Skip to content

พลิกปฐพี 130-4

ตอนที่ 130-4

ของพวกนี้คือสมบัติอันล้ำค่าในการหลอมอาวุธ

ในวินาทีแห่งชีวิต แสงสีเงินที่มีสีนํ้าเงินจางๆ แฝงอยู่ มาบังอยู่ตรงหน้าซางจื่อซู ทำให้ธนูนํ้าแตกกระจาย วินาทีต่อมา ซางจื่อซูก็สัมผัสได้ว่าบริเวณเอวของตนเอง แน่นขึ้น เพราะถูกใครบางคนกอดเอาไว้ในอก หมุนคว้างอยู่กลางอากาศหลายรอบแล้วออกจากศูนย์กลางของอันตรายมาได้

ท่ามกลางความพร่ามัว นางจำได้เพียงแค่ใบหน้าอันงดงามและเย็นเยียบของมู่ชิงเกอ

มู่ชิงเกอเพิ่งจะวางตัวซางจื่อซูลงบนพื้น จ้าวหนานซิงและจูหลิงก็เข้ามาล้อมในทันที

“จื่อซู เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม!” จูหลิงดูอาการของ ซางจื่อซูอย่างละเอียดหนหนึ่งและพูดด้วยความกลัว ซางจื่อซูพยักหน้าเบาๆ ราวกับว่าเพิ่งหายจากความกลัว ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน นางหันมองมู่ชิงเกอและพูด อย่างแผ่วเบาว่า “ขอบคุณ”

มู่ชิงเกอกลับพยักหน้าช้าๆ และพูดกับจ้าวหนานซิงว่า “ตีงูต้องเล็งที่จุดอ่อน พวกท่านเข้าไปรบกวนมันต่อ ข้าจะอ้อมไปทำร้ายมันจากข้างหลัง!”

จ้าวหนานซิงพยักหน้าอย่างแรง “ได้”

เมื่อครู่นี้ มังกรวารีเกือบจะฆ่าซางจื่อซู ในตอนนี้ในสายตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยไอสังหาร

มู่ชิงเกอเข้าโจมตีมังกรวารีอีกหน จ้าวหนานซิงหันมองซางจื่อซูแวบหนึ่ง แล้วพูดกับจูหลิงว่า “เจ้าดูแลจื่อซูให้ดี หลบไปให้ไกล ตรงนี้ให้ผู้ชายจัดการ”

หากเป็นจูหลิงคนเดิม นางจะต้องปฏิเสธคำพูดของจ้าวหนานซิง แต่ทว่า ความอันตรายเมื่อครู่นี้ ทำให้นางไม่กล้าให้ซางจื่อซูไปเสี่ยงอันตรายอีก จึงพยักหน้าและลากซางจื่อซูถอยออกไป

ซางจื่อซูไม่ปฏิเสธ เพียงแค่พูดอย่างผิดหวังว่า “สุดท้ายข้าก็กลายเป็นภาระ”

จูหลิงพูดปลอบใจว่า “ไม่เป็นไร ครั้งนี้แม้จะเป็นภาระ แต่กลับไปเราก็พยายามให้มากกว่าเดิม วันหนึ่งเจ้าจะต้องกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนศิษย์น้องมู่!”

ซางจื่อซูพยักหน้าอย่างแน่วแน่ เม้มริมฝีปากแน่นและจ้องมองการต่อสู้อันดุเดือด

หญิงสาวทั้งสองถอยหลัง เหมยจื่อจ้งและจ้าวหนานซิงเริ่มโจมตีมังกรวารีจากทั้งซ้ายและขวา โดยมีเพียงจุดประสงค์เดียวคือการทำให้มังกรวารีเกิดความรำคาญ มู่ชิงเกอกลับโจมตีท่ามกลางการโจมตี ทวนหลิงหลงปาดผ่านลงบนเกล็ดของมังกรวารี ล้วนสร้างความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสให้กับมัน จนกระทั่งเกล็ดของมันหลุดและเผยให้เห็นเนื้อหนังด้านใน

มังกรวารีไม่คิดว่าคนพวกนี้จะจัดการยากถึงเพียงนี้ แค้นจนเงยหน้าขึ้นคำราม

ทันใดนั้น แสงสีม่วงแสงหนึ่งสาดฉายออกจากร่างกายของมัน ทำให้ต้นไม้และก้อนหินแตกกระจาย

เหมยจื่อจ้งและจ้าวหนานซิงถูกแสงสีม่วงโจมตี จนร่วงลงพื้นอีกหน ซางจื่อซูและจูหลิงรีบพุ่งเข้ามาพาทั้งสองไปยังที่ที่ปลอดภัย แล้วให้พวกเขากินยารักษาแผลเข้าไป

