№ 734 สู้ไม่ได้ก็หนี
โดยเฉพาะเมื่อได้ยินเฟิ่งจิ่วพูดว่าผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังแปดคน ผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณสี่คน หัวใจยิ่งหวาดหวั่น
ภายใต้กำลังต่อสู้และการซุ่มโจมตีเช่นนี้ จะมีโอกาสรอดได้หรือ?
ในตระกูลของเยี่ยจิง มีเพียงปรมาจารย์ในตระกูลถึงจะมีวรยุทธ์ระดับกำเนิดวิญญาณ ยามนี้นึกไม่ถึงว่าจู่ๆ จะมีผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณสี่คนกับผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังแปดคนปรากฏตัว แรงสั่นสะเทือนจากผู้แข็งแกร่งที่มาเยือน อานุภาพจากไอสังหารและแรงกดดันเช่นนี้ ทำให้สองขานางก้าวไม่ออก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหนีไปเลย
นางเป็นแค่ผู้ฝึกตนระดับยอดปรมาจารย์ช่วงสาม นางที่ไม่ใช่แม้แต่ระดับสร้างรากฐาน ภายใต้แรงกดดันเช่นนี้เลือดลมในร่างไม่แล่นพลุ่งพล่านก็ถือว่าดีแล้ว
“เฟิ่งจิ่ว ขะ ข้าหนีไม่ได้”
นางฝืนรับแรงกดดันพลางเอ่ยประโยคนี้ออกมาอย่างยากลำบาก ยามนี้นางเข้าใจอย่างลึกซึ้ง การสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเฟิ่งจิ่วเป็นเรื่องโง่เขลา มีแต่ต้องกลับสำนักศึกษาไปขอความช่วยเหลือโดยเร็ว ถึงอาจจะช่วยชีวิตเฟิ่งจิ่วได้
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ก็หันไปเหลือบมอง เห็นสีหน้านางขาวซีด มุมปากมีเลือดไหล หน้าผากมีเหงื่อซึม ฝ่ามือจึงเรียกกลิ่นอายพลังวิญญาณแล้วยื่นมือส่งเยี่ยจิงออกไปไกลกว่าสามจั้ง
เยี่ยจิงมองลึกไปที่นางโดยไม่พูดอะไร ก่อนจะเรียกพลังออกดั้นด้นไปยังสำนักศึกษาอย่างรวดเร็ว…
สิบสองคนนั้นไม่สนใจการจากไปของเยี่ยจิง อาจคิดว่าไม่ควรค่าอยู่ในสายตา หรือคิดว่าต่อให้นางตามกำลังเสริมมาก็ไม่น่าเป็นคู่มือของพวกเขา
ภารกิจของพวกเขา ในสายตาของพวกเขา มีเพียงคนนามว่าเฟิ่งจิ่วคนนี้!
“เจ้าจะไปด้วยกันดีๆ หรือจะให้พวกเราลงมือ?” หัวหน้าหนึ่งในสี่ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณเอ่ยเสียงเข้ม แววตาที่ทั้งคมกริบและเย็นชาจับจ้องหนุ่มน้อยชุดแดงคนนั้น
“ใครส่งพวกเจ้ามา?” เธอเอ่ยถาม ในใจคิดคำนวณอย่างว่องไวว่ายังมีโอกาสรอดเท่าไร รวมถึงใครเป็นคนส่งคนพวกนี้มากันแน่
คนที่ถูกส่งมา ในนั้นมีระดับหลอมแก่นพลังแปดคน ระดับกำเนิดวิญญาณสี่คน ชัดเจนว่าประเมินกำลังเธอไว้แล้ว หากเป็นแค่ระดับหลอมแก่นพลังยังดี แต่สิ่งที่แย่ที่สุดคือผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณสี่คนนั้น ถึงแม้เธอมั่นใจแต่ก็ไม่หลงตัวเอง ด้วยกำลังของเธอ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะต่อกรคนตรงหน้าพวกนี้
หนำซ้ำแม้เยี่ยจิงกลับสำนักศึกษาไปขอความช่วยเหลือ เจ้าสำนักกับรองเจ้าสำนักเข้ามาช่วย ก็ยังเกรงว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนพวกนี้
สมควรตาย! เห็นชัดๆ ว่าเธอไม่ได้ไปยั่วยุกลุ่มอำนาจที่แข็งแกร่งทรงพลังเช่นนี้!
ทว่าพอความคิดนี้ตกไปกลับตกใจทันที แววตาปรากฏความตะลึงและกระจ่างแจ้งบางส่วน
“พวกเจ้าเป็นคนจากแปดจักรวรรดิใหญ่!”
ไม่ใช่คำถามแต่เป็นการยืนยัน มีเพียงกลุ่มอำนาจของแปดจักรวรรดิใหญ่ถึงจะส่งคนระดับหลอมแก่นพลังแปดคนกับระดับกำเนิดวิญญาณสี่คนเช่นนี้มาได้ตามใจชอบ บอกว่าให้ไปกับพวกเขา? หรือว่าเซวียนหยวนโม่เจ๋อจะเจอเรื่องยุ่งยากอะไรเข้า ถึงทำให้คนพวกนี้หันมาสนใจเธอ?
และมีเพียงคนแปดจักรวรรดิใหญ่ที่หาญกล้าป่าเถื่อนเช่นนี้ ถึงกับลงมือกลางวันแสกๆ โดยไม่กลัวว่าเจ้าเมืองซิงอวิ๋นหรือพวกเจ้าสำนักศึกษาจะแตกตื่น หยิ่งยโสจองหองพองขน ไม่เห็นพวกเขาในสายตา!
ได้ยินเฟิ่งจิ่วกล่าวคำว่าแปดจักรวรรดิออกมาตรงๆ หัวหน้าหนึ่งในสี่ผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณแววตาสั่นไหวเล็กน้อย ยกมือขึ้นให้สัญญาณ จากนั้นผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังแปดคนด้านหลังตวัดกระบี่ยาวในมือ กระบี่ยาวที่ส่องประกายเย็นเยียบพลันโจมตีไปทางร่างสีแดงเบื้องหน้าพร้อมกระแสลมรุนแรง
เฟิ่งจิ่วที่สังเกตมาตลอดเห็นพวกเขาลงมือก็ไม่ได้สู้ตอบ แต่ก้าวถอยไปเล็กน้อย แล้วหมุนตัวหนีไปทันที…
………………………