№ 741 กองหนุนใหญ่
บนยอดเขาหลัก เมื่อกวนสีหลิ่นเห็นเนี่ยเถิงก็กวาดมองอย่างขุ่นเคือง ยามนี้กลับไม่ได้เอาเรื่องเขาเรื่องความแค้นในวันวาน แต่ไปหาเยี่ยจิงและถามเรื่องราวให้ชัดเจน จากนั้นขณะที่พวกรองเจ้าสำนักออกไป ก็ตามไปด้วยกันกับพวกเขาด้วย
“พวกเจ้าจะไปทำอะไร? นั่นเป็นผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังแปดคน ผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณอีกสี่คน หนำซ้ำยังไม่รู้ว่าวรยุทธ์แท้จริงพวกเขาอยู่ระดับใด กำลังอย่างพวกเจ้าไปก็หาที่ตายเปล่าๆ อยู่ที่นี่รอพวกเรากลับมาเถอะ!”
รองเจ้าสำนักพูดจบก็เห็นเจ้าสำนักพาเหล่าอาจารย์เร่งบินออกไปภายใต้การนำทางของเยี่ยจิง จึงสะบัดแขนเสื้อบอกเนี่ยเถิงกับกวนสีหลิ่นรวมถึงเซียวอี้หานว่า “รีบๆ กลับไปซะ! อย่าทำให้เวลาช่วยเหลือต้องล่าช้า!” สิ้นเสียงก็สะบัดแขนเสื้อ ไม่ให้โอกาสพวกเขาพูด แล้วร่อนกระบี่ไล่ตามคนข้างหน้าไปโดยเร็ว
เนี่ยเถิงเหลือบมองกวนสีหลิ่น ก่อนจะเรียกพลังกระโดดขึ้นเหยียบกระบี่ตามไป
กวนสีหลิ่นเห็นเนี่ยเถิงตามไปด้วย ทันใดนั้นก็หยิบกระดานแปดทิศที่เฟิ่งจิ่วมอบให้เขาในวันนั้นมาโยนขึ้นกลางอากาศ กระโดดขึ้นไป แล้วตามหลังเขาไปติดๆ
“รอข้าด้วย!” เซียวอี้หานหยิบพาหนะเหาะเหินตามไปเช่นกัน
ภายในสำนักศึกษา พวกนักเรียนแต่ละสำนักทั้งหมดใจสั่นสะท้าน แต่ละคนมองผู้อาวุโสระดับกำเนิดวิญญาณสี่คน อาจารย์สำนักพลังวิญญาณระดับหลอมแก่นพลังสิบแปดคน รวมถึงอาจารย์สำนักพลังเร้นลับระดับปราชญ์นักรบอีกยี่สิบคนของสำนักศึกษาหมอกดาราด้วยความตกตะลึง ต่างพากันเคลื่อนทัพขี่กระบี่พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วภายใต้การนำทัพของเจ้าสำนักกับรองเจ้าสำนัก
“เฮือก! ถึงกับทุ่มกำลังคนระดับหลอมแก่นพลังขึ้นไปจากทั้งสำนักศึกษา! แม้แต่ผู้อาวุโสระดับกำเนิดวิญญาณทั้งสี่ยังปรากฏตัว เจ้าสำนักกับรองเจ้าสำนักก็ไปด้วย กะ เกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นกันแน่?”
“คนที่เฟิ่งจิ่วคนนั้นไปยั่วยุเป็นใครกัน? ทำไมถึงต้องใช้กำลังต่อสู้เช่นนี้เข้าไปช่วยเหลือ? หนำซ้ำทำไมสำนักศึกษาถึงทุ่มกำลังต่อสู้จากทุกฝ่ายเข้าไปช่วยนักเรียนใหม่คนเดียว? เฟิ่งจิ่วคนนี้เป็นแค่บ้านนอกที่มาจากแคว้นระดับเก้าจริงๆ หรือ?”
“ดูสิ! นั่นคุณชายโม่เฉิน! ลูกศิษย์ผู้เฒ่าเทียนจี นึกไม่ถึงว่าจะตามหลังไปด้วย” พวกนักเรียนด้านล่างชี้ยังร่างปานเทพจุตินั้นที่ตามหลังไปท้ายสุด ยามนี้ความประหลาดใจในหัวใจยากจะกล่าวเป็นคำพูด
อีกด้านหนึ่ง พวกหัวหน้ากงสามคนมาถึงป่าทึบแห่งนั้นแล้ว เพียงก้าวเข้าไปภายในป่าก็รู้สึกถึงกลิ่นอายแข็งแกร่งที่ทั้งกดดันและมืดมน ภายในอากาศเต็มไปด้วยจิตสังหารกระหายเลือดที่ทำให้ใจคนสั่นไหว ถึงกับมีกลิ่นคาวเลือดจางๆ กระจายอยู่ภายใน
“ภูตหมอคนนั้นคงไม่หรอกกระมัง?”
ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนนั้นเอ่ยถาม
“เขาไม่น่าตายง่ายๆ เพียงนั้น” หัวหน้ากงกล่าวเสียงเข้ม “สัตว์พันธสัญญาคู่ชีวิตของเขาคือหงส์ไฟหรือสัตว์เทวะในตำนาน ต่อให้ถึงยามที่ชีวิตแขวนบนเส้นด้าย สัตว์พันธสัญญาคงออกมาปกป้องเขา จะกลัวก็กลัวเกิดเหตุไม่คาดฝันเถอะ”
“ทางนั้น!”
ชายชราคนนั้นกล่าว สายตาหยุดยังทิศทางหนึ่งด้านหน้า
“กระแสลมด้านหน้าปั่นป่วนค่อนข้างมาก มีเสียงต่อสู้คมกระบี่กระทบกันลอยมาแว่วๆ พวกเขาคงอยู่ส่วนลึกของป่าทึบนี้”
“ไปเถอะ!”
ทั้งสามเอ่ยพร้อมพุ่งไปด้านในอย่างรวดเร็ว ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งรู้สึกว่ากระแสลมกับแรงกดดันในอากาศแตกต่างจากภายนอก ยิ่งเดินเข้าไปด้านในเลือดลมภายในร่างก็ยิ่งปั่นป่วน
หัวหน้ากงกับชายชราระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้นยังดีอยู่
ทว่าผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังที่ตามมาด้วยกันต้องฝืนประคองกลิ่นอายในร่างไว้ เพื่อไม่ให้จิตใจล่องลอยจนกระแสลมในร่างเสียการควบคุม
เวลาประมาณครึ่งก้านธูป ทั้งสามถึงจะมาถึงจุดที่มีเสียงต่อสู้ดังขึ้น เมื่อเห็นร่างสีแดงนั้นถูกผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณสี่คนกับผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังอีกสองคนล้อมโจมตี ม่านตาก็หดลงโดยฉับพลัน…
………………