Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 720

№ 720 ตื่นมาเช่นนี้

ยามนี้รองเจ้าสำนักค่อนข้างวิตก ไม่ได้สนใจเขามาก เพียงถามว่า “เรื่องอะไร? เจ้าว่ามาซิ”

“ข้าขอยืมใช้ป้ายคำสั่งท่านรองเจ้าสำนักได้หรือไม่?” กวนสีหลิ่นมองเขาพลางถาม

รองเจ้าสำนักตกใจ หลังจากมองเขาแวบหนึ่ง สายตาก็มองที่เจ้าสำนัก ครั้นเห็นเจ้าสำนักพยักหน้าถึงค่อยหยิบป้ายคำสั่งออกมาให้เขา พลางถามว่า “เจ้าจะใช้ป้ายคำสั่งทำอะไรหรือ?”

ใบหน้าองอาจของกวนสีหลิ่นที่รับป้ายคำสั่งมาเผยรอยยิ้มในที่สุด เขาไม่ได้ตอบ แต่หลังจากคารวะคนทั้งสองก็เดินออกไปเรียกเยี่ยจิง ก่อนออกไปกันอย่างรวดเร็ว

“เขาคิดจะทำอะไร?” รองเจ้าสำนักมองสองคนที่จากไป ขมวดคิ้วเล็กน้อย

“รอเห็นก็รู้เอง”

เจ้าสำนักกล่าวจบก็ดึงสายตากลับไปมองอาศรมที่ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ข้างในใจทอดถอนใจอย่างอดไม่ได้ เฟิ่งจิ่วคนนี้จะหลับเก่งเกินไปแล้ว

เวลาประมาณครึ่งก้านธูปผ่านไป ทุกคนเห็นกวนสีหลิ่นกับเยี่ยจิงที่ออกไปก่อนหน้านี้กลับมาอีกครั้ง ในมือทั้งสองถือของไว้ ด้านหลังมีนักเรียนสำนักพลังวิญญาณสองสามคนช่วยถือของตามมาด้วย

ท่ามกลางสายตาสงสัยของทุกคน เพียงเห็นกวนสีหลิ่นสั่งให้คนวางเรียงของไว้ตรงเขตอาคมด้านหน้าอาศรม หนึ่งในนั้นตั้งเตาไฟอุ่นแกงโสมไก่วิญญาณไว้

ไม่เพียงเท่านี้ หลังจากเปิดฝาของอื่นๆ ออก ทุกคนต่างเบิกตากว้างทันที เกี๊ยวเนื้อบางห่อน้ำแกงเอย ไก่วิญญาณย่างอะไรเอย รวมถึงเนื้อหมูวิญญาณหนึ่งขาใหญ่ก็ยังถูกวางย่างไว้บนตะแกรงไฟ ขณะตกตะลึงทุกคนมองเสียจนน้ำลายไหล

“พวกเขาทำอะไรน่ะ หิวเสียแล้วหรือ? นึกไม่ถึงว่าจะไปหยิบอาหารจากครัวมา? นั่นเป็นอาหารที่เตรียมให้พวกอาจารย์ทั้งนั้น ทำไมพวกเขาถึงยกของกินมากมายเพียงนั้นมาที่นี่?”

“ใช่ หนำซ้ำเวลาและสถานการณ์ตอนนี้ กินอาหารตรงนี้จะเหมาะสมจริงๆ หรือ?”

นักเรียนพวกนั้นพากันวิจารณ์ แม้แต่เหล่าอาจารย์ที่ตามมาเห็นแล้วยังขุ่นข้องใจยิ่ง แต่เจ้าสำนักกับรองเจ้าสำนักไม่พูดอะไร จึงเอ่ยปากไม่ได้ เพราะพวกเขาเห็นรองเจ้าสำนักมอบป้ายคำสั่งให้กวนสีหลิ่นไป มิเช่นนั้นเขาคงเข้าห้องครัวไม่ได้

เมื่อเห็นภาพเบื้องหน้าอาศรม มองชายหนุ่มนามกวนสีหลิ่นวางอาหารรสเลิศที่แผ่ไอร้อนพวกนั้นไว้หน้าเขตอาคม โม่เฉินซึ่งยืนบนภูเขาไม่ไกลแววตาวาบไหวเล็กน้อย ดวงตาฉายแววยิ้ม

ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง

ยามนี้เจ้าสำนักกับรองเจ้าสำนักต่างครุ่นคิด ทั้งสองมองกวนสีหลิ่นถือพัดพัดลมเหมือนคิดอะไรอยู่ ยามเห็นเขาส่งกลิ่นหอมที่ลอยมาจากอาหารรสเลิศเข้าไปด้านในเขตอาคม หลังตกใจเล็กน้อยแล้ว ดวงตาก็เป็นประกาย

ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง! เขาคิดจะใช้กลิ่นหอมของอาหารปลุกเฟิ่งจิ่วด้านในอาศรม? แต่เช่นนี้จะได้หรือ?

ในใจทั้งสองอดไม่ได้ที่จะสงสัย

ทว่าความสงสัยนี้ ไม่กี่ชั่วอึดใจก็กลายเป็นความตกตะลึงและยินดี

เฟิ่งจิ่วตื่นมาด้วยความหิว เธอพลิกตัวอย่างเกียจคร้านขณะท้องร้องโครกคราก ระหว่างกึ่งหลับกึ่งตื่น กลิ่นหอมเนื้อที่เหมือนมีแต่ก็เหมือนไม่มีลอยเข้ามาให้เธอดมกลิ่นสักพัก

“หอมจริง…”

เธอคิดว่ากำลังฝันแน่ๆ เพราะอยู่ในอาศรมนี้หรือแม้แต่ทั้งภูเขานี้ ไม่น่ามีกลิ่นหอมอาหารรสเลิศได้

ดังนั้นเธอจึงพลิกตัว ครั้งนี้หันหน้าไปข้างนอก ดมกลิ่นหอมเนื้อนั้นและหลับไปอย่างอิ่มเอม

ทว่าเมื่อกลิ่นหอมนั้นยิ่งอบอวลทุกที จนเธอถึงกับดมกลิ่นแล้วพูดชื่ออาหารรสเลิศพวกนั้นออกมาได้ เสียงท้องร้องโครกครากยิ่งดังขึ้น จู่ๆ เธอก็ลืมตา สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วนิ่งเหม่อไป เวลาต่อมา หลังจากพลิกร่างกระโดดขึ้นมาในสภาพผมยุ่งเหยิงสวมเสื้อผ้าลวกๆ ก็พุ่งออกไปข้างนอก

“ใคร! ใครนำอาหารรสเลิศมายั่วใจข้า!”

…………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!