Skip to content

พลิกปฐพี 114-5

ตอนที่ 114-5

คนจับผิดมาแล้ว!

“สุ่ยหลิงอย่า!” ฟู่เทียนหลงตกใจจนใบหน้าซีดเผือด พร้อมทั้งยื่นมือออกไปแย่งแก้วในมือของสุ่ยหลิงทันที พลันเงยหน้าขึ้นแล้วเทใส่ปากตนเอง

ห้องส่วนตัวเงียบลงในทันที

พี่น้องตระกูลเว่ยมองเขาด้วยความโกรธจนไม่อาจจะเก็บอาการได้ แม้กระทั่งสุ่ยหลิงเองก็ตกใจจนเอามือปิดปาก

ฟู่เทียนหลงค่อยๆ ก้มหน้าลง เขาเห็นทุกปฏิกิริยาของทุกคน แม้ว่าเขาจะโง่เขลาสักเพียงใด ก็ต้องสังเกตถึงความผิดปกติของสายตาเหล่านั้น โดยเฉพาะรอยยิ้มที่แฝงความคลุมเครือของมู่ชิงเกอ การวางท่าของชายหนุ่มผู้งดงามนั้น ทันใดนั้น เขาได้ยินเสียง ‘ปัง’ ดังขึ้นในหัว

ทุกอย่างที่คิดเอาไว้ใด้พังทลายลง

ในจิตใต้สำนึกมีเสียงหนึ่งกำลังบอกเขาวนไปมาไม่หยุดว่า

‘เขารู้แล้ว! เขารู้แล้ว!’

“ฟู่เทียนหล ! ข้าคิดว่าทุกคนเข้าใจเจ้าผิด แต่ไม่คิดว่าเจ้าจะเป็นคนที่เลวทรามได้เพียงนี้!” สุ่ยหลิงเป็นคนแรก ชี้หน้าด่าฟู่เทียนหลงอย่างเหลือทน

การกระทำของฟู่เทียนหลงทำให้นางผิดหวังเป็นอย่างมาก ในขณะที่นางกำลังต่อว่า ดวงตาของนางก็ค่อยๆ แดงกํ่าขึ้นเรื่อยๆ

“ฟู่เทียนหลง มู่เกอไปทำสิ่งใดให้เจ้าแค้นเคือง เจ้าถึงต้องทำร้ายเขาเช่นนี้” เว่ยกว่านกว่านเองก็ลุกขึ้น พลันขมวดปมคิ้วแน่น

“ข้า….ข้า…” ฟู่เทียนหลงพูดอะไรไม่ออก ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด แต่ทว่า ทันทีที่เขาเห็นท่าทางอันเย็นชาของมู่ชิงเกอ เปลวเพลิงแห่งโทสะก็ได้ปะทุขึ้นอีกครั้ง พร้อมพูดว่า “ใช่! ข้าไม่ชอบเจ้าหน้าขาวนี่! คิดว่ารูปงามก็จะสามารถหว่านเสน่ห์ใส่คู่หมายของใครก็ได้อย่างนั้นหรือ” ตะโกนความในใจออกมาและพูดกับสุ่ยหลิงจากใจจริงว่า “ตอนแรกเรายังดีๆ กันอยู่ เหตุใดเมื่อมาพบกับเจ้าหน้าขาวนี่ เจ้าจึงแปรเปลี่ยนไป เจ้าลืมการหมั้นหมายของเราไปแล้วรึ”

“เจ้า! ข้ารับปากจะจะแต่งงานกับเจ้าเมื่อไหร่กัน” สุ่ยหลิงโกรธจนสับเท้า

“พอเถอะ หากจะโทษเขา ถามเขาก่อนดีกว่าไหมว่าเอายานี้มาจากไหน” อยู่ๆ มู่ชิงเกอก็เอ่ยขึ้นมา ขัดจังหวะการถกเถียง

ภายในห้องเงียบลงในทันที พี่น้องตระกูลเว่ยและสุ่ยหลิง ต่างหันไปมองฟู่เทียนหลง

ฟู่เทียนหลงกลับมองมู่ชิงเกอแล้วพยายามหลบสายตา พลางพูดว่า “เจ้ารู้ได้อย่างไร”

มู่ชิงเกอกระตุกมุมปากเล็กน้อย พลันพลิกนิ้วเข้ามาชี้ที่ปลายจมูกของตนเอง “อย่าลืมว่าข้ามาทำอะไรเมืองซางจื่อเจ้าเทผงยาลงในแก้วเหล้าแค่นี้จะรอดพ้นจากจมูกของข้าได้หรือ”

