Skip to content

พลิกปฐพี 159-5

ตอนที่ 159-5

ท่านแม่! ลูกพี่? ลูกพี่ท่านแม่!

ภายในห้องศิลา แรงสั่นไหวค่อยๆ กลับไปสงบลง สายลมที่เหมือนกับพายุหมุนก็ค่อยๆ สลายหายไป

และในเวลาเดียวกันสิ่งที่หายไปก็ยังมีเงาร่างของมู่ชิงเกอ

“นี่มันคือสถานที่แห่งใดกัน?” มู่ชิงเกอยื่นมือออกไปกุมขมับที่ตอนนี้รู้สึกปวดตุบๆ ขึ้นมา ก่อนจะชันกายขึ้นบนฟื้น ทำไมถึงมาที่นี่ได้นางนั้นไม่รู้ที่นี่ก็ไม่ได้อยู่ในขอบเขตของห้องศิลาที่ต้องใช้วิธีพิสดารกระตุ้นการทำงาน แต่เป็นถํ้าว่างเปล่าแห่งหนึ่ง ตัวถํ้านั้นกว้างมาก สูงมาก ลึกมาก ไม่ว่าตรงจุดไหนก็ห้อยย้อยไปด้วยแท่งนํ้าแข็งที่เปล่งแสงสีนํ้าเงินอยู่รางๆ

เหมือนกับโลกแห่งนํ้าแข็ง แท่งนํ้าแข็งพวกนั้นถึงขนาดสามารถสะท้อนเงาร่างของมู่ชิงเกอ เหมือนกับกระจกก็ไม่ปาน

มู่ชิงเกอยืนอยู่ที่เดิม กวาดมองรอบด้านไปรอบหนึ่ง ด้านในก็เต็มไปด้วยทางแยกดูสลับซับซ้อนมากมาย ทำให้ตัดสินใจไม่ถูกว่าต้องเดินไปทางไหน

“เจ้านาย รีบเอาไข่นั่นออกมาเร็วเข้า! มันเกิดคลั่งขึ้นมาแล้ว!” อยู่ๆ เสียงเร่งร้อนของเหมิงเหมิงก็ดังขึ้นมา

มู่ชิงเกอไม่ทันได้คิดอันใด จิตส่งตรงเข้าไป ไข่ยักษ์นุ่มนิ่มสีราบเรียบไร้ประกายใบหนึ่งก็พลันปรากฏขึ้นตรงหน้านาง

ในที่สุดก็ถูกปล่อยออกมา ไข่ยักษ์นั่นก็อดไม่ได้ที่จะเด้งไปเด้งมา ขยับตัวเองไปทางเส้นทางทิศทางหนึ่ง มู่ชิงเกอกะพริบตาพริบๆ ก่อนจะเร่งรีบตามติดไป นางก็ยังไม่สามารถพลัดหลงจากพญาเพลิงฮุ้นหยวน โดยที่ยังไม่สามารถหาพญาเพลิงไป๋กู่พบได้ ด้านในถํ้านํ้าแข็ง ไข่ใบหนึ่งกำลังพยายามกระเด้งกระดอนไปทางส่วนลึกของตัวถํ้า และที่หลังของไข่ใบนั้นก็ตามอยู่ด้วยชายหนุ่มในชุดสีแดงสดผู้หนึ่ง ตามไข่ใบนั้นวิ่งมาได้สักพักหนึ่ง มู่ชิงเกออยู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่าฉากภาพตรงหน้ากลายเป็นขยายกว้างขึ้น นางชะงักไปเล็กน้อย หลังจากมองเห็นภาพตรงหน้าได้ชัดตาแล้ว ในแววตากระจ่างที่กำลังสะท้อนสิ่งที่เห็น ก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง!