แต่ทว่า ยาเหล่านี้ เมื่อพบเจอกับการโจมตีของสายม่วงแล้ว ประสิทธิภาพในการรักษาก็พลันลดน้อยลง

เห็นว่าทั้งสองเริ่มหายใจติดขัด ในขณะที่ทั้งสองกำลังตกอยู่ท่ามกลางความตื่นตระหนก ขวดกระเบื้องเคลือบขวดหนึ่งก็ร่วงลงจากฟ้า และตามมาด้วยเสียงของมู่ชิงเกอ “ให้พวกเขากินยานี้”

ซางจื่อซูและจูหลิงไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย รีบรับขวดเคลือบมา แล้วจัดการเทยาด้านในออก แบ่งให้กับเหมยจื่อจ้งและจ้าวหนานซิง

ทวนหลิงหลงในมือของมู่ชิงเกอหมุนไม่หยุด เพื่อป้องกันการเข้าใกล้จากพลังของสายม่วง

มังกรวารีใช้โอกาสนี้ในการดึงหางกลับ และพันเข้าที่เอวของมู่ชิงเกอในทันที

ทันใดนั้น แรงกดทับบริเวณเอว ก็ทิ่มแทงจนทำให้เลือดในร่างกายของมู่ชิงเกอไหลทะลักออกมา พลังเวทก็ดูเหมือนจะหายไป

พยายามดูดกลืนเลือดที่ไหลออกมาจากปากแผลเข้าไป มู่ชิงเกอกลับชูทวนหลิงหลงขึ้นมาและปักลงบนหางยาว ที่กำลังพันเอวของตนเองไว้

ทันใดนั้น เกล็ดก็แตกกระจาย เลือดอันเย็นเยียบพุ่งทะลักออกมาจากปากแผล

“โฮก—!” มังกรวารีส่งเสียงร้องอันเจ็บปวด

ความเจ็บปวดเพราะหางขาด ทำให้มันจำต้องปล่อยมู่ชิงเกอ

บริเวณเอวรู้สึกคลายลง มู่ชิงเกอเกือบจะร่วงลงจากกลางอากาศ โชคดีที่ทวนหลิงหลงมีคุณสมบัติพิเศษ ในการควบคุมร่างที่ส่ายไปมาของนางเอาไว้

“เจ้ามดปลวก! ข้าจะทำให้ร่างของเจ้าแหลกละเอียด แล้วกินเจ้าซะ!” มังกรวารีระเบิดความโกรธแค้นทั้งหมดออกมา

สายตาของมู่ชิงเกอกลับนิ่งสงบ

มือทั้งคู่ของนางกำทวนหลิงหลงเอาไว้ ทักษะการใช้ทวนที่เคลื่อนไหวจนลายตา ทำให้ในตอนนี้มังกรวารีหาคู่ต่อสู้ไม่เจอ

มังกรวารียิงธนูน้ำเข้าหามู่ชิงเกอ แต่นางกลับหลบทัน

มังกรวารีมีความแค้นในใจและยิงธนูน้ำออกมาอย่างต่อเนื่อง เกล็ดบนร่างกายก็ตั้งชันขึ้น กลายเป็นมีดอันแหลมคม

ข้างหน้ามีธนูนํ้าคอยโจมตี ข้างหลังมีหางยาวคอยลอบทำร้าย มู่ชิงเกอถูกควบคุมเอาไว้ตรงกลาง ใช้เพียงแค่การเคลื่อนไหวของร่างกายในการหลบหลีก

ทวนหลิงหลงทำให้ธนูนํ้าแตกกระจาย ในการโจมตีทุกครั้ง ล้วนทำให้นางเจ็บปวดราวกับข้อมือปริแตกอย่างนั้น

สามารถจินตนาการได้ว่า หากในมือของนางไม่ใช่อาวุธ เทพ ก็คงจะไม่สามารถต้านทานต่อการโจมตีจากธนูนํ้าของมังกรวารีได้

“ฆ่า—! ฆ่า—! ฆ่า—!”

ยอดทวนหลิงหลงมีแสงสีนํ้าเงินประกายม่วงสาดออกมา และโจมตีร่างของมังกรวารีอย่างต่อเนื่อง การโจมตีอันโหดเหี้ยมทำลายเกราะป้องกันของมังกรวารี ทำให้เกล็ดอันแหลมคมของมังกรวารีแตกออก เลือดสาดกระจาย เผยให้เห็นโครงกระดูกสีขาวจางๆ

“กรร—!” มังกรวารีร้องคำรามและอ้าปากคายตาข่ายสีนํ้าเงินยักษ์ออกมา

แสงสีนํ้าเงินที่ราวกับยาพิษอันร้ายแรง หากเข้าใกล้แม้แต่น้อย ก็จะทำให้ร่างกายละลายเป็นกองเลือด!