ฟู่เทียนหลงเม้มปากแน่น ไม่ส่งเสียงใดใด

เว่ยกว่านกว่านพูดด้วยความโกรธว่า “เสียแรงที่สุ่ยหลิง อุตส่าห์แก้ตัวให้เจ้า ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกระทำเรื่องเช่นนี้ได้ลงคอ เหล้าผสมยาพิษแก้วนั้นของเจ้าได้ถูกเราเทไว้ในนี้แล้ว” ในขณะที่พูดนางก็พลางชี้ไปที่กระถางต้นไม้

แห้งเหี่ยวกระถางหนึ่ง

“เป็นไปได้อย่างไร! เขาบอกว่าไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตมิใช่หรือ!” เมื่อเห็นสภาพของต้นไม้ในกระถาง ฟู่เทียนหลงก็ลืมตาโตอย่างตะลึง

“แน่นอนว่าไม่ แต่จะทำให้คนเสียสติและทำเรื่องผิดศีลธรรม ในขณะเดียวกันก็เป็นอันตรายต่ออวัยวะภายใน” มู่ชิงเกออธิบายอย่างแนบนิ่ง

การทำให้มู่ชิงเกอขายหน้าคือจุดประสงค์ของเขา แต่การจะทำให้อีกฝ่ายต้องเจ็บตัว ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ

“ฟู่เทียนหลง เจ้ายังไม่ยอมพูดอีกหรือว่าเอาผงยานี้มาจากไหน” เว่ยฉีพูดอย่างใจร้อน เขาอยู่ร่วมห้องกับฟู่เทียนหลงมานานหลายวัน สำหรับนิสัยอันตรงไปตรงมา ของคนผู้นี้เขายังพอรู้จักอยู่บ้าง

“เขา….เขาอยู่ห้องข้างๆ” ฟู่เทียนหลงพูดตะกุกตะกัก

ทันทีที่ได้ยินเช่นนี้ เว่ยฉีก็พุ่งตัวออกจากห้องไปยังห้องข้างๆ ที่ฟู่เทียนหลงพูดถึง

เว่ยกว่านกว่านรีบตามออกไป แต่ทว่า นางเพิ่งจะเดินมาหยุดตรงบริเวณประตู ก็เห็นเว่ยฉีเดินกสับมาด้วยท่าทางผิดหวัง “แขกในห้องนั้น เสี่ยวเอ้อร์บอกว่าออกไปนานแล้ว”

ฟู่เทียนหลงตกใจ ยืนอึ้งอยู่กับที่

“เจ้าโง่ รู้ตัวหรือยังว่าถูกหลอกเสียแล้ว!” ท่าทางซื่อๆ ของเขาในตอนนี้ ทำให้เปลวเพลิงแห่งโทสะในตัวของสุ่ยหลิงกำลังจะปะทุออกมา

“เขาบอกหรือไม่ว่าเขาเป็นใคร” มู่ชิงเกอค่อยๆ เบิกตา ขึ้นแล้วถาม

ฟู่เทียนหลงขยับหน้าหลายที ราวกับกำลังลังเล

“รีบตอบสิ!” สุ่ยหลิงเร่งอย่างเป็นทุกข์ ราวกับว่านางเป็นห่วงว่าหากฟู่เทียนหลงยังคงยืนทื่ออยู่เช่นนี้ แล้วจะทำให้ทุกคนไม่พอใจ

มู่ชิงเกอค่อยๆ กวาดสายตามองนาง แต่ท้ายสุดแล้วกลับหยุดสายตาที่ฟู่เทียนหลง

เพราะการเร่งจากสุ่ยหลิง ฟู่เทียนหลงจึงพูดว่า “เขาเป็นเชื้อพระวงศ์แคว้นลี่ แต่มิได้บอกละเอียดอันใดมาก ข้าเองก็ไม่อยากจะถาม”

“เชื้อพระวงศ์แคว้นลี่อย่างนั้นหรือ!” พี่น้องตระกูลเว่ยอึ้ง

พลันมองหน้ากันในทันที

ทันใดนั้น เว่ยกว่านกว่านก็กระจ่าง พลันลุกขึ้นตบโต๊ะ “ถ้าเช่นนั้น ต้องเป็นเจ้าองค์ชายสามหน้าไม่อายนั้น! ครั้งที่แล้วโกหกว่ายาของมู่เกอเป็นของตนเองอย่างหน้าด้านๆ ถูกเปิดโปงเช่นนั้นคงอยากจะแก้แค้นมู่เกอไม่น้อย”

“อะไรนะ เขาบอกว่าคนแช่มู่แย่งท่านไปจากเขามิใช่หรือ เขายังบอกอีกว่า ท่านและเขาเป็นคู่หมายกัน แต่กลับถูกคนแซ่มู่ทำเสียเรื่อง เขาโกรธมากจึงอยากจะทำให้คนแซ่มู่ขายหน้า” ฟู่เทียนหลงพูดเสียงหลง