ถํ้าแห่งนี้พอเปรียบกับตัวถํ้าด้านนอกก็ถือว่ากว้างใหญ่กว่ามาก! ด้านในไม่ว่าตรงจุดไหนก็เต็มไปด้วยแท่งนํ้าแข็งอันแหลมคม งอกยาวขึ้นซ้อนกันไปมา และตรง กลางที่เหล่าแท่งนํ้าแข็งทำการปกป้องอยู่ก็เป็นเปลวเพลิงสีขาวอมฟ้าสายหนึ่ง กำลังเปล่งแสงออกมาอย่างบางเบา

ภายใต้เปลวเพลิงที่กำลังลุกโชนอย่างอ่อนแรงนั้นก็ราวกับมีบุปผาเหมันต์ขนาดยักษ์ดอกหนึ่งก็แผ่ขยายออกไปปกคลุมทั่วทั้งพื้นถํ้า

‘พญาเพลิงปีศาจไป๋กู่ตนนี้ก็ดูอ่อนล้ายิ่งนัก! แม้แต่กายจำแลงก็ยังไม่สามารถคงเดิมเอาไว้ได้ ต่อให้พวกเราไม่มาในตอนนี้ คาดว่าในไม่กี่ร้อยปีข้างหน้า มันก็คงจะอ่อนแอจนดับสูญไปเอง หลังจากนั้นก็ไปจุติใหม่ยังที่ไหนสักแห่ง เริ่มต้นชีวิตใหม่’ เหมิงเหมิงกล่าวอย่างทอดถอนใจ

และตอนนั้นเอง ไข่ตรงหน้าก็ได้ทำลายแท่งนํ้าแข็งเข้าไปแล้วส่วนหนึ่ง เหมือนกับเด็กที่กำลังหิวโหยพุ่งไปยังพญาเพลิงปีศาจไป๋กู่ที่อยู่ตรงกลาง

แท่งนํ้าแข็งที่นิ่งสงบนั้นก็เหมือนกับจะถูกการบุกรุกของมันทำให้เกรี้ยวกราดขึ้นมา เริ่มทำการหันแท่งนํ้าแข็ง แทงไปทางมันบ้างแล้ว

มู่ชิงเกอแววตาทั้งสองข้างหดเล็กลง เตรียมจะออกไปช่วยเหลือแต่ก็พลันเห็นไข่ตรงหน้าเบี่ยงหลบออกไปได้ ถึงขั้นบางครั้งยังใช้ตัวป้อมๆ ของมันชนกระแทกแท่งนํ้าแข็งจนกระเด็นออกไปอย่างถือดี

มู่ชิงเกอมองดูจนดวงตาเบิกกว้าง แววตาที่จ้องมองไปทางไข่ ใบหน้าก็เต็มไปด้วยเปลวไฟอันเร่าร้อน

“เจ้านาย การต่อสู้กันระหว่างพญาเพลิง คนนอกก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเจ้าไข่นี่ต้องการจะกลืนกินพญาเพลิงปีศาจไป๋กู่ พวกเราออกไปรอมันก่อนเถิด ไม่เช่นนั้นพอถึงเวลาที่การโจมตีรุนแรงขึ้นแล้ว ทำการกลบฝังท่านไปด้วยจะทำเช่นไร?” เหมิงเหมิงกล่าวแนะนำขึ้น

แต่มู่ชิงเกอกลับส่ายหน้าตอบ “ถ้าหากหลังจากพญาเพลิงฮุ้นหยวนกลืนกินพญาเพลิงไป๋กู่ไปแล้ว แล้วหนีไปจะทำอย่างไรเล่า? ข้าก็จะต้องดูอยู่ที่นี่!”

