Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 702

№ 702 ตัวทดลองยา

เฟิ่งจิ่วหันกลับไป จ้องมันอย่างดุร้าย “หุบปากเจ้าไปซะ! ข้าไม่อนุญาตให้พูดภาษามนุษย์ต่อหน้าคนอื่น มิเช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าส่งเสียงไม่ได้ตลอดไป!”

สัตว์อสูรที่ไม่ใช่สัตว์เทวะเอ่ยปากพูดภาษามนุษย์ หากคนอื่นรู้เข้าจะเกิดปัญหาใหญ่เพียงใด?

เหล่าไป๋ได้ยินคำพูดนี้ ก็พลันปิดปากด้วยท่าทางเช่นมนุษย์ แล้วหมอบกลับลงไปบนพื้นหญ้าอย่างเชื่องๆ นายท่านเป็นคนพูดจริงทำจริง มันไม่กล้าท้าทายความอดทนของนาง

กระทั่งเฟิ่งจิ่วเข้าอาศรมไป อสูรกลืนเมฆากับหมีดำตัวใหญ่ด้านนอกกำลังนั่งหมอบ สี่ตาของสองสัตว์อสูรจ้องมองเหล่าไป๋ เหล่าไป๋เห็นเช่นนี้ก็เชิดคางขึ้นอย่างภาคภูมิใจ แล้วจ้องไปยังอสูรกลืนเมฆา

“ทำไมรึ ข้าทำให้เจ้าตกใจหรือไม่? ข้าเคยบอกเจ้าตั้งแต่แรกแล้วว่าข้าไม่ใช่สัตว์อสูรธรรมดา เป็นอย่างไรเล่า? เห็นหรือยัง? หึ ข้าไม่ใช่สัตว์เทวะยังพูดภาษาคนได้ ไหนเลยจะเหมือนเจ้า”

อสูรกลืนเมฆาชายตามองมัน “เจ้าได้ใจอะไรกัน? นายท่านบอกแล้วไม่ใช่หรือ? หากเจ้ากล้าโพล่งพูดภาษามนุษย์ออกมาต่อหน้าคนอื่น จะทำให้เจ้าส่งเสียงไม่ได้อีกตลอดไป อย่านึกว่านายท่านแค่พูดไปตามปาก เรื่องที่เจ้าไม่ใช่สัตว์เทวะแต่พูดภาษามนุษย์ได้ หากแพร่งพรายไปมีแต่จะสร้างปัญหาให้นายท่าน ดังนั้นดีที่สุดต้องหุบปากม้าของเจ้าไว้แน่นๆ หน่อย”

เหล่าไป๋ได้ยินแล้วไม่พูดตอบอย่างที่เห็นได้ยาก ถึงอย่างไรความฉลาดมันก็ไม่ได้น้อย แม้จะบ้ากามไปหน่อย แต่เรื่องนี้มันยังรู้เรื่องดี

ภายในห้องยาประจำอาศรม เฟิ่งจิ่วมองยาอายุวัฒนะสองเม็ดที่เหลือ ไม่ว่าสีหรือการใช้ยาล้วนไม่มีผิดพลาด ทำไมถึงทำให้สัตว์อสูรพูดได้? แม้จะสงสัยแต่ยังคงมั่นใจ ตำรายานั้นเป็นตำรายาสัจจะไม่ผิดแน่ๆ เหล่าไป๋กินยาเม็ดนั้นไปถึงได้โพล่งเรื่องเบื้องหลังออกมาหมด ข้อนี้ไม่ต้องสงสัยเลย

“ต้องมีจุดที่พลาดแน่ๆ ตรงไหนกันล่ะ?” เธอหลับตาครุ่นคิด ภายในห้วงความคิดหวนนึกถึงกรรมวิธีและขั้นตอนการกลั่นยาเซียน หวนนึกถึงคุณสมบัติและสรรพคุณทางยาของสมุนไพรทุกอย่าง ทันใดนั้นห้วงความคิดก็มีแสงสว่างวาบ

“ใส่หญ้าวิญญาณทวีวาจามากไป!”

ดังนั้นเธอจึงเปิดเตาอีกครั้ง และกลั่นยาอายุวัฒนะใหม่ ครั้งนี้ตำรายาเหมือนเดิม แต่เธอปรับปริมาณสมุนไพรปรุงใหม่ ผ่านไปประมาณสองชั่วยาม ยาอายุวัฒนะก็ออกมาจากเตา

เธอนำยาเตานี้ออกมา เห็นว่าในนั้นเป็นยาอายุวัฒนะทั้งสามเม็ด แต่มีเพียงสองเม็ดที่สำเร็จ อีกเม็ดหนึ่งเป็นยาพิษ

เทียบกับสองเม็ดที่นำออกมาก่อนหน้านั้น สีสันและขนาดเหมือนกันทุกประการ สิ่งเดียวที่แตกต่างคือเพียงวินิจฉัยอย่างละเอียด จะได้กลิ่นว่ากลิ่นยาหนึ่งในนั้นค่อนข้างเจือจาง

“ครั้งนี้คงไม่พลาดแล้ว” เธอเอ่ยขึ้น ในใจกลับมีความมั่นใจแค่หกถึงเจ็ดจากสิบส่วน คิดๆ แล้วก็ถือยาอายุวัฒนะเดินออกมา เห็นสัตว์อสูรสามตัวด้านนอกหมอบอยู่บนพื้นหญ้า ก็กำชับไว้สักประโยค ก่อนจะนั่งขนนกบินไปหาเยี่ยจิง

เห็นนายท่านออกไปแล้ว เหล่าไป๋ถึงขยับปาก “เจ้าว่าพวกเราต้องตามไปหรือไม่?”

อสูรกลืนเมฆาชายตามอง “ตามไปทำไม?”

“แน่นอนว่าต้องปกป้องนายท่านสิ!” เหล่าไป๋กล่าวอย่างสมเหตุสมผลและคึกคัก

อสูรกลืนเมฆาเห็นมันยืนขึ้นสะบัดหางก็หัวเราะเยาะ “เจ้าไม่ได้ยินนายท่านสั่งไม่ให้พวกเราวิ่งพล่านหรือ? อยากไปเจ้าก็ไปสิ ข้าไม่ไปหรอก”

“เสี่ยวเฮย เจ้าไปไหม?” เหล่าไป๋มองหมีดำตัวใหญ่พลางถาม

หมีดำตัวใหญ่เกาหัว มองๆ เหล่าไป๋แล้วมองอสูรกลืนเมฆา สุดท้ายก็ส่ายหน้าไม่กล้าไป

เหล่าไป๋เห็นเช่นนี้ก็หัวเราะ หมอบกลับลงไปอย่างเบื่อหน่าย

อีกด้านหนึ่ง เฟิ่งจิ่วตามหาที่พักไป๋รั่วเฟยพบ มาถึงบริเวณเรือนแล้ว เมื่อเห็นสองคนที่นั่งดื่มชาอยู่กลางลานบ้าน แววตาก็ฉายประกายพร้อมเผยรอยยิ้ม

………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!