Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 630

№ 630 คุ้นตานิดหน่อย

ทางด้านนั้น หลังจากเฟิ่งจิ่วสอบถาม ถึงรู้ว่ากวนสีหลิ่นยังไม่ได้มาที่ตลาดมืด จึงทิ้งข้อความบอกแจ้งถึงโรงเตี๊ยมที่เธอพักอยู่ตอนนี้ แล้วเดินกลับลานประลองไปนั่งชมการประลองตรงแถวแรกต่อ

หลังจากเฟิ่งจิ่วออกไป ชายชราคนหนึ่งก็ลูบเคราเดินออกมาจากมุมมืด จ้องมองทิศทางที่เฟิ่งจิ่วจากไปเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

ผู้ดูแลวัยกลางคนอ่านข้อความที่เฟิ่งจิ่วทิ้งไว้ แล้วถือติดมือไปวางข้างๆ โดยไม่สนใจสักเท่าใด ทว่าเมื่อหางตาเหลือบเห็นผู้อาวุโสตลาดมืดพวกเขาปรากฏตัวข้างๆ ด้านหลังเขาอย่างเงียบเชียบไร้เสียง ก็ตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี ก่อนจะรีบเร่งเดินเข้าไปคารวะด้วยความเคารพ

“ท่านผู้อาวุโส ท่านมาได้อย่างไร มีอะไรจะสั่งการหรือขอรับ?”

ชายชราชำเลืองทองผู้ดูแล ถามว่า “หนุ่มน้อยชุดแดงคนนั้นพูดอะไรกับเจ้า?”

ได้ยินคำพูดนี้ ผู้ดูแลบอกอย่างรีบร้อนว่า “หนุ่มน้อยคนนั้นเข้ามาถามหาคนชื่อกวนสีหลิ่น บอกว่าเขาติดตามกลุ่มทหารรับจ้างของตลาดมืดเราออกไปฝึกวิชา จึงมาถามที่นี่ว่าเคยได้ยินข่าวเขาหรือไม่ ข้าน้อยไม่เคยได้ยินชื่อคนคนนั้นจึงบอกเขาว่าไม่มี หนุ่มน้อยคนนั้นทิ้งที่อยู่ไว้ บอกว่าหากกวนสีหลิ่นมาถามก็บอกชื่อโรงเตี๊ยมที่เขาพักอยู่ไป”

ระหว่างพูดเขาก็ยื่นที่อยู่ที่วางไว้ข้างๆ ให้ชายชราด้วยสองมืออย่างร้อนรน

ชายชรารับมาเหลือบมอง ถามว่า “ตลาดมืดเรามีกลุ่มทหารรับจ้างออกไปทำภารกิจหรือไม่?”

“ทางพวกเรานี้ไม่มีขอรับ เดาว่าคงเป็นกลุ่มทหารรับจ้างสาขาอื่น” ผู้ดูแลพูดจบ เห็นท่าทางชายชราคล้ายกำลังคิดอะไรบางอย่าง จึงเอ่ยปากถาม “ท่านผู้อาวุโส หนุ่มน้อยคนนั้นมีอะไรผิดปกติหรือ? ต้องให้ข้าน้อยส่งคนไปจับตาดูหรือไม่ขอรับ?”

ได้ยินเช่นนี้ชายชราก็เหลือบมองเขา สั่งการว่า “อย่าจัดการซี้ซั้ว ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จัดการเรื่องที่เขาสั่งดีๆ ก็พอ” ชายชรายื่นที่อยู่กลับไปให้ผู้ดูแล แล้วเดินมือไพล่หลังเลี้ยวเข้าด้านหลังไป

เห็นเช่นนี้ ในใจผู้ดูแลแอบแปลกใจเล็กน้อย ผู้อาวุโสถึงกับออกคำสั่งให้เขาจัดการเรื่องของหนุ่มน้อยให้ดี เห็นได้ชัดว่าหนุ่มน้อยคนนั้นที่มาไม่ธรรมดา อาจจะเป็นลูกหลานตระกูลใหญ่? แต่ด้วยกลุ่มอำนาจตลาดมืดพวกเขา จะไม่ทำทีเป็นมิตรกับลูกหลานตระกูลไหนมาแต่ไหนแต่ไร เช่นนั้นหนุ่มน้อยคนนั้นเป็นใครกันแน่?

แม้ในใจยังสงสัยกลับรู้ว่าผู้อาวุโสจะไม่บอก และไม่ใช่สิ่งที่เขาควรถาม ดังนั้นเขาจึงบันทึกที่อยู่นั้นไว้ แล้วกำชับคนเบื้องล่างให้คอยสังเกตช่วงสองวันนี้ว่ามีคนชื่อกวนสีหลิ่นเข้ามาหรือไม่

ส่วนผู้อาวุโสท่านนั้นยังครุ่นคิดอะไรบางอย่างมาตลอดทาง ท่าทางเหมือนจะเคยพบหนุ่มน้อยคนนั้นที่ไหน แต่นึกไม่ออกในทันที

ตรงแถวหน้าของลานประลอง เซียวอี้หานมองหนุ่มน้อยที่ชมการต่อสู้บนเวทีอย่างเงียบๆ มาตลอด ยิ้มบอกว่า “น้องชาย เจ้าไม่เคยเห็นการต่อสู้เช่นนี้มาก่อนใช่หรือไม่? อันที่จริงพวกนี้ล้วนเป็นนักสู้มืออาชีพ ตลาดมืดมีกฎไม่ให้บาดเจ็บถึงชีวิต ต่อให้บาดเจ็บไปทั้งตัวคนตลาดมืดก็จะเตรียมการรักษาให้”

ได้ยินแล้วเฟิ่งจิ่วแปลกใจเล็กน้อย หลังจากมองเขาก็รู้ว่าทำไมถึงกล่าวเช่นนั้น จึงยิ้มขึ้นทันที “อืม ข้ารู้แล้ว โลกก็เป็นจริงเช่นนี้ แม้บางคนไม่สนใจก็ยังโดนแบ่งแยกเป็นระดับสามหกเก้า”

เขาอึ้งไปพักหนึ่ง จากนั้นค่อยยิ้มให้ “ถูกต้อง นี่คือกฎของโลกใบนี้ ขอแค่มีพละกำลังถึงจะพูดอะไรได้ ผู้แข็งแกร่งอยู่รอด การถือกำเนิดของผู้แข็งแกร่งไม่ใช่แค่เกียรติยศ ทั้งยังหนุนให้ตระกูลของเขายิ่งเรืองอำนาจและไม่มีใครกล้าข่มเหง”

เอ่ยถึงตรงนี้เขาก็ยิ้มเยาะ “ตระกูลข้ายื่นคำขาดกับข้า ว่าต้องกลายสิบผู้มีพรสวรรค์ของสำนักศึกษาหมอกดาราให้ได้ภายในหนึ่งปี”

……………….……

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!