บทที่ 201 มุกหลิววั่งที่แตกสลาย
“ฉะนั้นจะบอกว่าเจ้าคือใครหรือ” เจียงหลิงมองชังหลานครู่หนึ่ง พูดประโยคที่ทำให้ชังหลานเจ็บปวดออกมา
แต่ก็ไม่อาจโทษเขาได้ นอกจากประมุขตระกูลและจื๋อซือทั้งสาม ในใจของคนที่เหลือชังหลานเป็นสัญลักษณ์ของจิ้งจอกเก้าหาง ชังหลานกลับไม่ได้ด่าเขาจนเจ็บปวดไปยกหนึ่ง ขับเคลื่อนพลังวิญญาณออกมา หางทั้งเก้าส่ายสะบัดอยู่หลังกาย ทำให้เจียงหลิงตกใจจนทรุดคุกเข่าลงไป
“ข้าน้อยตาไม่มีแวว ไม่เคยพบท่านผู้เป็นใหญ่ มองท่านผู้คุ้มกันตระกูลหลานไม่ออก ขอให้ท่านลงโทษด้วยเถิด”
“ลุกขึ้นเถิด เรื่องนี้ก็โทษเจ้าไม่ได้ อย่างไรในสายตาของคนบนโลกนี้ข้าก็ยังต้องรักษาภาพลักษณ์เย็นชาอยู่”
“…”
“เจ้าไม่เชื่ออย่างนั้นหรือ อีกครู่รอหลานเฟิงหลานเยี่ยออกมาจัดการเจ้า เจ้าก็จะเชื่อเอง”
พูดจบชังหลานและชิวจือเว่ยทั้งสองคนก็เดินจากไป เหลือเพียงเจียงหลิงที่ยืนสภาพดูไม่ได้อยู่กลางลม
เมื่อมาถึงในห้องพวกอวี่มั่วกำลังนั่งดื่มชาอยู่หน้าโต๊ะอย่างสงบนิ่ง
“… ชาดี…” หลังจากอวี่มั่วดื่มลงไปอึกหนึ่งก็แสดงความชื่นชมของตนออกมา
“ชาดีอะไรของเจ้า รีบออกไปให้หมด” ชังหลานเข้ามาจัดการเขกศีรษะอวี่มั่วเข้าไปอย่างจังทีหนึ่ง
“ยังไม่ทันดื่มชานี่หมดเลย!” อวี่มั่วกุมศีรษะตะโกนร้องออกมา
“รออีกครู่ให้หลานเยี่ยตื่นขึ้นมาชงชาให้เจ้าด้วยตนเอง ออกไป”
พูดจบอวี่มั่วก็เดินตามพวกหลานเม่ยออกไปช้าๆ ก่อนที่จะออกไปนั้นก็ปิดประตูให้ คิดจะแอบดูอยู่หน้าประตู แต่กลับถูกเขตม่านพลังเขตหนึ่งกั้นเอาไว้
ภายในห้องคนสามคนยืนอยู่ สี่คนนอนอยู่ เป็นภาพที่ไม่น่ามองเท่าไรนัก พวกเขาทั้งสามคนยืนอยู่ข้างๆ รู้สึกเหมือนจะลงมือทำอะไรสักอย่าง ความรู้สึกเหมือนเป็นหมูบนเขียงอย่างไรอย่างนั้น
ชิวจือเว่ยและหลานเซียวลงมือ นำเอามุกหลิววั่งออกมาจากหน้าอกของหลานเยี่ยและหลานเฟิง มุกหลิววั่งในตอนนี้มีเพียงพลังวิญญาณบริสุทธิ์แต่เดิมเท่านั้น แสงประกายที่พาดผ่านของเจ้านายนั้นไม่มีให้เห็นแล้ว
ชิวจือเว่ยและหลานเซียวเป็นนายเดิมของมุกหลิววั่ง และเป็นคนที่สามารถควบคุมมุกหลิววั่งได้อย่างแท้จริง ตอนนี้เมื่อขับมุกหลิววั่งออกมา ไม่มีความสัมพันธ์กับหลานเยี่ยและหลานเฟิงยิ่งทำให้ชำนาญคล่องแคล่วกว่าเดิม
มุกหลิววั่งเป็นภาชนะชิ้นหนึ่ง ภายในอาจจะเป็นวิญญาณ หรืออาจเป็นพลังวิญญาณ แต่ในปัจจุบันนี้ไม่มีวิญญาณอีกแล้ว เหลือเพียงพลังวิญญาณ
ชิวจือเว่ยและหลานเซียวยกมือยกขึ้นชี้นำทางให้มุกหลิววั่ง มุกหลิววั่งค่อยๆ ขยายโตขึ้น ผ่านไปไม่นาน ช่องว่างขนาดเล็กช่องหนึ่งค่อยๆ เปิดออก ภายในมีพลังวิญญาณสีฟ้าและสีม่วงสองชนิดไหลออกมา อีกทั้งยังสว่างเป็นอย่างมาก
แต่เดิมที่อยู่ในร่างกายของหลานเยี่ยและหลานเฟิงมีประโยชน์เพียงช่วยเหลือเท่านั้น พลังวิญญาณเป็นรูปแบบไหลเวียน ไม่ได้ถูกใช้จนหมดในความเป็นจริง และในวันนี้สิ่งที่ต้องทำคือใช้พวกมันให้หมดเพื่อช่วยพวกเขาทั้งสอง
พลังวิญญาณสองสายค่อยๆ ไหลเวียน ทางฝั่งพวกชิวจือเว่ยทั้งสองคนชักนำพลังไปยังร่างมู่หลีและชิวลั่ว บนร่างของชิวลั่วเต็มไปด้วยพลังวิญญาณสีฟ้า บนร่างมู่หลีก็เต็มไปด้วยพลังวิญญาณสีม่วง
วิชาลับที่ถูกทำลายลงไปเมื่อพันปีก่อนที่จริงแล้วยังมีวิธีการใช้อีกวิธีหนึ่ง ใช้พลังวิญญาณของคนต่างตระกูลมอบให้กับอีกคนหนึ่ง หลังจากที่พลังวิญญาณถึงระดับที่กำหนดแล้วก็จะก่อให้เกิดการแปลงสภาพที่ระดับหนึ่ง
พลังวิญญาณที่แปลงสภาพจะทำการไหลย้อนกลับของชีวิตต่อมนุษย์ ชิวจือเว่ยในตอนนั้นเพราะเพิ่มพลังวิญญาณของคนที่สามเข้าไป ฉะนั้นถึงได้ทำให้การไหลย้อนล้มเหลว ไม่ใช่เพราะปัญหาจากยา
พลังวิญญาณค่อยๆ เปลี่ยนสี สุดท้ายแล้วก็กลายเป็นสีที่คาดคิดไม่ถึงอย่างสีขาว ร่างกายของชิวลั่วและมู่หลีเกิดการเปลี่ยนแปลง บาดแผลทั้งหมดสมานตัวกัน ไม่นานพลังวิญญาณทั้งหมดในมุกหลิววั่งก็ถูกใช้จนหมด เสียงดัง ปัง เกิดขึ้น มุกหลิววั่งสลายกลายเป็นผุยผงในเสี้ยววินาที
เมื่อมองดูร่างกายของมู่หลีและชิวลั่ว หน้าตาเช่นนี้น่าจะอายุเพียงสิบแปดสิบเก้าปีเท่านั้น อายุน้อยกว่าในชีวิตจริงกว่าห้าปี