ยังไม่ทันรอให้นางกล่าวจบ ตรงหน้าก็พลันสว่างจ้าขึ้นมา มู่ชิงเกอเร่งรีบเอียงหน้าหลบแสงอันเจิดจ้าตรงหน้า พร้อมกับยกแขนขึ้นมาบดบังสายตาเอาไว้

“เกิดอะไรขึ้น?” มู่ชิงเกอกล่าวถามขึ้นเสียงดัง

เหมิงเหมิงกล่าว “การต่อสู้กันของพญาเพลิง แน่นอนว่าจะต้องมีแสงไฟเจิดจ้าไปทั่วทิศ ยากที่จะเฝ้ามองได้ พญาเพลิงไป๋กู่เป็นไฟธาตุเย็น แสงที่มันเปล่งประกาย ออกมาแน่นอนว่าจะต้องเป็นแสงสีขาวที่มองดูแล้วแสบแก้วตา”

“พญาเพลิงฮุ้นหยวนเล่า?” มู่ชิงเกอมองไม่ชัด ทำได้เพียงถามขึ้นกับเหมิงเหมิง

“ไม่รู้!” เหมิงเหมิงตอบกลับ

มู่ชิงเกอขมวดคิ้วแน่นขึ้น แต่ก็ไม่อาจทำอันใดได้ ทำได้เพียงแค่รอคอยเท่านั้น

ผ่านไปไม่นาน นางก็สัมผัสได้ว่าพื้นถํ้าใต้เท้านางเริ่มสั่นสะเทือนขึ้น เสานํ้าแข็งและแท่งนํ้าแข็งพวกนั้นก็เริ่มแตกออก ร่วงตกลงมาด้านล่างไม่หยุด

บนหุบเขาหิมะ หิมะถล่มก่อนหน้าก็เพิ่งจะหยุดได้ไม่นาน พลังงานที่รุนแรงกว่าเดิมสายหนึ่งก็ค่อยๆ พวยพุ่งขึ้นมาจากใต้ดินอีกครั้ง ทั่วทั้งหุบเขานํ้าแข็งก็เหมือนกับจะถล่มลงมาก็ไม่ปาน

ตึกส่วนใหญ่ของหุบเขาสงบใจก็เริ่มสั่นไหวจนถล่มลงมาบ้างแล้ว

กงเสวี่ยหยาเร่งรีบเรียกรวมผู้คนให้เข้ามาในตำหนักใหญ่ ราวกับว่ามีเพียงที่นี่เท่านั้นที่จะปลอดภัยที่สุด “ท่านแม่ จริงๆ แล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่? คุณชายมู่อยู่ที่ ใด?” กงเจี้ยงเสวี่ยมองไปทางมารดาของตนอย่างกังวลใจ

กงเสวี่ยหยากลับส่ายหน้าขึ้น ไม่ได้ตอบกลับ เพราะในใจของนางตอนนี้ก็ไม่ได้รู้คำตอบนั้นแต่อย่างใด เพียงแต่มีลางสังหรณ์สายหนึ่ง รู้สึกได้รางๆ ว่าบางทีการ หลุดพ้นจากคำสาปนับพันปีของหญิงสาวตระกูลกงอาจจะเป็นวันนี้!

ปัก ปัก ปัก—–!

แผ่นหลังของมู่ชิงเกอถูกแท่งน้ำแข็งและเศษของเสานํ้าแข็งกระแทกเข้ามาใส่จำนวนนับไม่ถ้วน แต่ดีที่เนื้อหนังของนางก็แข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาอยู่ไม่รู้กี่เท่า ไม่เช่นนั้นก็คงเกรงว่านางจะถูกทับจนตายไปตั้งนานแล้ว

“เจ้านาย กลับมาหลบในช่องว่างก่อนเถอะ?” เหมิงเหมิงกล่าวแนะขึ้น

มู่ชิงเกอพอเตรียมจะตอบกลับไป รอบด้านก็พลันเงียบสงบลง

นางชันกายลุกยืนขึ้น พร้อมกับมองไปยังทิศที่พญาเพลิงไป๋กู่ตั้งอยู่ก่อนหน้า

เหล่าแท่งนํ้าแข็งที่ดูน่าหวาดหวั่นที่ตั้งอยู่ก่อนหน้า ก็ได้หายไปไม่เห็นแม้แต่เงา

“อุแว้—–! อุแว้—–! อุแว้—–!”

