Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 729

№ 729 ผู้ที่กลับมายามค่ำคืน

โอวหยางซิวมองหนุ่มน้อยชุดฟ้าที่เดินออกมา กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ข้าท้าประลองเจ้าไว้ ลืมแล้วหรือ?”

เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ก็ฉีกยิ้ม “ไม่ลืมหรอก แต่ข้าไม่ได้รับปากนี่!”

ได้ฟังแล้วเขาผุดลุกยืนขึ้น สายตาคมกริบคาดคั้นหนุ่มน้อยชุดฟ้าตรงหน้า “กำลังเจ้าไม่ได้อ่อนแอ ทำไมถึงไม่รับคำท้าข้า?”

“ไม่รับก็คือไม่รับ ไหนเลยต้องมีเหตุผลมากมาย?” เธอกลอกตาก่อนเดินผ่านเขามานั่งลงยังโต๊ะหินใต้ต้นไม้ สองมือวางลงเคาะบนโต๊ะเบาๆ สายตาก็มองไปทิศทางที่อาหารจะมาส่ง

โอวหยางซิวเห็นเช่นนี้ พลังวิญญาณบนร่างปั่นป่วน คิดจะบังคับให้อีกฝ่ายสู้ แต่เมื่อพลังวิญญาณบนร่างพรั่งพรู ยังไม่ทันเข้าใกล้เด็กหนุ่มชุดฟ้าที่นั่งใต้ต้นไม้ก็ได้ยินเสียงเรียกอย่างเฉยเมย

“เสี่ยวเฮย”

สิ้นเสียงเกียจคร้านนั้น ก็เห็นหมีดำตัวใหญ่ที่เดิมทีหมอบอยู่นิ่งๆ พลันลุกขึ้นกระโจนมาทางเขาด้วยท่าทางดุร้าย ทำให้เขาเกือบหลบไม่ได้ในทันที

เขายกแขนเสื้อขึ้นมองรอยสองสามรอยที่โดนกรงเล็บตะปบขาด แววตาคมปลาบสั่นไหว ชั่วเวลาต่อมาก็โจมตีไปทางหมีดำตัวใหญ่ตัวนั้น

ใต้ต้นไม้ เฟิ่งจิ่วยกมือขึ้นเท้าคาง หันมองการต่อสู้ระหว่างคนกับหมีเล็กน้อย

ท่ากายของโอวหยางซิวว่องไว โจมตีดุดัน แม้ต่อสู้ด้วยมือเปล่า แต่กลิ่นอายพลังวิญญาณที่เอ่อล้นระหว่างสองมือกลับเป็นดั่งกระบี่คม ส่งเสียงฟึ่บฟั่บกลางอากาศอย่างเฉียบคมหาได้เปรียบ

“โฮก!”

เสี่ยวเฮยคำราม แรงกดดันของอสูรศักดิ์สิทธิ์จู่โจมออกไป ทำเอาเขาตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าวทันที

โอวหยางซิวสีหน้าคร่ำเครียดเล็กน้อย แม้เขาเป็นผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐาน แต่ยามเผชิญหน้าอสูรศักดิ์สิทธิ์ยังทำได้แค่ฝืนโต้กลับ ภายใต้แรงกดดันของอสูรศักดิ์สิทธิ์ ร่างกายถูกแรงกดดันที่เห็นได้ด้วยตาเปล่านั้นสะเทือนจนแข็งทื่อ ความเร็วจึงชะลอลงอย่างเห็นได้ชัด

เสี่ยวเฮยมีคำสั่งจากเฟิ่งจิ่ว จะไม่ทำร้ายเขาจริงๆ ด้วยเหตุนี้จึงแค่กำลังแกล้งเขาเล่นเท่านั้น

ที่ใต้ต้นไม้ เมื่อเฟิ่งจิ่วเห็นว่าคนส่งอาหารมาถึงตรงหน้าไม่ไกล ดวงตาก็เป็นประกาย ร่างหายวับพุ่งไปทางคนคนนั้น หลังจากรับกล่องข้าวสามชั้นใส่อาหารจากมือเขามา ก็กลับเข้าอาศรมและปิดเขตอาคมทันที

โอวหยางซิวเห็นเช่นนี้ก็โกรธจัด “เฟิ่งจิ่ว! เจ้าออกมา!”

เขาไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน ท้าประลองกับใครคนหนึ่งแต่นึกไม่ถึงว่าฝ่ายตรงข้ามจะซ่อนตัวไม่ยอมสู้ ทั้งยังสั่งอสูรสัตว์เลี้ยงมารับคำท้า หนำซ้ำอสูรสัตว์เลี้ยงก็ไม่ใช่ระดับธรรมดา แต่เป็นระดับอสูรศักดิ์สิทธิ์ มีกำลังต่อสู้เทียบเท่าผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลัง ระดับสร้างรากฐานขั้นกลางเช่นเขาจะสู้ได้อย่างไร!

เหล่าไป๋ที่กำลังเดินลอยชายถูกผ้ามัดปากไว้ เฟิ่งจิ่วผูกไว้โดยเฉพาะเพื่อกันไม่ให้มันพูด ยามนี้มันเห็นโอวหยางซิวมีสภาพน่าอับอายหลังจากต่อสู้กับเสี่ยวเฮย ปากก็ส่งเสียงงึมงำฟังไม่ชัด

โอวหยางซิวฟังไม่เข้าใจ หากฟังเข้าใจคงรู้ว่ามันกำลังพูดว่า ‘แม้แต่เสี่ยวเฮยยังสู้ไม่ได้ยังอยากจะประมือกับนายท่าน? หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ’

สุดท้าย ภายใต้การขับไล่ไสส่งของเสี่ยวเฮย โอวหยางซิวก็จากไปอย่างขุ่นเคือง

ครั้งแรกที่พบเฟิ่งจิ่ว เขาแค่อยากเห็นเสียหน่อยว่าเด็กหนุ่มคนนี้เป็นคนเช่นไรกันแน่ แต่หลังจากเห็นเด็กหนุ่ม เขาก็เกิดใจร้อนอยากประลองกับเฟิ่งจิ่ว

รอบนลานประลองตั้งครึ่งวันกว่ายังไม่เห็นตัวคน เขามาดักเจอหน้าอาศรม ไหนเลยจะรู้ว่าสุดท้ายอีกฝ่ายจะให้หมีดำตัวใหญ่มาไล่กวดเขา นี่ไม่เพียงทำลายความตั้งใจที่จะสู้กับเฟิ่งจิ่วไม่ได้ กลับทำให้ความตั้งใจของเขายิ่งมากล้น

วันนี้ไม่มีโอกาสไม่เป็นไร เขาต้องหาโอกาสประลองกับเฟิ่งจิ่วให้ได้!

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง ทว่ายามนี้ มีร่างหนึ่งมาถึงประตูด้านข้างสำนักพลังวิญญาณของสำนักศึกษาภายใต้การคุ้มกันของคนกลุ่มหนึ่ง…

……………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!