№ 665 ไม่ได้ทำเรื่องดี
“กรร!” หมีดำตัวใหญ่คำรามเสียงเบา แล้วคลอเคลียเฟิ่งจิ่ว เดิมทีมันกลัวนางมาก แต่ที่นี่มียาเม็ดพวกนั้นให้กินเรื่อยๆ จึงไม่อยากกลับไป
เฟิ่งจิ่วตาค้าง นิ่งอึ้งไปสักพัก “นะ นี่ไม่ค่อยดีกระมัง?”
สัตว์อสูรเธอมีไม่น้อยแล้ว ไม่ต้องการได้หมีดำตัวใหญ่มาอีกตัวจริงๆ! หนำซ้ำมันยังเดินกรีดกรายไปตามตลาดเป็นพาหนะเช่นเหล่าไป๋ไม่ได้ หดตัวเล็กลงเท่าลูกหนังเหมือนอสูรกลืนเมฆาก็ไม่ได้ และยิ่งไม่อาจแปลงกายเป็นเด็กน้อยตัวอ้วนอย่างหงส์ไฟน้อย จึงไม่อยากเก็บมันไว้จริงๆ
“กรร!”
ทันใดนั้นมันลุกยืนขึ้น สองอุ้งมือทุบตีหน้าอกตนเองอย่างแรงจนเกิดเสียงดังตุบๆๆ คล้ายจะบอกเธอว่ามันแข็งแกร่งมาก
“หยุดๆๆ” เธอรีบเร่งห้ามปราม แม้บอกว่าที่นี่ไม่มีใคร แต่การทุบตีเช่นนี้ก็น่ากลัวแปลกๆ
เธอถอนหายใจ คิดๆ แล้วบอกว่า “เช่นนี้แล้วกัน! เจ้าไม่อยากกลับไปก็ช่วยข้าเฝ้าอาศรมอยู่ที่นี่ชั่วคราว! เดี๋ยวทีหลังเจ้าอยากกลับไปก็ไป ข้าจะไม่รั้งเจ้าไว้ ตอนนี้เจ้าเฝ้าอยู่ที่นี่อย่างว่าง่าย ข้าต้องไป…”
ยังพูดไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงกีบม้ากับอสูรกลืนเมฆาดังมา
“นายท่าน”
เฟิ่งจิ่วหันกลับไป เห็นอสูรกลืนเมฆาหมอบบนอยู่หลังเหล่าไป๋ จึงแปลกใจโดยฉับพลัน ทำไมเหล่าไป๋ถึงยอมให้อสูรกลืนเมฆานอนบนหลังมัน? หนำซ้ำไม่เจอกันแค่ครึ่งเดือน สัตว์สองตัวนี้ไม่เห็นผอมลงกลับยังอ้วนพีได้อย่างไร?
“ช่วงนี้พวกเจ้าทำเรื่องอะไรดีๆ มา? ข้าสั่งพวกเจ้าเฝ้าอาศรมไว้ไม่มีเรื่องอะไรก็อย่าวิ่งเพ่นพ่านไม่ใช่หรือ?” สายตาเธอหยุดลงบนร่างอสูรกลืนเมฆา เทียบกับเหล่าไป๋ที่ได้แต่พ่นลมหายใจแล้ว อสูรกลืนเมฆายังพูดจาได้
“นายท่าน พวกเราไม่ได้ทำเรื่องดีอะไร” อสูรกลืนเมฆาเอ่ย ดวงตาเผยความดุร้ายจ้องมองบนร่างหมีดำตัวใหญ่ที่หดตัวถอยไปด้านหลังนายท่าน
“กรร” หมีดำตัวใหญ่พลันหมอบลงไปหลบด้านหลังเฟิ่งจิ่วตัวสั่นเทา ในเทือกเขาหมื่นอสูรมันเป็นราชา มาถึงที่นี่กลับเห็นว่ามีสัตว์เทวะด้วย…
“ไม่ได้ทำเรื่องดี เช่นนั้นคงทำเรื่องแย่สินะ?” เฟิ่งจิ่วกวาดมองอสูรกลืนเมฆา คิดว่าสำนักยาเซียนนี้ไม่มีอะไรที่พวกมันจะทำพังเสียหายได้
“นายท่าน พี่ชายท่านมาหา บอกว่าเขาอยู่สำนักพลังเร้นลับ” อสูรกลืนเมฆารีบร้อนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา จากนั้นค่อยหมอบลงบนหัวเหล่าไป๋ไม่กล้าเงยหน้า
เห็นเช่นนี้เฟิ่งจิ่วจึงเลิกคิ้ว ไม่ถามพวกมันให้มากความอีกว่าช่วงนี้ก่อเรื่องอะไรไว้กันแน่ แต่หลังจากกำชับไม่กี่ประโยคก็ไปยังจุดแลกเปลี่ยน คิดจะนำมณีเพลิงไปแลกของดีๆ สักสองสามชิ้นที่หอสวรรค์ แล้วค่อยไปดูกวนสีหลิ่นที่สำนักพลังเร้นลับ
อสูรกลืนเมฆาเห็นนางจากไปก็ลอบถอนหายใจ ยามนี้สายตามันหยุดลงบนร่างหมีดำตัวใหญ่ที่หดหัวอยู่หลังต้นไม้…
เฟิ่งจิ่วยืนอยู่ที่จุดแลกเปลี่ยนของสำนักศึกษา มองผู้ดูแลวัยกลางคนตรงจุดแลกเปลี่ยน ถามว่า “ขออนุญาตถามขอรับ มณีเพลิงจำนวนมากแลกคะแนนคุณงามความดีได้เลยหรือเปล่า?”
“ได้สิๆ แค่เจ้านำออกมาพวกเราจะเก็บไว้ และคะแนนคุณงามความดีจะนับเท่ากับบนกระดานภารกิจ” ผู้ดูแลวัยกลางคนตอบอย่างเฉยชา ไม่คิดด้วยซ้ำว่าเด็กหนุ่มเช่นนี้จะนำมาเท่าไรได้ ต้องรู้ไว้ว่ามณีเพลิงของอสูรเพลิงเขาเดียวหนึ่งปีจะมีแค่หนึ่งชิ้น ยิ่งไปกว่านั้นอสูรเพลิงปกป้องมณีเพลิงเม็ดนั้นอย่างกับอะไรดี จะได้มาง่ายๆ เพียงนั้นได้อย่างไร?
ทว่าเมื่อเฟิ่งจิ่วได้ยินคำพูดเขา ก็หยิบมณีเพลิงพวกนั้นออกมาจากถุงฟ้าดินทันที ชายวัยกลางคนตรงจุดแลกเปลี่ยนตาค้างทันใด แม้แต่นักเรียนที่ต่อแถวรอส่งภารกิจด้านหลังแต่ละคนยังจับจ้องมณีเพลิงกองเท่าภูเขาเล็กนั้นด้วยความตะลึงไม่สิ้นสุด พูดอะไรไม่ออกกันไปสักพัก…
……………………………….