Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 598

№ 598 ไม่อาจมีความคิดที่ไม่ควรมี

ทุกคนในห้องโถงเบิกตาโตด้วยความตกใจ หะ หะ หากนี่เป็นเรื่องจริง ชะ ชะ เช่นนั้นพวกเขาก็จะกลายเป็นทองแผ่นเดียวกันกับภูตหมอไม่ใช่หรือ?

นึกถึงข้อนี้ แต่ละคนล้วนตื่นเต้นเสียจนสีหน้าแดงก่ำขึ้นมา ความรู้สึกตื่นเต้นปั่นป่วนดุจเกลียวคลื่น สาดซัดหัวใจพวกเขาทีละคลื่นๆ จนเกิดเป็นคลื่นสูงพันชั้น!

หลินเฉิงจื้อก็ตกใจเช่นกัน ผ่านไปสักพักถึงถามว่า “ท่านปู่ ท่านพ่อ พวกท่านคิดว่าต้องเรียกเด็กๆ หนุ่มสาวกลับมาจากสำนักศึกษาหรือไม่ขอรับ?”

ได้ยินคำพูดนี้ ทุกคนนิ่งไปสักพัก ทันทีที่คิดก็รู้ความหมายในคำพูดเขา แต่ละคนจึงตบขาเห็นดีเห็นงามด้วย

“เรียก! เรียก! เรียก! ต้องเรียกกลับมา ต้องเรียกกลับมาสิ!” ผู้อาวุโสคนหนึ่งหัวเราะร่าขึ้นมาอย่างกลั้นไม่อยู่ “ซู่ซีแต่งงาน คนผู้น้อยเช่นพวกเขาจะไม่กลับมาได้อย่างไร”

“ใช่แล้วๆๆ ต้องกลับมาสิต้องกลับมา ตอนนี้ยังมีเวลา ประเดี๋ยวพวกท่านก็ปล่อยข่าวออกไป ให้พวกเขารีบกลับมาร่วมงานแต่งซู่ซีเสีย”

“ถูกต้องๆ เรื่องมงคลครั้งใหญ่เช่นนี้จะไม่ให้พวกเขากลับมาได้อย่างไร?”

“ไม่ๆๆ ลูกหลานในตระกูลมีตั้งมากมาย หากกลับมากันหมดคนจะเยอะเกินไป ให้พวกทายาทโดยตรงที่อายุสิบหกขึ้นไปกลับมาก็พอ อืม แค่ผู้ชาย ผู้หญิงไม่ต้องกลับมาหรอก”

เห็นท่าทางตื่นเต้นของเหล่าผู้อาวุโสที่ดีใจเสียจนออกนอกหน้า หลินป๋อเหิงก็อึ้งไป เห็นผู้เฒ่าสีหน้ายิ้มแย้มไม่เอ่ยปากอะไร จึงกวาดมองลูกชายข้างๆ ด้วยท่าทีแปลกๆ จากนั้นค่อยกระแอมไอ

“เรื่องนี้ ข้าคิดว่าให้ลูกหลานในจวนใช้โอกาสนี้ลองไปดูที่ราชวงศ์เฟิ่งหวง จะสนิทกับแม่หนูเฟิ่งมากหน่อยก็เป็นเรื่องดี แต่ความคิดอื่นข้าไม่แนะนำ”

พูดถึงตรงนี้ หลินป๋อเหิงก็วางท่าเช่นผู้นำตระกูล บอกว่า “แม่หนูเฟิ่งมีศักดิ์เป็นถึงองค์หญิงของราชวงศ์เฟิ่งหวงคือข้อหนึ่ง ข้อสอง อย่าว่าแต่นางจะใช่หรือไม่ใช่ภูตหมอ สำหรับวิธีจัดการและอำนาจรัศมีของนาง ไม่ต้องพูดถึงลูกหลานคนวัยหนุ่ม แม้แต่คนรุ่นพวกเรายังด้อยกว่านางเลย ข้อสามท่านพ่อกับน้องรองยังไม่รู้แต่ท่านทั้งหลายกลับรู้ ชายชุดคลุมดำที่มาด้วยกันกับนางครั้งก่อนคือเจ้าตำหนักยมราช นายแห่งตำหนักยมราช เขากับแม่หนูเฟิ่งมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา ให้ลูกหลานในตระกูลเราไปสนิทสนมกับนาง มีแต่จะได้ผลตรงกันข้าม”

ได้ยินคำพูดนี้ทุกคนถึงจะค่อยๆ ใจเย็นลง วิเคราะห์จากจุดที่เป็นข้อได้เปรียบแล้ว ก็มองหน้ากันโดยไม่นัดหมายพร้อมทั้งพยักหน้า

“เช่นนั้นถึงเวลาส่งตัวเจ้าสาวก็ให้ลูกหลานคนหนุ่มในตระกูลไปด้วยกัน ให้พวกเขาเปิดโลกเสียบ้างเป็นพอ และอย่าได้มีความคิดเลอะเทอะ อีกอย่างเรื่องเกี่ยวกับการคาดเดานี้พวกเรารู้ไว้ก็พอ จะพูดออกไปไม่ได้เด็ดขาด”

ผู้เฒ่าเอ่ยออกไปพลางมองทุกคนเชิงตักเตือน หลังจากทุกคนขานรับด้วยความเคารพ ถึงจะพูดให้สัญญาณว่า “เอาละ ควรทำอะไรก็ไปทำ แยกย้ายกันเถอะ!”

“ขอรับ พวกเราขอตัวก่อน” ทุกคนคารวะแล้วถึงจะต่างคนต่างแยกย้ายกันไป

“เฉิงจื้อ” หลินป๋อเหิงเรียกลูกชายไว้

“ท่านพ่อ” เขาหันกลับมามองบิดาและผู้เฒ่าที่นั่งตรงตำแหน่งอาวุโส

“เจ้าเป็นผู้ถูกเลือกให้รับตำแหน่งผู้นำตระกูลคนต่อไป การจัดการและคำพูดคำจาล้วนต้องคิดให้ดีๆ ก่อน เจ้าเป็นทายาทสายตรงคนโต ทุกคำพูดและการกระทำเป็นตัวแทนของตระกูลหลินเรา ทุกอย่างจะเดินผิดก้าวพลาดไม่ได้” หลินป๋อเหิงตักเตือนเสียงเข้ม

ได้ยินเช่นนี้หลินเฉิงจื้อก็ตกใจ จากนั้นถึงยิ้มพลางตอบรับ “ท่านพ่อโปรดวางใจ ลูกทราบแล้ว ลูกเอ่ยประโยคนั้นไปไม่ได้มีความหมายอื่น แต่อยากให้ลูกหลานในตระกูลได้มีโอกาสเปิดหูเปิดตา งานแต่งท่านน้ายังมีคนจากแคว้นต่างๆ โดยรอบด้วย ข้าจึงคิดจะให้พวกเขากลับมาเข้าร่วมงานด้วยกัน”

………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!