แก้มทั้งสองของเว่ยกว่านกว่านแดงกํ่าขึ้นมา พูดด้วยนํ้าเสียงที่แฝงทั้งโทสะและอับอายว่า “เจ้าพูดเรื่องอะไรกัน! ข้าไม่มีวันชอบไอ้องค์ชายสามเฮงซวยนั่นหรอก! หึ!” พูดจบ นางก็แอบมองมู่ชิงเกอแวบหนึ่ง

น่าเสียดาย ที่มู่ชิงเกอไม่ได้เห็นนางอยู่ในสายตา แต่กำลังคิดถึงคำพูดของฟู่เทียนหลง ข้างกาย มีซือมั่วที่แววตาแฝงความคลุมเครือนั่งอยู่ ดวงตาที่น่าเย้ายวนของเขา สาดฉายความเย็นเยียบ ไอสังหารอันเยือกเย็นนั้น หากเขาไม่ควบคุมเอาไว้ดีๆ อาจ จะทำให้ทั้งโรงเตี๊ยมกลายเป็นนํ้าแข็งได้

‘มีคนกล้าทำเช่นนี้กับเสี่ยวเกอเอ๋อร์ของเขาหรือ’

“แค่กๆ” อยู่ๆ มู่ชิงเกอก็กระแอมไอเบาๆ ซือมั่วค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองนาง

“ไปเถิด” มู่ชิงเกอพูดอย่างเรียบเฉย พลันลุกขึ้นและเดินออกไป

เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ทุกคนคงไม่มีอารมณ์จะทานอาหารแล้ว

ซือมั่วยืนขึ้นมา เงาร่างอันสูงโปร่งบดบังร่างของมู่ชิงเกอสนิท ราวกับได้ปกป้องนางเอาไว้อย่างดีในโลกที่เขาสร้างขึ้น

“มู่เกอ เราไปแก้แค้นไอ้องค์ชายสารเลวนั่นกันเถิด” เว่ยกว่านกว่านพูด

เว่ยฉีเองก็พยักหน้าเห็นด้วย

มู่ชิงเกอผุดรอยยิ้มอันเย็นเยียบ “ไม่ต้องรีบ สักวันเขาจะแล่นเข้ามาหาเราเอง กลับไปพักผ่อนก่อนเถิด!”

การที่ฟ่งอวี๋กุยปรากฏตัวที่ เมืองซางจื่อ แคว้นอวี๋นี้มีเพียงเหตุผลเดียว นั้นก็คือจะเข้าสมัครที่โรงโอสถ ต่อไปโอกาสที่จะได้พบกันก็ใช่ว่าจะน้อย ตื๊อนางเช่นนี้ คิดว่านางเป็นคนนิสัยดีมากหรือไร

ในสายตาของมู่ชิงเกอฉายความเย็นเยียบ รอยยิ้มตรงมุมปากชัดเจนเป็นที่สุด

มายังที่นัดพบกับโย่วเหอ แม่นางผู้นี้ถือว่าไม่ธรรมดา แม้จะหาโรงเตื๊ยมไม่ได้ แต่ก็ได้เหมาเรือนเล็ก ๆ เอาไว้เรือนหนึ่ง

ห้องที่อยู่ภายใน ไม่มากและไม่น้อย มีทั้งหมดสามห้อง นอกจากห้องของมู่ชิงเกอและซือมั่วแล้วยังเหลืออีกห้องหนึ่ง จึงเป็นห้องของนางและฮวาเยวี่ย

เมื่อสังเกตรอบ ๆ เรือนครู่หนึ่ง มู่ชิงเกอจึงพูดกับฮวาเยวี่ยว่า “ที่นี่ดูไม่เลว อะไรที่ควรซื้อก็ซื้อไว้เสีย พวกเจ้าจะได้เอาไว้ใช้ ที่โรงโอสถไม่สามารถพาคนใช้เข้าไปได้ พวกเจ้าพักอยู่ที่นี่ จะได้ติดต่อกับพวกของมั่วหยางได้สะดวก”

โย่วเหอพยักหน้ารับ และถอยออกไปพร้อมกับฮวาเยวี่ย

ภายในเรือน มู่ชิงเกอและซือมั่วยืนหันหน้าเข้าหากัน นางมองชายหนุ่มที่ ‘ไม่มีสิ่งใดที่ไม่รู้’ ด้วยสายตาอันเคร่งขรึมพร้อมพูดว่า “เหตุใดสุ่ยหลิงจึงได้รู้ว่าข้าปลอมตัว และรู้ถึงเพศของข้าตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!