ได้ยินเช่นนี้ เหลิ่งซวงอบอุ่นในใจ ขณะกำลังจะพูดก็เห็นร่างสีแดงโผเข้ามา จึงขานเรียกทันที “นายท่าน”

เฟิ่งจิ่วมองนาง พินิจมองจากบนลงล่างเสียก่อนถึงจะพยักหน้า “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” จากนั้นสายตามองไปด้านในเรือน

เห็นชายชราชุดเทาคนนั้นเดินออกมา สายตาหยุดลงบนร่างเฟิ่งจิ่ว ชะงักเล็กน้อยแล้วจึงพยักหน้า บอกว่า “ไม่มีใครเหลือรอดขอรับ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วมองชายชราแวบหนึ่ง บอกเหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาว่า “พวกเจ้ากลับไปเถอะ! ฮุยหลาง เผาเรือนหลังนี้ทิ้งซะ”

“ขอรับ”

พวกเขาขานรับ แล้วตามหลังนางจากไป ส่วนชายชรากระโจนขึ้น หายลับไปกลางค่ำคืนมืดมิด เปลวไฟแล่นตรงไปในเขตเรือนและลุกโชนขึ้นมา แสงไฟส่องสว่างไปกว่าครึ่งฟ้าราตรี กลุ่มอำนาจแต่ละฝ่ายภายในเมืองซานเจียงต่างแตกตื่นเช่นกัน…

บ้านตระกูลหลิน

“ทำไมทางตะวันตกของเมืองถึงมีไฟไหม้ รู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น?” ผู้นำตระกูลหลินสอบถามกลุ่มคนที่นั่งด้านล่าง

“เรือนหลังนั้นเป็นที่พำนักของลูกหลานสายตรงของตระกูลจงคนหนึ่งที่พฤติกรรมค่อนข้างเหลวไหล ใช้สำหรับซ่อนผู้หญิงโดยเฉพาะ เดาว่าคงไปล่วงเกินใครเข้าถึงถูกวางเพลิง ส่วนที่ว่าใครเป็นคนทำนั้นยังไม่ทราบ ที่นั่นไม่มีใครเหลือรอดสักคน” หลินเฉิงจื้อแจ้งข่าวที่ได้รับมาให้ทุกคนทราบ

“บุตรชายตระกูลจงคนนั้นไม่ได้เป็นเช่นนี้แค่ปีสองปี คนในเมืองซานเจียงต่างไม่ไปต่อกรกับเขา เดาว่าคงเป็นคนจากต่างถิ่นถึงกล้าลงมือเช่นนี้อย่างไม่เกรงกลัว” หลินป๋อเหิงเอ่ยขึ้น ให้สัญญาณว่า “เรื่องไม่เกี่ยวกับพวกเราก็อย่าไปสนใจเลย ดูแลตระกูลตัวเองให้ดีพอ”

“ขอรับ” ทุกคนเบื้องล่างขานรับ

“พูดเรื่องชาวบ้านจบแล้ว เช่นนั้นก็มาพูดเรื่องจริงจังกัน” หลินป๋อเหิงมองเหล่าบุตรชายที่นั่งอยู่เบื้องล่าง กล่าวว่า “เรื่องงานแต่งของท่านน้าพวกเจ้าถือว่าตกลงแล้ว แม้ยังไม่จัดพิธีหมั้นหมาย แต่หลังจากพวกเจ้าแต่ละคนกลับไปก็ควรเตรียมตัวเสียหน่อย เตรียมของขวัญให้ท่านน้าพวกเจ้าดีๆ”

“ท่านพ่อ เรื่องนี้พวกเราต่างรู้ดีว่าต้องทำอย่างไร ท่านไม่ต้องเป็นห่วง” หลินเฉิงจื้อพูดยิ้มๆ แล้วมองไปทางพวกน้องชาย

“จริงด้วยท่านพ่อ เรื่องนี้ท่านวางใจเถอะ! พวกเราจะเตรียมการอย่างดี” คนตรงลำดับที่สองก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม สำหรับเรื่องที่ท่านน้าจะแต่งงาน พวกเขาล้วนยินดีจากก้นบึ้งหัวใจ

หลินป๋อเหิงพยักหน้าอย่างพอใจ “อืม ในเมื่อรู้แล้วข้าจะไม่พูดมาก อีกสองสามวันข้าจะส่งซานหยวนกลับไปด้วยตัวเอง ถึงเวลานั้นตระกูลหลินจะให้ผู้อาวุโสดูแลแทน”

…………………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!