ตาข่ายอันใหญ่พุ่งเข้ามา มู่ชิงเกอหรี่ตาทั้งสองข้างลงในทันที

อันตรายที่ไม่เคยประสบมาก่อนกำลังพุ่งเข้ามา ทำให้นางไม่สามารถหลบหลีกได้!

“พันสายฟ้า!”

ทวนหลิงหลงตั้งอยู่ตรงหน้ามู่ชิงเกอ มือทั้งคู่ของนางเคลื่อนไหวอย่างว่องไวเพื่อใช้ทักษะการต่อสู้

พันสายฟ้า ตอนที่นางใช้เมื่อคราก่อน ยังเป็นสายเขียว ในตอนนี้นางได้กลายเป็นสายน้ำเงินระดับสูง ทักษะการต่อสู้ก็เก่งกาจมากขึ้นจนน่ากลัว

ท้องฟ้าเหนือทะเลสาบเยวี่ยมืดครึ้ม เมฆดำจำนวนมากก่อตัวกันอย่างหนาแน่น

ท่ามกลางเมฆสีดำ มีแสงจากสายฟ้าเกิดขึ้น

เสียงสายฟ้าที่ซ่อนอยู่ ราวกับแฝงมาด้วยพลังการทำลายล้างของอสูรยักษ์ยุคบรรพกาลที่ค่อยๆ ฟื้นคืนจากการหลับใหล

ซางจื่อซูและจูหลิงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้วยความกลัว

บนใบหน้ามีความตื่นตระหนกซ่อนอยู่ เพราะกินยาลงไปแล้ว จ้าวหนานซิงและเหมยจื่อจ้งที่ ฟื้นขึ้นมาก็มองบนท้องฟ้า เงาร่างอันสูงโปร่งนั่น ทำให้ระยะห่างระหว่างพวกเขาห่างไกลออกไปมากกว่าเดิมอีกครั้ง

‘นางแข็งแกร่งมากถึงเพียงนี้’ เหมยจื่อจ้งมองเงาร่างของมู่ชิงเกอ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน

“กรร—!” ศีรษะใหญ่ของมังกรวารี พุ่งเข้ามาหามู่ชิงเกอ ราวกับว่า มันเตรียมพร้อมที่จะกลืนกินเจ้ามนุษย์น่ารังเกียจนี้ลงไปในทีเดียว

ปากอันกว้างใหญ่อยู่ตรงหน้า ทั้งสี่ที่อยู่บนพื้นดินตื่นตระหนกขึ้นมาในทันที

มู่ชิงเกอกลับมองเขี้ยวอันแหลมคมเต็มไปด้วยเลือดที่พุ่งเข้าหานางด้วยสีหน้าอันแนบนิ่ง

ทันใดนั้น เลือดในร่างกายของนางก็สูบฉีดอย่างรุนแรง ราวกับมีเสียงหนึ่งกำลังบอกว่า “นี่เป็นวัตุดิบที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการหลอมอาวุธ!”

นางยังไม่ทันคิดทบทวนคำพูดที่ปรากฏอย่างกะทันหัน การประสานนิ้วก็เร็วมากขึ้นกว่าเดิม

ลมพัดกระโชกแรง จนผมของนางยุ่งเหยิง

ในวินาทีนั้นเอง มีสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนฟาดลงจากฟากฟ้า แล้วพุ่งเข้าหามังกรวารี

เห็นว่าเหยื่ออยู่ข้างปากแล้ว แต่มังกรวารีกลับเงยหน้าขึ้นร้องด้วยความเจ็บปวด สายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนผ่าลงมา ทำให้ร่างใหญ่ของมังกรวารีสั่นไม่หยุด มู่ชิงเกอที่ยืนตระหง่านอยู่ท่ามกลางสายฟ้า ในส่วนลึก ของสายตาราวกับมีสายฟ้าสองสายซ่อนอยู่ ปานเทพสายฟ้ามาจุติ

แต่ว่า เหมยจื่อจ้งผู้ละเอียดรอบคอบกลับเห็นว่าใบหน้าของมู่ชิงเกอขาวซีดแปลกๆ

พลังจากสายฟ้า ควบคุมการเคลื่อนไหวของมังกรวารี มู่ชิงเกอใช้โอกาสนี้ กำทวนหลิงหลงเอาไว้แล้วพลันพลิกตัว ไปยืนอยู่บนหลังของมังกรวารี

นางชูทวนหลิงหลงขึ้นสูง ในสายตาปรากฏความโหดเหี้ยม

ตายซะ!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!