№ 588 ชื่อเสียงเกรียงไกร
ดอกไม้ไฟและลูกกวาดมงคลหลากสีโปรยปรายอยู่เหนือประตูใหญ่ตระกูลหลิน เมื่อเรือเหาะกลางอากาศค่อยๆ ลดต่ำลงมาที่พื้น บริเวณโดยรอบก็เต็มไปด้วยคนที่มามุงดูเรื่องคึกคัก
คนตระกูลหลินล้อมอยู่หน้าประตู มองภาพรื่นเริงตรงหน้านี้ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ในใจตื่นเต้นอย่างยิ่ง การส่งสินสอดที่มีรูปแบบแตกต่างและการเคลื่อนไหวที่สนั่นหวั่นไหวทั่วเมืองเช่นนี้ คนที่ไม่รู้ยังนึกว่าตระกูลหลินของพวกเขาจะตบแต่งหญิงสาวกันวันนี้เลย!
อันที่จริง วันนี้แค่ส่งสินสอดเท่านั้นเอง
ในเวลานี้เอง ผู้คนรอบๆ ประหลาดใจครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะพากันพูดคุย บนเรือเหาะมีหนุ่มน้อยรูปงามที่สวมชุดคลุมสีแดงเดินออกมา หนุ่มน้อยรูปโฉมโดดเด่น หล่อเหลาเป็นที่หนึ่ง กลางหว่างคิ้วมีกลิ่นอายซุกซนเปิดเผยกระจายออกมา เมื่อปรากฏตัวก็ดึงดูดเสียงอุทานและสายตาตกตะลึงจากผู้คนโดยรอบ
“ดูสิ หนุ่มน้อยคนนั้นหน้าตาโดดเด่นจริงๆ!”
“ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่งดงามนัก!”
“เป็นเด็กหนุ่มบ้านไหนกันแน่ ท่าทางไม่ธรรมดาเลยจริงๆ”
“ไม่รู้ว่าหนุ่มน้อยคนนี้แต่งงานหรือยัง?”
ท่ามกลางเสียงพูดคุยของทุกคน เฟิ่งจิ่วในชุดสีแดงสาวก้าวเดินลงมาจากเรือเหาะ คล้อยหลังเธอเดินลงมา ผู้เฒ่าเกิ่ง เหลิ่งซวง และพวกหลัวอวี่ทุกคนต่างตามมาด้านหลัง นอกจากชุดสีดำของเหลิ่งซวง ยามนี้บนร่างองครักษ์ทั้งแปดสวมชุดคลุมสีเงินขององครักษ์ตระกูลเฟิ่งเหมือนๆ กัน รูปโฉมหล่อเหลา ทั่วร่างมีกลิ่นอายดุร้ายกระจายอยู่ น่าสะพรึงราวกับกระบี่คมที่รอออกจากฝัก
ท่ามกลางกลุ่มคนพวกนี้ หนุ่มน้อยชุดแดงที่เดินตรงหน้ายิ่งดูแพรวพราวไม่ธรรมดา นายบ่าวแบ่งแยกกันชัดเจน แค่แวบเดียวทุกคนก็มองออกว่าหนุ่มน้อยรูปหล่อที่อายุยังน้อยเป็นนายของคนพวกนั้น
“ท่านปู่หลิน ข้ามาส่งสินสอดแทนท่านปู่ขอรับ” เฟิ่งจิ่วก้าวไปข้างหน้าพลางประสานมือพูดยิ้มๆ จนกระทั่งมาถึงตรงหน้าพวกเขา
“ฮ่าๆๆ ที่แท้เป็นเสี่ยวจิ่ว!” หลินป๋อเหิงเดิมจะเรียกแม่หนูเฟิ่ง แต่เห็นนางยังคงสวมชุดผู้ชาย ดังนั้นจึงเปลี่ยนมาเรียกเสี่ยวจิ่วแทน ขณะเดียวกันสายตาก็กวาดผ่านบนร่างนาง และมองไปยังผู้เฒ่าเกิ่งข้างๆ
“ท่านนี้เป็นสหายรักของท่านปู่ ท่านผู้เฒ่าตระกูลเกิ่งแห่งเมืองอวิ๋นเยวี่ยเรา ครั้งนี้ได้รับความไว้วางใจจากท่านปู่กับท่านพ่อให้เข้ามาพร้อมกับข้า” เฟิ่งจิ่วยิ้มพลางแนะนำให้ทั้งสองรู้จัก
“ท่านผู้นำตระกูลหลิน ข้านับถือท่านมานาน” ผู้เฒ่าเกิ่งประสานมือยิ้ม สำหรับหลินป๋อเหิง เขาเพิ่งได้ยินแม่หนูเฟิ่งเอ่ยถึงระหว่างทาง จึงชื่นชมในวิธีการจัดการและนิสัยใจคอของคนคนนี้มาก
ได้ยินเช่นนี้ หลินป๋อเหิงก็ยิ้มพลางคารวะกลับ “ที่แท้เป็นสหายรักของซานหยวน เชิญๆๆ เสี่ยวจิ่ว สหายเกิ่ง เชิญด้านในเถอะ” เขาทำมือเชื้อเชิญให้พวกเขาเข้าไปด้านใน
เฟิ่งจิ่วยิ้มเล็กน้อย สาวก้าวเดินไปด้านในพร้อมกับผู้เฒ่าเกิ่ง เหลิ่งซวงตามหลังไปติดๆ ส่วนองครักษ์ทั้งแปดอยู่สั่งไพร่พลที่ตามมาให้ยกสินสอดลงมาทีละกล่องๆ จากนั้นขนย้ายไปในจวนตระกูลหลิน
ทุกคนที่มุงดูเห็นสินสอดแต่ละกล่องถูกยกไปยังจวนตระกูลหลิน แต่ละคนต่างตะลึงไม่สิ้นสุด
“นี่แค่ส่งสินสอดหรือ? ข้านึกว่าเข้ามาสู่ขอเสียอีก! ขบวนส่งสินสอดนี้จะใหญ่เกินไปแล้วกระมัง?”
“เจ้าจะรู้อะไร? ว่ากันว่าคนตระกูลหลินที่แต่งงานคือหญิงนามว่าซู่ซีท่านนั้น เป็นน้องสาวแท้ๆ ของผู้นำตระกูลหลิน คนที่แต่งกับนางคือจักรพรรดิหลวงราชวงศ์เฟิ่งหวง เล่ากันว่าราชวงศ์เฟิ่งหวงนี่เป็นราชวงศ์ที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ หนำซ้ำจักรพรรดิหลวงกับผู้นำตระกูลหลินยังเป็นพี่น้องร่วมสาบานกันด้วย”
“แล้วหนุ่มน้อยชุดแดงนั่นเป็นใคร? หรือเป็นองค์ชายจากราชวงศ์เฟิ่งหวง?”
“นี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่ากันว่าผู้ครองแคว้นราชวงศ์เฟิ่งหวงมีบุตรสาวแค่คนเดียว ไม่เคยได้ยินว่ามีบุตรชาย”
………………………………….