№ 685 ดาราหงส์ปรากฏ ดวงวิญญาณเข้ามาสู่โลก
เยี่ยจิงพาเฟิ่งจิ่วไปทำความคุ้นเคยรอบสำนักพลังวิญญาณ และพูดถึงอาจารย์ของแต่ละเขตรวมถึงนักเรียนระดับสวรรค์ให้เธอฟัง สุดท้ายเห็นท้องฟ้ามืดแล้ว จึงบอกว่า “วันนี้แค่นี้แหละ พรุ่งนี้เช้าเจ้าก็อย่าลืมมา บทเรียนวันพรุ่งนี้ของอาจารย์หลี่ว์หลักๆ จะสอนพวกเราว่าต้องควบคุมพลังวิญญาณขับเคลื่อนธาตุในร่างอย่างไร บทเรียนนี้สำคัญมาก เจ้าอย่าสายล่ะ”
“รู้แล้วๆ เช่นนั้นข้าขอตัวกลับก่อน”
เธอเอ่ยพลางโบกๆ มือ ถอดขนนกตรงเอวออก แล้วกระโดดขึ้นไปนั่งเบาๆ ขณะกำลังเตรียมตัวออกไปก็เหมือนคิดอะไรได้ ยิ้มเอ่ยถามอย่างหยอกล้อ “จริงด้วยเยี่ยจิง วันนี้ทำไมเจ้าถึงกระตือรือร้นเพียงนี้? ไม่กลัวข้าเอาเปรียบเจ้าหรือ? วันนี้เจ้าจูงเดินไปทั่ว นักเรียนไม่น้อยต่างเห็น เจ้าไม่กลัวเราสองคนจะมีข่าวลืออะไรหรือ?”
เยี่ยจิงได้ยินเช่นนี้ก็หัวเราะเบาๆ “กับเจ้าจะมีข่าวลืออะไรได้หรือ? รีบกลับไปเถอะ!”
เฟิ่งจิ่วเลิกคิ้ว ยิ้มบอกว่า “หรือเจ้าคิดว่าคำแนะนำของข้าครั้งก่อนไม่เลว และคิดจะผูกไมตรีกับข้าก่อนภายหน้าจะได้มาเป็นพี่สะใภ้?”
กล่าวจบเธอก็ลูบๆ คาง “แต่เจ้าคงยังไม่เคยเจอพี่ชายข้ากระมัง?”
เยี่ยจิงโดนเขาพูดเสียจนหน้าแดง เอ็ดไปว่า “อย่าพูดอะไรไร้สาระ รีบกลับไปเลย”
“ฮ่าๆๆ ได้! เช่นนั้นข้าไปแล้ว พรุ่งนี้เจอกัน”
เยี่ยจิงเห็นเขาโบกมือหัวเราะร่า ขณะกำลังเตรียมจะจากไปยังเห็นเขาหันกลับมา จึงถลึงมองอย่างน่าขันนิดหน่อย “เจ้าอยากพูดอะไรอีก? เจ้าอย่าคิดเลอะเทอะเชียว”
“แหะๆ ไม่ใช่ๆ ข้าแค่อยากถามว่าเจ้าคงจะกินยาเลี่ยงธัญพืชเหมือนพวกเขาสินะ?”
“นอกจากพวกอาจารย์แล้วนักเรียนของสำนักศึกษาก็กินยาเลี่ยงธัญพืชกันหมด”
“อืม รู้แล้ว เช่นนั้นพรุ่งนี้เช้าข้าจะนำของกินมาให้เจ้า” เธอขยิบตาไปทางเยี่ยจิง ถึงจะนั่งขนนกลอยออกไป คิดว่าพรุ่งนี้เช้าค่อยไปหาของกินที่ห้องครัวเสียหน่อย
ภายในเรือนแห่งหนึ่งบนยอดเขาหลัก โม่เฉินในชุดสีขาวกำลังเล่นหมากรุกกับเจ้าสำนัก
“คนที่กวนเหล่าตามหาตั้งนานนึกไม่ถึงว่าจะไปสำนักยาเซียน ได้ยินกวนเหล่าบอกว่าเด็กคนนี้มีพรสวรรค์ไม่ธรรมดา เพียงแต่ เหอะๆๆ ฝีมือการก่อปัญหาของเด็กหนุ่มคนนี้คนอื่นก็เทียบไม่ได้เช่นกัน”
ได้ยินคำพูดที่มีรอยยิ้มของเจ้าสำนัก โม่เฉินที่เพิ่งล้มหมากตัวหนึ่งแววตาสั่นไหวเบาๆ ในดวงตาลึกล้ำสงบนิ่งฉายแววยิ้มเยาะ
หนุ่มน้อยคนนั้นไม่เพียงสร้างปัญหาเก่ง ยังแอบขโมยอาหารจากห้องครัวได้อย่างเงียบเชียบไร้เสียงอีกด้วย
“คนคนนั้นที่ข้าต้องการตามหามีข่าวอะไรหรือยัง?” โม่เฉินเอ่ยถามเสียงเนิบ น้ำเสียงใสดุจน้ำพุ และเฉยชาราวกับเทพ
ได้ยินเช่นนี้ มือของเจ้าสำนักที่กำลังจะวางหมากชะงักเล็กน้อย เงยหน้ามองเขา “เจ้ามั่นใจหรือว่าคนคนนั้นอยู่สำนักหมอกดาราจริงๆ?”
“อืม ท่านอาจารย์ข้าบอกว่าอยู่ที่นี่ เช่นนั้นต้องอยู่ที่นี่แน่นอน”
“แต่…”
เจ้าสำนักขมวดคิ้วเล็กน้อย บอกว่า “คนคนนั้นมีเอกลักษณ์อะไรแม้แต่เจ้ายังไม่รู้ แค่รู้ว่าเป็นสาวน้อยอายุสิบหก นักเรียนหญิงอายุสิบหกในสำนักศึกษาหมอกดาราอันใหญ่โตมีเป็นพันเป็นหมื่น ตามหาเช่นนี้ต้องไม่ได้เรื่องแน่ๆ”
เจ้าสำนักพูดไป สิ้นเสียงยังถามว่า “อาจารย์เจ้าว่าอย่างไรบ้าง? หรือแค่บอกให้เจ้ามาตามหาสาวน้อยอายุสิบหกที่สำนักศึกษาหมอกดารา?”
โม่เฉินได้ยินเช่นนี้ก็มองไปบนท้องฟ้า เอ่ยเสียงเบาว่า “ดาราหงส์ปรากฏ ดวงวิญญาณเข้ามาสู่โลก นางมาจากโลกอื่น ทำลายซึ่งกฎแห่งสวรรค์ทั้งแปด และจำต้องกลายเป็นเจ้าแห่งใต้หล้า”
สิ้นเสียงเขาก็เงียบไปเนิ่นนาน เมื่อเจ้าสำนักสงสัยในความหมายของคำพูดเขา ก็มองไปทางเจ้าสำนักและบอกว่า “นี่เป็นคำพูดเดิมของอาจารย์ข้า คนคนนี้ต้องหาให้เจอ”
เขาไม่ได้บอกว่านอกจากนี้อาจารย์ยังพูดบางอย่างเกี่ยวกับเขาและนาง…
………………………..