Skip to content

ใต้ม่านรัตติกาล 196

บทที่ 196 โจมตีกลับอย่างถึงที่สุดแล้วเป็นอย่างไร

เวลามาถึงแล้ว หลานเยี่ยส่งสัญญาณออกไป มู่หลีนำทหารพลังของจิ่วหลิว หลานอวี่นำทหารพลังของราชสำนัก เจียงหลิงนำทหารพลังของซีเชวีย ออกโจมตีพร้อมกัน

การศึกดุเดือดอย่างมาก ทหารพลังตระกูลเยี่ยนอกจากจิ้งจอกราตรีแล้วมีไม่ถึงพอสองในสามของเวลาปกติ ในตอนนี้ยังโจมตีจากสามทางพร้อมกัน ไม่มีกำลังจะสู้กลับได้

หลานเยี่ยมองสถานการณ์เบื้องหน้า ไร้ซึ่งคลื่นใหญ่ทางอารมณ์ใดๆ นี่เกรงว่าคงเป็นศึกสุดท้ายแล้ว พลางคิดถึงคำพูดของผู้เฒ่าคนนั้นที่บอกว่าเคราะห์กรรมด่านสุดท้าย ไม่รู้ว่าจะเป็นอะไร ในใจของหลานเยี่ยรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

ความรู้สึกถูกส่งถ่ายไปยังหลานเฟิง หลานเฟิงจับมือของเขาเอาไว้แน่น หลานเยี่ยยิ้มออกมา เขาลืมไปเลยว่ามุกหลิววั่งกลับมาเชื่อมต่อกันอีกครั้ง ความเป็นความตายของเขาและหลานเฟิงเชื่อมต่อกันอีกครั้ง

ทางด้านตระกูลเยี่ยส่งพลทหารธรรมดาอยู่ข้างหน้า ทหารพลังอยู่ตรงกลาง จิ้งจอกราตรีอยู่สุดท้าย พลทหารธรรมดาปกติแล้วจะไม่ได้เข้าสนามรบ ขึ้นมาก็เพียงสละชีวิตไปโดยเสียเปล่าเท่านั้นเอง ดูท่าตระกูลเยี่ยไม่สนใจความเป็นความตายของทุกคนแล้ว

การโจมตีครั้งแรกเริ่มต้น ด้านหน้ามีคนปะทะกัน พลทหารตระกูลเยี่ยล้วนไร้ค่าสละชีวิตไปเปล่าๆ เท่านั้นตามที่คิดไว้ เวลายังไม่ทันผ่านไปนานเท่าไร พลทหารตระกูลเยี่ยทั้งหมดล้วนล้มลงไป การศึกครั้งนี้ที่จริงแล้วสิ่งที่หลานเยี่ยต้องการก็คือกำจัดสลายกำลังทหารตระกูลเยี่ยทั้งหมด เรื่องทั้งหมดควรจะจบลงไปได้แล้ว

รอจนโจมตีครั้งที่สอง ราชสำนักและซีเชวียก็สูญเสียคนไปจำนวนหนึ่ง แต่ทหารพลังตระกูลเยี่ยยังคงถูกกำจัดไปทั้งหมด

บนพื้นมีคนตระกูลเยี่ยเป็นจำนวนมาก ที่ตายไปแล้ว ยังไม่ตายก็ลุกไม่ขึ้น จะตายมิตายแหล่ หลายกลุ่มติดต่อกันไป ทหารพลังทั้งหมดในตอนนี้ล้วนพุ่งขึ้นมรับมือกับกลุ่มจิ้งจอกราตรีที่อยู่ท้ายสุด

สำหรับคนที่ต้องใช้สิบคนในการรับมือคนผู้หนึ่ง จริงๆ แล้วก็ไม่มีวิธีอะไรดีๆ ทำได้เพียงใช้คนจำนวนมากเอาชนะเท่านั้น จำนวนจิ้งจอกราตรีในตอนนี้มีเพียงหนึ่งในร้อยของฝ่ายศัตรูเท่านั้น และด้านหลังจิ้งจอกราตรีที่ยืนอยู่คือชิวฉือ

ตอนที่กำลังจะเริ่มโจมตีนั่นเอง พลทหารธรรมดาที่ล้มนอนอยู่บนพื้นจู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาอย่างกะทันหัน อีกทั้งยังมีพลังวิญญาณ แม้จะไม่มาก แต่ก็สามารถกลายเป็นอาวุธได้

