Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 635

CMYYNK
BC

№ 635 เฟิ่งจิ่วผู้ใสสื่อและฉลาดเฉลียว

ได้ยินเช่นนั้น เฟิ่งจิ่วมองเขาพลางยิ้มเยาะ ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในโดยไม่พูดอะไร เมื่อมาถึงด้านใน เห็นเพียงนักเล่นแร่แปรธาตุสองคนกำลังนั่งพูดคุยกัน สายตาเธอกวาดมองผ่านเหรียญตราตรงหน้าอกของทั้งสอง เป็นเหรียญตรานักเล่นแร่แปรธาตุระดับสอง

C

“คารวะท่านอาจารย์ทั้งสอง” เธอเดินเข้าไปคารวะ

สองคนที่คุยกันจึงหยุดลง และมองเฟิ่งจิ่วพร้อมกันโดยไม่นัดหมาย หนึ่งคนในนั้นถามว่า “ก่อนหน้านี้เคยคลุกคลีกับของจำพวกยาเซียนหรือไม่?”

“เคยขอรับ”

“เคยอ่านสารานุกรมยาทิพย์หรือไม่?”

“เคยอ่านขอรับ”

“จำได้ขึ้นใจแค่ไหน?”

“ไม่เต็มสิบก็เก้าขอรับ”

ได้ยินคำพูดนี้ อาจารย์สองท่านก็ยิ้มขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่นัดหมาย และไม่ได้พูดอะไร แค่บอกว่า “ด้านนั้นมีกระดาษกับพู่กัน เจ้าจงเขียนยาทิพย์ระดับหนึ่งลงไปร้อยชนิด ระบุสรรพคุณทางยา รวมถึงสิ่งที่เสริมข่มกัน”

“ได้ขอรับ” เธอขานรับ เดินมาตรงโต๊ะแล้วหยิบพู่กันเริ่มเขียน

สองคนมองพลางส่ายหน้า เขียนยาทิพย์ระดับหนึ่งยังไม่ยาก แต่ต้องเขียนระบุสรรพคุณรวมถึงสิ่งที่เสริมข่มกันของยาทิพย์ทุกชนิดด้วยก็ไม่ง่ายเลย

หนุ่มน้อยคนนั้นตอบรับอย่างง่ายดายโดยไม่พูดอะไร หากไม่มีความมั่นใจอยู่เต็มอก ก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวจนเกินไป สำหรับพวกเขา หนุ่มน้อยคนนี้อายุแค่สิบห้าสิบหก อายุเท่านี้จะมีความสามารถด้านยาเซียน จำสารานุกรมยาทิพย์จนขึ้นใจ และจำสิ่งที่เสริมข่มกันกับยาทิพย์ได้ แทบเป็นไปไม่ได้เลย

ดังนั้นสองคนจึงเริ่มคุยกัน พูดถึงว่านักเรียนที่มาลงชื่อประเมินสำนักยาเซียนทุกวันนี้ค่อยๆ ลดลง ถึงตอนนี้ยังไม่มีใครผ่านและรับเข้ามาสักคน พร้อมปรึกษากันว่าต้องแจ้งเจ้าสำนัก ลองดูว่าต้องปรับลดเกณฑ์รับเข้าหรือไม่

เฟิ่งจิ่วฟังสองคนคุยกันตรงนั้น พลางเขียนสรรพคุณกับสิ่งที่เสริมข่มกันของยาทิพย์ร้อยชนิดลงไป สารานุกรมยาทิพย์เธอเคยศึกษามาแล้วจริงๆ อีกทั้งร่างเดิมยังชำนาญด้านยายิ่งนัก สรรพคุณและผลกระทบของยาพวกนั้นก็เข้าใจเป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ด่านนี้สำหรับเธอจึงยังเท่าไหร่เลยจริงๆ

ประมาณครึ่งชั่วยาม เธอก็ยื่นกระดาษสองสามหน้าที่เขียนครบถ้วนให้คนทั้งสอง “เขียนเรียบร้อยแล้วขอรับ เชิญท่านอาจารย์ทั้งสองดู”

สองคนต่างตกใจ มองหนุ่มน้อยคนนั้นและรับมาดู พอเห็นก็รู้สึกเหลือเชื่ออยู่บ้าง เพราะทั้งหมดไม่มีผิดเลยสักข้อ ความแม่นยำเช่นนี้ยืนยันสิ่งที่หนุ่มน้อยบอกไว้ก่อนหน้าได้จริง อ่านสารานุกรมยาทิพย์จนขึ้นใจ ไม่เต็มสิบก็เก้า

เดิมนึกว่าแค่คุยโวโอ้อวด ไม่รู้เรื่องอะไร ยามนี้ได้เห็นแล้วในใจสองคนจึงตื่นเต้นขึ้นมาทันที จากนั้นมองหน้ากัน ดี ครั้งนี้ดีมาก! สำนักยาเซียนพวกเขาไม่ได้รับผู้เล่าเรียนมาสองสามปีแล้ว

เด็กหนุ่มคนนี้ จู่ๆ พวกเขาก็มีความรู้สึกว่าเขาต้องผ่านการประเมินได้แน่นอน

ยามนี้ใบหน้าสองคนล้วนเผยรอยยิ้มออกมา จากความเฉยชาเมื่อครู่จนเป็นสีหน้าใกล้ชิดสนิทสนมอ่อนโยนในยามนี้ เฟิ่งจิ่วเห็นแล้วอึ้งทึ่ง

“เจ้าชื่อเฟิ่งจิ่วใช่ไหม ปีนี้อายุสิบหก? มาจากแคว้นระดับเก้าหรือ?”

เฟิ่งจิ่วพยักหน้า พลางมองสองคนอย่างแปลกๆ

“ไม่เลวๆ เฟิ่งจิ่ว เจ้าเป็นนักเรียนที่วันนี้พวกเราสองคนเห็นและโดดเด่นที่สุดจริงๆ มาๆๆ นั่งคุยกับพวกเราก่อนเถอะ” สองคนกวักมือ สื่อให้เขาย้ายเก้าอี้มานั่งตรงหน้าพวกเขา

เฟิ่งจิ่วกะพริบตาอึ้งไปสักพัก ถึงจะร้องอ๋อก่อนย้ายเก้าอี้มานั่งลงตรงหน้าทั้งสองอย่างว่านอนสอนง่าย ท่าทางใสซื่อเฉลียวฉลาด อาจารย์ทั้งสองเห็นแล้วใจตื่นเต้นยิ่ง อารมณ์บนใบหน้ายิ่งอ่อนโยน

คิดแค่ว่าเด็กคนนี้ไม่เพียงหน้าตาดี แต่ยังมีท่าทางฉลาดไร้เดียงสา มองแวบแรกเป็นเด็กดีที่ไม่มีเล่ห์กลอะไร

………………

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!