บทที่ 154 แคว้นแดนอิสระ
“นับตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ท่านหัวหน้าแก้ไขเปลี่ยนแปลงโครงสร้างส่วนในหล่านเย่ว์ ผ่านการพัฒนาอีกหลายเดือนจากนั้นหล่านเย่ว์ก็กลายเป็นองค์กรอิสระแห่งหนึ่ง หากมองตามประเภทแล้วสามารถเรียกได้ว่าเป็นแคว้นแดนขนาดเล็ก
แม้จะเล็ก แต่ในความหมายบางประการ ก็ถือเป็นกองกำลังทหารที่หาญกล้าแห่งหนึ่ง พร้อมด้วยกำลังสังหารที่แน่นอน” ผู้เฒ่าผู้หนึ่งพูดมาถึงตรงนี้ เห็นชัดว่ามีความนัยที่ต่างออกไป
“ท่านอื่นมีความเห็นเช่นไร หรือมีคำแนะนำหรือไม่” หลานเยี่ยเอ่ยปากถาม
“แม้หล่านเย่ว์ทำเช่นนี้ก็เพื่อคนภายในหล่านเย่ว์เอง แต่หล่านเย่ว์ก็ทำเพื่อคนที่ยากจนข้นแค้นเช่นกัน ขอแค่กำลังที่ถือเป็นฝั่งเลวร้ายยังดำรงอยู่ คนยากจนข้นแค้นก็จะมีไม่หยุด ดังนั้น…”
“ดังนั้นจึงคิดจะปฏิวัติตระกูลเยี่ยใช่หรือไม่”
“ท่านหัวหน้าเป็นประมุขตระกูลหลาน อำนาจของตระกูลหลานทัดเทียมกับตระกูลเยี่ย ดังนั้นจึงมีความสามารถมากพอที่จะทำให้โลกดีมากขึ้น”
หลานเยี่ยไม่ได้พูดอะไร ตอนนี้เขารู้สึกสับสนไปหมด ตอนแรกเพื่อไม่ให้บิดาที่อยู่ในเมืองหลวงถูกกดดันอีก เขาร่วมมือกับมู่หลีปรึกษาหารือเรื่องปฏิวัติตระกูลเยี่ยด้วยกัน ในตอนนั้นเองหลานเฟิงก็ปรากฏตัวขึ้น ทำให้เขามีเรื่องสับสนเพิ่ม ซึ่งก็คือสถานะของเขา สับสนอยู่ทั้งวัน เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าเมื่อไรคือจุดจบ
ตอนนี้ เขาจะปล่อยวางความคิดนี้แล้ว แต่หล่านเย่ว์กลับเสนอความเห็นนี้ออกมา ที่สำคัญไปกว่านั้นคือขอแค่เขาฟื้นฟูความทรงจำ ไม่แน่ว่าเขายังต้องแบกรับความรับผิดชอบนี้อีกด้วย
ความทรงจำของเขาสูญหายมากเกินไป อาศัยเพียงคนอื่นพูดย่อมไม่ได้เป็นแน่ เขามีเรื่องที่ไม่รู้มากเกินไป หลังจากฟื้นฟูความทรงจำแล้วจะต้องเผชิญกับเรื่องอะไรก็มิอาจทราบได้ จะให้เขาทำเช่นไร
หลานเยี่ยไม่ได้พูดอะไร เขาเงยหน้ามองฟ้า อยากค้นหาคำตอบให้เจอ แต่ก็พบเพียงเพดานห้อง
“คนอื่นเล่า”
“ถ้าไม่มีอะไรพูดอีกก็พอเท่านี้แล้วกัน แยกย้ายเถิด ข้าขอนั่งคิดเสียหน่อย”
มีคนจำพวกหนึ่งที่เห็นชัดว่ายังไม่อยากจบเท่านี้ คิดอยากพูดอะไรอีก แต่ในเมื่อหลานเยี่ยพูดออกมาเช่นนี้แล้ว จึงไม่ได้พูดอะไรออกไป พากันแยกย้าย
หลานเยี่ยกำลังครุ่นคิดคาดเดาว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงในการก่อตั้งหล่านเย่ว์ตอนแรกคืออะไร เพียงแค่อยากช่วยเหลือคนจนข้นแค้นเหล่านั้นอย่างบริสุทธิ์ใจเท่านั้นหรือ เช่นนั้นเหตุใดต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในด้วย หรือจะไม่ใช่อยากก่อตั้งดินแดนในอุดมคติขึ้นมาเช่นนั้นหรือ นับแต่นี้ตัดขาดจากโลกภายนอก ใช้ชีวิตอย่างบริสุทธิ์สวยงาม ไร้ซึ่งความเจ็บปวด ตอนแรกตนเองคิดเช่นไรกันแน่
ภายในโถงประชุมเหลือเพียงหลานเยี่ยและหลานเฟิงสองคน หลานเยี่ยนั่งพิจารณาเรื่องราวอยู่ด้านบน เพราะดื่มด่ำมากเกินไป แม้แต่หลานเฟิงเดินเข้ามาใกล้ก็ยังไม่รู้สึกตัว หลานฟิงนวดคิ้วที่ขมวดมุ่นของหลานเยี่ย หลานเยี่ยถึงได้สติกลับมา
“ตอนแรกเหตุใดข้าถึงปรับโครงสร้างหล่านเย่ว์” หลานเยี่ยเอ่ยปากถามเขา
“ตอนแรกที่เจ้ามาเมืองหลวง ความทรงจำถูกฟื้นฟูกลับมาเพราะเหตุบางประการ และรู้ข่าวท่านประมุขถูกลอบทำร้าย จึงคิดอยากกำจัดตระกูลเยี่ย หากหล่านเย่ว์ถูกพัฒนาขึ้นในอนาคตย่อมต้องเป็นกองกำลังที่ไม่เลวเลยทีเดียว ฉะนั้นด้วยความร้อนใจเจ้าจึงปรับเปลี่ยนโครงสร้างหลานเย่ว์” หลานเยี่ยฟังหลานเฟิงพูด รู้สึกไม่ค่อยถูกต้องเท่าไรนัก
“เอ๊ะ แต่ก่อนเจ้าเรียกข้าว่าอะไร”
“นายน้อย”
“เหตุใดตอนนี้ถึงไม่เรียก”
“เพราะตอนนี้ข้าเห็นเจ้าเป็นคนรัก” มือที่แต่เดิมนวดหว่างคิ้วของหลานเยี่ย ก็ลากลงมาบนใบหน้าของหลานเยี่ย หลานเฟิงลูบใบหน้าของหลานเยี่ย ผ่านไปนานก็ยังไม่ปล่อย
คอขอหลานเยี่ยขยับอย่างไม่รู้ตัว มองตาหลานเฟิง นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหอต้วนอวิ๋น ต่อให้สูญเสียความทรงจำ แต่ความรู้สึกที่มีต่อเจ้ายังคงเหมือนเดิม