№ 658 กลั่นมณีเพลิง
อสูรเพลิงเขาเดียวมีธาตุเป็นไฟ ด้วยเหตุนี้ทุกหนึ่งปีจึงกลั่นมณีเพลิงออกมาได้ แต่มณีเพลิงที่ถูกกลั่นหลุดออกมานี้มักจะถูกอสูรเพลิงกลืนกินกลายเป็นพลังงานธาตุไฟในร่างตนเอง หากเธอสามารถกระตุ้นพลังงานธาตุไฟในร่างพวกมันได้ และทำให้มันกลั่นมณีเพลิงโดยไม่ต้องใช้เวลาถึงหนึ่งปีเล่า?
อืม ลองสักหน่อยก็ได้
สมุนไพรที่กระตุ้นธาตุไฟไม่ใช่ของมีค่าพิเศษอะไร แค่ผสมสมุนไพรธาตุไฟทั่วไปไม่กี่อย่างน่าจะสำเร็จผลลัพธ์เช่นนี้ได้ ดังนั้นพอความคิดผุดขึ้น บอกว่าจะทำก็ทำ จึงกลับไปบดยายังอีกเขตอาคมหนึ่งทันที
ประมาณครึ่งชั่วยามยาขนาดเท่าลูกลำไยแต่ละเม็ดก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นในมือเธอ ดูแล้วคล้ายโคลนแต่ไม่ใช่โคลน ไม่มีกลิ่นสมุนไพร ตรงกันข้ามมันกลับมีกลิ่นคล้ายๆ เนื้อบางส่วน
“มาๆ กินเถอะๆ!” เธอนั่งย่ออยู่นอกเขตอาคม พร้อมโยนยาสองเม็ดออกไป เห็นอสูรเพลิงสองตนนั้นเพียงชำเลืองมองส่งเสียงร้องและหันหน้าหนี แต่เมื่อได้กลิ่นนั้นก็หันกลับมาโดยฉับพลัน คาบเม็ดหนึ่งขึ้นมาราวกับจะกินช้าๆ อย่างหวาดกลัว
เฟิ่งจิ่วจ้องมองปฏิกิริยาอสูรเพลิงทั้งสองตน เห็นว่าหลังจากกินไปพวกมันยังไม่เป็นอะไร แต่ผ่านไปไม่กี่ชั่วอึดใจก็เห็นพวกมันเดินไปเดินมาภายในเขตอาคมด้วยความหงุดหงิด ตรงเหนือหัวอสูรที่ใช้เก็บมณีเพลิงนั้นค่อยๆ พรั่งพรูไปด้วยกระแสลมที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า กระแสลมนั้นก่อตัวด้วยพลังวิญญาณ มันรวมตัวเป็นรูปเป็นร่างอย่างช้าๆ และกลั่นกลายเป็นมณีทีละน้อยๆ
เฟิ่งจิ่วเห็นความเร็วในการควบแน่นมณี ก็เบิกตาโตอย่างตื่นเต้นโดนฉับพลัน แม้จะเพิ่มปริมาณยาแต่ไม่นึกว่าจะกลั่นมณีได้รวดเร็วเพียงนี้!
แทบจะไม่กี่ชั่วอึดใจมณีเพลิงเม็ดหนึ่งควบแน่นก่อตัวขึ้นตรงหน้าผาก หลังจากเป็นรูปเป็นร่างในขณะที่พลังงานธาตุไฟในร่างอสูรเพลิงพุ่งพล่านมันก็หลุดออกมาอีกครั้ง ซ้ำยังกลั่นออกมาติดๆ กันเจ็ดแปดเม็ด กระแสลมธาตุไฟบนร่างอสูรเพลิงนั้นถึงจะค่อยๆ สงบลง
เฟิ่งจิ่วอึ้งไปพักหนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะร่าออกมาอย่างระรื่น มองมณีเพลิงสิบกว่าเม็ดที่อสูรเพลิงทั้งสองตนกลั่นออกมา ดวงตาเป็นประกาย เห็นเพียงคะแนนคุณงามความดีมากมายกำลังกวักมือเรียกเธอ ดังนั้นเธอจึงป้อนไปอีกสองเม็ด แล้วนั่งย่อเก็บรวบรวมมณีเพลิงอยู่ตรงนั้น
เมื่อโม่เฉินกลับมาเห็นอสูรเพลิงสองตนนอนอยู่ในเขตอาคมด้วยท่าทางที่หายใจรวยริน ร่างเหมือนจะซูบผอมลงไปรอบใหญ่ กลิ่นอายธาตุไฟบนร่างอสูรเพลิงยังอ่อนแอเสียจนแทบจะมองไม่เห็น ส่วนเด็กหนุ่มคนนั้นกลับนั่งนับ… มณีเพลิงด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม?
เห็นมณีเพลิงพวกนั้นในอ้อมแขนหนุ่มน้อย แม้แต่เขายังอดไม่ได้ที่จะตะลึง อสูรเพลิงมีแค่สองตนเท่านั้น อย่างมากก็มีแค่สองเม็ด แล้วทำไมตรงหน้าหนุ่มน้อยกลับมีมากมายเพียงนั้น? เขาไปได้มาจากไหน?
“อ้าว? เจ้ากลับมาแล้วหรือ?” เฟิ่งจิ่วเงยหน้ามองไปทางเขา เมื่อเห็นมือซ้ายพันไปด้วยงูตัวเล็กที่บนร่างมีเกล็ดสีน้ำเงิน ส่วนมือขวาแบกกวางคู่ทรัพย์ตัวหนึ่งที่แน่นิ่งไม่ขยับ ดวงตาเป็นประกายโดยฉับพลัน
“นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะจับมาได้เร็วเพียงนี้? ซี๊ด! นี่มันอสรพิษเกล็ดน้ำเงิน! ยังมีกวางคู่ทรัพย์ตัวนั้นอีก เล่ากันว่าว่องไวนัก เจ้าจับมาได้จริงๆ เสียด้วย?” เธอรีบเร่งเก็บมณีเพลิงและวิ่งเข้าไป รู้สึกแปลกใหม่กับกวางและงูในมือเขา
สายตาโม่เฉินมองหนุ่มน้อยอย่างแปลกๆ ไม่ถามว่าเขาได้มณีเพลิงพวกนั้นมาอย่างไร มือแค่ขยับแขนเสื้อเชือกสองเส้นก็ลอยออกมา หลังจากผูกงูกับกวางไว้ยังบอกอีกว่า “อย่าเข้าใกล้พวกมัน” กล่าวจบก็ถอนเขตอาคมที่ขังอสูรเพลิง ขณะเดียวกันยังวางเขตอาคมระหว่างงูกับกวางเผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน
เห็นอสูรเพลิงสองตนนั้นมองเธอแวบหนึ่งหลังจากถอนเขตอาคมออกแล้ววิ่งหนีไปโดยเร็ว เธอเบิกตามองอย่างตกตะลึง ท่าทางใกล้ตายก่อนหน้านี้แค่แกล้งหลอกหรือ?
………………………