“ตระกูลเยี่ยให้พลทหารเหล่านี้กินยา บังคับให้พวกเขามีพลังวิญญาณ” หลานเยี่ยพูดทอดถอนใจ

“แต่ไม่มั่นคง คนที่ไม่เคยผ่านการฝึกฝนมาก่อนไม่มีทางบังคับให้ดีได้” หลานเฟิงรับพูดต่อ

มองดูทหารพลังของราชสำนัก ซีเชวียและจิ่วหลิวที่ตอนนี้ถูกบีบโจมตีทั้งหน้าและหลัง หลานเยี่ยกลับไม่สนใจแม้แต่น้อย สถานการณ์เช่นนี้เขาคำนึงถึงมานานแล้ว

จิ้งจอกราตรีเริ่มโจมตีกลับอย่างถึงที่สุด หลังจากกินยาที่ทำให้พลังวิญญาณเพิ่มขึ้นจนระเบิดแล้วนั้น ในช่วงเวลาที่ยาเริ่มออกฤทธิ์ก็โจมตีศัตรูที่อยู่ข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง

ทหารพลังสามฝ่ายล้มลงไปเป็นแถบ สถานการณ์แม้จะเสียเปรียบอยู่เล็กน้อย แต่ยังคงแสดงสถานการณ์ล้มลงไปแทบหนึ่งให้เห็นอยู่

ผ่านไปนานจำนวนจิ้งจอกราตรีก็เหลือน้อยลงมากแล้ว พลทหารที่มีพลังวิญญาณเหล่านั้นก็แทบจะไม่เหลือ ต่อให้พวกเขาไม่ถูกฆ่าตาย เมื่อกินยาเข้าไปแล้วก็ห่างจากความตายไม่มากเท่าไรนัก

สีท้องฟ้าเริ่มมืดลง แสงอาทิตย์ยามใกล้ตกดินเป็นสีแดงเลือด ดวงตาของคนก็เป็นสีแดงเลือดเช่นเดียวกัน การศึกนั้นส่งผลกระทบไปถึงประชาชนคนธรรมดามากกว่าทหารพลังอยู่เยอะ

การโจมตีอย่างถึงที่สุดของจิ้งจอกราตรีนั้นล้มเหลว ทั้งสนามรบเหลือเพียงชิวฉือคนเดียวเท่านั้น ชิวฉือค่อยๆ ชักกระบี่ออกมา ชี้ไปยังศัตรูที่อยู่ตรงหน้า

“ยอมแพ้เถิด เจ้าไม่มีโอกาสแล้ว” หลานเยี่ยเอ่ยปาก

“ข้าจะตาย ก็ต้องตายบนสนามรบ ท่านประมุขมอบตระกูลเยี่ยให้ข้า ข้าไม่อาจทำให้ตระกูลเยี่ยสลายลงไปบนมือข้า” ชิวฉือพูดออกมาอย่างเต็มไปด้วยคุณธรรม

“ประมุขของพวกเจ้าไม่ต้องการตระกูลเยี่ยแล้ว เจ้ายังจะมายืนหยัดอยู่ที่นี่เพราะเหตุใด เจ้าคิดว่าหลังจากเจ้าสู้ตายไปแล้วประชาชนตระกูลเยี่ยจะจำชื่อเจ้าได้หรืออย่างไร

อย่ามาล้อเล่นเลย ขอแค่แพ้การศึก ไม่ว่าเจ้าจะเป็นหรือตาย ปากของประชาชนที่พูดถึงเจ้าล้วนดูถูกทั้งสิ้น เจ้ามีชีวิตอยู่ เจ้าแสดงความพยายามและเสียสละอย่างมาก อย่างไรก็ยังคงกลายเป็นนักโทษในสายตาของประชาชน จะเป็นหรือตายก็เหมือนกัน เหตุใดถึงไม่ตรงไปตรงมาเสียหน่อยเล่า”

มือของชิวฉือที่ถือกระบี่สั่นเล็กน้อย หลานเยี่ยพูดไม่ผิด ไม่ว่าอย่างไรขอแค่สู้ศึกแพ้ก็คือนักโทษทั้งสิ้น

ชิวฉือหัวเราะเสียงดัง ชักกระบี่ฆ่าตัวตาย

หลานเยี่ยมองร่างของเขา ถอนหายใจออกมา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!