Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 872

№ 872 เจ้าของอสูรน้อย

คุณชายชุดแดงเดินเข้าไป แทบจะยังไม่ทันเข้าใกล้ข้างกายเฟิ่งจิ่ว แส้ในมือก็ฟาดไปทางนาง ขณะเดียวกันยังก่นด่าว่า “เจ้าคนไม่ดูตาม้าตาเรือ!”

“ฟิ้ว!”

แส้สะบัดมาอย่างกะทันหัน เฟิ่งจิ่วหลบออกทันที มองไปยังคนสวมชุดแดงนั้น แล้วขมวดคิ้วโดยฉับพลัน เอ่ยปากโดยไม่เกรงใจ

“หญิงบ้า เจ้าเป็นบ้าอะไรเนี่ย?”

คุณชายชุดแดงที่เป็ยหญิงแต่งกายชายได้ยินคำพูดเฟิ่งจิ่วก็โมโห “ทำร้ายคนของข้ายังกล้าโอหังอยู่ที่นี่อีก! ดูสิว่าข้าจะจัดการเจ้าอย่างไรดี!” สิ้นเสียง ขณะตวัดแส้กลับมากลิ่นอายพลังวิญญาณก็พุ่งพล่าน แล้วเหวี่ยงออกไปอีกครั้งเสียงดัง ฟาดไปยังใบหน้าเฟิ่งจิ่ว

นางคิดว่าหนุ่มน้อยคนนี้หน้าตางดงามกว่านางที่เป็นผู้หญิงหลายเท่า ซ้ำยังสวมชุดแดงเหมือนกัน ช่างขัดหูขัดตาเป็นที่สุดจริงๆ อีกทั้งในใจยังขุ่นเคือง จึงอยากทำลายใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ตินั่นเสีย

เฟิ่งจิ่วเพียงได้ยินคำพูดนี้ แล้วมองชุดแดงบนร่างนาง เดาได้ว่าเป็นคนคนนั้นที่ขว้างเงินมา แต่นึกไม่ถึงว่าคุณชายชุดแดงที่ว่าจะเป็นหญิงแต่งชายเหมือนกัน แต่การแต่งหน้ามีข้อบกพร่องมากเกินไป กลิ่นอายผู้หญิงทั่วร่าง แวบเดียวก็มองออกว่าเป็นผู้หญิง

แส้ตวัดออกมาเสียงดัง พร้อมด้วยกลิ่นอายพลังวิญญาณฟาดกระทบโต๊ะไม้เล็กนั้นแตกเป็นสองส่วน สามีภรรยาร้านแผงลอยตกใจเสียจนกอดกันหลบไปด้านหลัง

อสูรกลืนเมฆาที่เดิมทีนอนอยู่ข้างๆ เห็นภาพเช่นนี้ก็ลุกขึ้นมา ลูกหนังเล็กก้อนกลมโก่งตัวเล็กน้อยราวกับเม่นตัวหนึ่ง เส้นขนทั่วร่างตั้งขึ้นมา ดวงตาดุร้ายกระหายเลือดจ้องมองหญิงชุดแดงผู้จองหอง ปากเปล่งเสียงคำรามเบาๆ เหมือนเปล่งออกมาจากทั้งจมูกและลำคอ ฟังแล้วคล้ายเสียงคำรามเบาๆ ของสัตว์ร้าย

ชายวัยกลางคนชุดเทาที่ตามมาจากด้านหลังมองอสูรกลืนเมฆา ในดวงตาฉายแววแปลกใจ เพราะมองไม่ออกว่าสัตว์เลี้ยงตัวนี้คือสัตว์อสูรชนิดใด เห็นรูปร่างขนปุกปุย ทั้งคล้ายและไม่คล้ายสุนัข เหมือนสิงโตแต่ยังไม่ใช่สิงโต

“เจ้าหมา ไสหัวไป!”

เฟิ่งจิ่วหลบออกไปได้ หญิงชุดแดงที่ตีไม่โดนเขายิ่งโกรธจัด จึงเอาความโกรธไปลงยังร่างอสูรกลืนเมฆาที่แยกเขี้ยวอยู่ข้างๆ ฟาดแส้ไปทางมัน

“ไม่ได้ขอรับ!”

ชายวัยกลางคนตะโกนเสียงดัง ห้ามไม่ให้นางฟาดแส้ไปทางสัตว์เลี้ยงตัวนั้น เพราะเขาเห็นความดุร้ายกระหายเลือดที่ปรากฏในดวงตามัน ประกายเช่นนั้นชัดเจนว่าเป็นอสูรที่ดุร้ายมากถึงจะมี

เขากังวลว่านางฟาดแส้ไปทางมันแล้ว จะทำให้อสูรน้อยตัวนั้นจู่โจม ทว่าแม้เขาเอ่ยปากห้ามปราม ยังคงช้าไปครึ่งก้าว

เพียงเห็นว่าขณะที่แส้นั้นหวดออกไป หลังอสูรน้อยคำรามก็กระโจนไป ร่างเล็กกลมๆ ยามนี้คล่องแคล่วปานเสือดาว ระหว่างที่สี่ขากระโจนทะยานขึ้นไป ก็เผยกรงเล็บแหลมคมมุ่งไปทางหญิงคนนั้น

“กรี๊ด!”

หญิงคนนั้นกรีดร้อง ฝีเท้าพลันถอยหลังไปทั้งใบหน้าขาวซีด แต่หลังมือนางที่ถือแส้ไว้กลับโดนกรงเล็บอสูรกลืนเมฆาตะปบเลือดออกเสียดื้อๆ ลึกเสียจนเห็นกระดูกได้

เมื่อเห็นบาดแผลหลังมือนาง กลิ่นอายทั่วร่างชายวัยกลางคนมืดครึ้มลงมา เขาประคองนางมาคุ้มกันไว้ด้านหลังในทันที ป้องกันไม่ให้โดนอสูรน้อยทำร้ายเป็นครั้งที่สอง

แววตาที่ทั้งคมกริบและหนาวเย็นกวาดมองผ่านอสูรน้อยที่แยกเขี้ยวและเผยกรงเล็บ แล้วจ้องไปยังหนุ่มน้อยชุดแดงข้างๆ ที่ยืนพิงชมเรื่องสนุกอย่างใจเย็น เอ่ยถามเสียงเข้ม “ใต้เท้าไม่ต้องการสัตว์เลี้ยงแล้วหรือ?”

เป็นถึงนายของอสูรน้อย ยังไม่ห้ามปรามให้เกิดภาพเช่นนั้น เพียงมองอยู่นิ่งๆ เด็กหนุ่มคนนี้ช่างน่ารังเกียจจริงๆ

………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!