№ 638 อาศรมสำนักยาเซียน
เห็นหนุ่มน้อยมีท่าทีเฉยชา เขากลับไม่ต่อว่า ถึงอย่างไรตนก็ดูถูกคนอื่นก่อน ดังนั้นจึงพูดพลางยิ้มขอโทษ “ข้ายังไม่ได้แนะนำตัวเอง อันที่จริงข้าคือผู้ดูแลสำนักยาเซียน คอยดูแลพวกเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในสำนัก เรียกข้าว่าผู้ดูแลซุนเถอะ”
“โอ้ ท่านผู้ดูแลซุน มาหาข้ามีเรื่องอะไรหรือ?” เฟิ่งจิ่วขานรับอย่างไม่แยแส มือหนึ่งลูบหัวเหล่าไป๋
“เหอะๆ เป็นเช่นนี้ เจ้าเป็นนักเรียนของสำนักยาเซียนแห่งสำนักศึกษาหมอกดาราแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปดูสำนักยาเซียนเสียหน่อย หนำซ้ำเจ้ายังเป็นนักเรียนสำนักยาเซียนที่รับเข้ามาเป็นคนแรกในตอนนี้ ยามนี้จึงเข้าไปเลือกอาศรมที่จะเข้าพักก่อนได้ เจ้าคิดว่าอย่างไร?”
ได้ยินแล้วเฟิ่งจิ่วมองเขา ชะงักไปเล็กน้อยถึงจะบอกว่า “เช่นนั้นต้องรบกวนท่านผู้ดูแลซุนด้วย”
“ไม่รบกวนเลยๆ นี่เป็นสิ่งที่ข้าควรทำ” เขารีบร้อนเอ่ยยิ้มๆ ลังเลครู่หนึ่งจึงบอกว่า “เช่นนั้น เฟิ่งจิ่ว หากก่อนหน้านี้มีตรงไหนไม่พอใจ หวังว่าเจ้าจะไม่ถือสา”
“ไม่หรอกขอรับ” เธอพูดพร้อมรอยยิ้ม
เห็นเช่นนี้ใจของผู้ดูแลซุนที่หวั่นๆ ในที่สุดก็ปล่อยวางได้ จากนั้นพาเขาไปเลือกอาศรมก่อนด้วยใจที่เต็มไปด้วยความเบิกบาน
แต่เมื่อเฟิ่งจิ่วเดินตามเขาไปได้เกือบชั่วยาม ยิ่งเดินยิ่งไปยังสถานที่ห่างไกล จึงอดถามไม่ได้ว่า “ผู้ดูแลซุน สำนักยาเซียนไม่ได้อยู่ข้างหน้าหรือ ทำไมถึงมายังสถานที่ห่างไกลเช่นนี้?”
“เหอะๆ เจ้าเป็นผู้เล่าเรียนเข้าใหม่จึงยังไม่รู้ สำนักศึกษาหมอกดาราเราพื้นที่กว้างขวางนัก สถานที่ตั้งแต่ละสำนักยังแตกต่างกัน เด็กที่รับสมัครเข้ามา นอกจากจะรวมกลุ่มตามแต่ละสำนัก วันธรรมดาแทบไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย ประตูใหญ่สำนักศึกษาก็ไม่ได้เปิดบ่อย จะเปิดแค่วันรับสมัครนักเรียนครั้งใหญ่ทุกสามปี ปกติที่ออกไปจะเป็นประตูข้างของแต่ละสำนัก”
ระหว่างพูด เขาชี้ตรงภูเขาข้างหน้า บอกว่า “แค่ข้ามภูเขาลูกนี้ไปก็คือที่ตั้งสำนักยาเซียนแล้ว”
ได้ยินคำเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วประหลาดใจนิดหน่อย แม้สำนักศึกษาหมอกดาราจะใหญ่เทียบเท่าเมืองหลวง แต่เมื่อเดินอยู่ด้านในนี้ถึงได้รู้ว่าใหญ่เกินเหตุเช่นนี้ เห็นว่ายังต้องข้ามภูเขาตรงหน้าอีก ดังนั้นจึงเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น
ระหว่างทางผู้ดูแลซุนบอกเธอว่า ทั้งสำนักศึกษาหมอกดารามีเพียงสำนักยาเซียนที่นักเรียนพักอยู่อาศรม ส่วนนักเรียนสำนักอื่นพักอยู่ที่เรือน เพราะทุกๆ อาศรมของนักเรียนสำนักยาเซียนล้วนจัดวางห้องปรุงยา ห้องนอนรวมถึงห้องอาบน้ำและห้องเก็บของไว้ อีกทั้งเพราะการกลั่นยาเซียนจะมีอันตรายจากเตาระเบิด ด้วยเหตุนี้ทุกๆ อาศรมจึงวางค่ายกลไว้
ข้อนี้คือสิ่งที่เทียบไม่ได้กับสำนักอื่น แต่ก็มีข้อเสียคือสำนักยาเซียนต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ผู้เล่าเรียนทุกคนต้องแบ่งกันดูแลไร่ยาทิพย์ สมุนไพรสำหรับกลั่นยาเซียนผู้เล่าเรียนก็ต้องเก็บคะแนนคุณงามความดีไปแลกมาเอง
ภายใต้การนำทางของผู้ดูแลซุน เฟิ่งจิ่วเลือกอาศรมบริเวณค่อนข้างห่างไกลแต่ใหญ่กว่า หลังจากเข้าไปเดินรอบๆ อาศรม เธอก็ล่ามเหล่าไป๋ไว้ข้างนอก ก่อนจะตามผู้ดูแลซุนไปดูที่ตั้งสำนักยาเซียนที่ปกติอาจารย์สอนกลั่นยาเซียน
หลังจากคุ้นเคยกับสถานที่แล้ว เธอถามอย่างสงสัยอยู่บ้างว่า “ผู้ดูแลซุน พวกเราเดินผ่านมาตั้งหลายที่ ทำไมถึงไม่เห็นนักเรียนสำนักยาเซียนคนอื่นๆ เลย?” จะแปลกเกินไปแล้ว สำนักยาเซียนแห่งนี้พื้นที่ไม่ใช่เล็กๆ แต่เดินวนไปรอบหนึ่งกลับไม่เห็นใครเลยสักคน
“เหอะๆ เรื่องนี้น่ะ…”
ผู้ดูแลซุนยิ้มเจื่อน บอกว่า “อาจจะมีบางคนไปทำภารกิจเก็บคะแนนคุณงามความดี บ้างก็อาจกลั่นยาเซียนในอาศรมตนเอง สำนักยาเซียนนี้ก็เป็นเช่นนี้แหละ ปกติน้อยนักที่จะเห็นใคร เจ้าอยู่นานๆ ไปก็รู้เอง”
……………………