Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 566

№ 566 เยี่ยมเยือนถึงบ้าน

เหลิ่งหวาเห็นว่าทั้งสองตื่นกันหมดแล้ว จึงสั่งคนยกอาหารเช้ามา จากนั้นค่อยถอยไปอีกโต๊ะหนึ่ง

“หลังจากพบท่านปู่เจ้า คิดจะทำอย่างไร?” เซวียนหยวนโม่เจ๋อกินอาหารเช้าพลางถาม

“แน่นอนว่าต้องลองถามความเห็นท่านปู่! หากเขาอยากกลับไป ข้าก็จะกลับด้วยกันกับเขา หากเขาต้องการอยู่ที่นี่ ข้าจะกลับไปบอกเรื่องราวกับท่านพ่อเสียหน่อย เพื่อไม่ให้เขากังวลใจอยู่ตลอด” เธอกินข้าวต้มคู่กับกับข้าว ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนถามอีกว่า “ท่านล่ะ ไม่ต้องกลับไปหรือ”

“ข้าไม่รีบ” หลังจากกินอะไรไปบ้างแล้วเขาก็หยุดตะเกียบมองนางกิน

“ไม่กินแล้ว?” เธอเลิกคิ้วมองเขา “หรือว่าไม่ถูกปาก?”

“ข้าอิ่มแล้ว” เขาบอก มองนางพลางพูดอีกว่า “เจ้าก็กินเยอะๆ หน่อย”

เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ และไม่ปริปากอีก จัดการอาหารเช้าอย่างรวดเร็ว เช็ดๆ มุมปากแล้วลุกขึ้นยืน “ไปกันเถอะ!”

เห็นนางกระดกกินข้าวต้มนั้นสองสามครั้ง เขาก็ขมวดคิ้ว “คราวหลังกินอาหารอย่ารีบถึงเพียงนั้น ไม่ได้รีบเร่งอะไร”

“ได้ๆ ข้ารู้แล้ว” เธอขานรับอย่างหมดคำจะพูด คิดว่าเขาแทบไม่ต่างจากแม่เฒ่า จู้จี้ขี้บ่น อะไรๆ ล้วนต้องดูแล

เมื่อนายท่านทั้งสองกินเสร็จแล้ว พวกเขาอีกโต๊ะหนึ่งจึงจัดการอาหารเช้าอย่างรวดเร็ว และตามหลังพวกเขาออกจากโรงเตี๊ยมไปยังบ้านตระกูลหลิน โรงเตี๊ยมห่างจากบ้านตระกูลหลินไม่ไกล ฝีเท้าพวกเขาไม่เร่งรีบ เดินนวยนาดไปประมาณครึ่งชั่วยามจึงจะมาถึงหน้าประตูใหญ่ตระกูลหลิน

เหลิ่งหวาเข้าไปเคาะประตู ส่วนคนอื่นยืนรอข้างๆ

ชายชราคนหนึ่งเข้ามาเปิดประตู หลังจากเห็นเหลิ่งหวาที่เคาะประตูก็พินิจมองแวบหนึ่ง แล้วจึงมองเหล่าคนข้างๆ นั้น ถามว่า “พวกท่านมาหาใคร?”

“เรามาหา…” เฟิ่งจิ่วเอ่ยปาก เสียงชะงักไป พลันฉุกคิดขึ้นได้ ยิ้มเอ่ยว่า “ท่านผู้เฒ่าเฟิ่ง”

พอได้ยินว่ามาหาท่านผู้เฒ่าเฟิ่ง ชายชราคนนั้นรีบร้อนเปิดประตูออก “เชิญทุกท่านเข้ามาขอรับ ข้าจะไปรายงานก่อน” พูดจบก็สั่งคนพาพวกเขาไปจิบชายังห้องรับแขก ส่วนตนเองไปรายงานผู้นำตระกูล

หลินป๋อเหิงที่กำลังทานอาหารเช้าในเรือนได้ยินคำพ่อบ้านก็อึ้งไป “เจ้าบอกว่าใครนะ? หนุ่มน้อยชุดแดงกับชายชุดดำ? บอกว่ามาหาซานหยวนหรือ” ซานหยวนอยู่ที่นี่นอกจากพวกเขาก็ไม่มีคนรู้จักอื่น ทำไมถึงมีคนมาหาได้?

“ขอรับ ข้าน้อยเห็นพวกเขาท่าทางไม่ธรรมดา ไม่เหมือนคนทั่วไป ซ้ำยังมาหาท่านผู้เฒ่าเฟิ่ง จึงเชิญพวกเขามาจิบชายังห้องรับแขกขอรับ”

“อืม เจ้าไปบอกซานหยวน ข้าจะลองไปดูก่อน” เขาลุกขึ้นบอก สั่งพ่อบ้านไปรายงาน ส่วนตนเองไปยังห้องรับแขกที่เรือนด้านหน้า

เมื่อมาถึงห้องรับแขกก็เห็นสองร่างหนึ่งดำหนึ่งแดงนั่งอยู่ด้านใน ด้านหลังสองคนยังมีชายสามหญิงหนึ่งยืนอยู่ เห็นเช่นนี้เขาจึงใช้สายตาจับจ้องร่างทั้งสองที่นั่งอยู่นั้น แอบพินิจมอง แต่เมื่อสายตาหยุดลงบนร่างชายชุดคลุมดำ จิตใจเขาอดสั่นสะท้านไม่ได้ และละสายตาหนีอย่างอึดอัดใจ

ในใจตกใจเล็กน้อย แต่สีหน้ายังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาเดินเข้าไปกล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ข้าหลินป๋อเหิงผู้นำตระกูลหลิน ได้ยินพ่อบ้านบอกว่าในจวนมีแขกมา ไม่ทราบว่าแขกผู้มีเกียรติทั้งสองมาจากที่ใด?” ระหว่างพูด เขามานั่งลงตรงตำแหน่งผู้อาวุโส สายตาหยุดลงบนร่างหนุ่มน้อยชุดแดง

เห็นหนุ่มน้อยคนนั้น เขาแอบชื่นชมอย่างอดไม่ได้ ช่างเป็นหนุ่มน้อยรูปงามที่เปิดเผยไม่เกรงกลัวใคร ในกลิ่นอายสง่างามที่คึกคะนองรักอิสระมีกลิ่นอายสูงศักดิ์ที่เป็นธรรมชาติอยู่ ทั้งร้ายกาจและเอาแต่ใจ พอจะเห็นได้ว่าคนคนนี้เป็นผู้มีใจทะเยอทะยานอย่างแน่นอน

ส่วนชายชุดคลุมดำคนนั้น ลึกล้ำเกินกว่าจะคาดเดา แม้แต่เขายังไม่กล้าวิเคราะห์ประเมิน รู้แค่ว่าสองคนที่มาวันนี้ไม่ธรรรมดาอย่างยิ่ง

………………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!