ชั่วขณะนั้นอยู่ๆ ก็มีเสียงทารกดังขึ้นเสียงหนึ่ง ทำเอาทั่วร่างของมู่ชิงเกอนิ่งชะงักไป “เหมิงเหมิง เจ้าได้ยินเสียงเด็กร้องหรือไม่?”

“ได้ยินเจ้าค่ะ!” เหมิงเหมิงเร่งกล่าวขึ้น

‘นั่นก็ไม่ใช่นางรู้สึกไปเองรึ? ที่นี่จะไปมีเด็กทารกได้อย่างไร?’ มู่ชิงเกอกะพริบตา หันมองตามเสียงไป

ทันใดนั้นเองนางก็เห็นบนพื้นนอนอยู่ด้วยเด็กทารกชาย ที่กำลังร้องไห้อยู่ผู้หนึ่ง มู่ชิงเกอปกปิดความตื่นตระหนก เร่งก้าวไปยังทารกชายผู้นั้น แต่ในใจกลับกล่าวไม่หยุดว่า ‘พญาเพลิงฮุ้นหยวนของข้าเล่า?’

เดินไปที่ด้านหน้าของเด็ก มู่ชิงเกอก็รู้สึกได้ว่าพอทารกนั่นเห็นตนก็ยิ่งร้องไห้เสียงดังขึ้นกว่าเก่า ราวกับว่ากำลังได้พบญาติสนิทก็ไม่ปาน

มู่ชิงเกอนิ่งชะงักไป

แต่ว่าในตอนนั้นเอง เด็กทารกอยู่ๆ ก็กระโดดขึ้นมา กางแขนป้อมๆ ทั้งสองข้างออก พุ่งทะยานมาทางนางทั้งยังเปิดปากเรียกด้วยเสียงที่ยังไม่ค่อยชัด “ท่านแม่! ท่านแม่! อุ้มอุ้มอุ้มอุ้ม! ท่านแม่อุ้ม!”

นี่มันเรื่องอันใดกัน!

มู่ชิงเกอเบิกดวงตาทั้งสองข้างขึ้น

ยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกเด็กทารกพุ่งชนเข้ามาในอก!

รอจนนางได้สติกลับมา ก็เร่งรีบแกะเด็กทารกออกจากตัวนางมือเป็นระวิง กล่าวอย่างตื่นตกใจ “เจ้าเป็นใคร?”

“เจ้านาย เขาคือพญาเพลิงฮุ้นหยวน!” เสียงของเหมิงเหมิงดังขึ้นในทันใด

มู่ชิงเกอนิ่งชะงักอึ้งไปอีกครั้ง

เด็กตรงหน้าผู้นี้เป็นพญาเพลิงฮุ้นหยวน?

เด็กทารกอวบอ้วนถูกมือทั้งสองของมู่ชิงเกอรวบเอาไว้ ยื่นเว้นระยะห่างออกไปช่วงหนึ่ง เขามองมาที่นางท่าทางเสียใจ ปากน้อยๆ อยู่ๆ ก็เบะขึ้นมา ร้องไห้ขึ้นเสียงดัง “แง—–! ท่านแม่ไม่ต้องการข้าแล้ว!”

มู่ชิงเกอกล่าวสีหน้าบิดเบี้ยว “เจ้าไม่ได้เป็นไข่รึ?”

“เจ้านาย เกรงว่านี่จะเป็นกายจำแลงของเขา ตัวไข่ก่อนหน้าก็อาจจะเป็นกายจำแลงตอนแรกเกิดของเขา ตอนนี้เขากลืนกินพญาเพลิงไป๋กู่ไปแล้ว น่าจะอยู่ในช่วงเริ่มเจริญเติบโต ดังนั้นก็เลยกะเทาะเปลือกไข่ออกมา” เหมิงเหมิงกล่าววิเคราะห์ขึ้น

ขณะนั้นเอง พญาเพลิงฮุ้นหยวนก็ร้องไห้เสียงดังขึ้นมา มากกว่าเดิม นํ้าตาที่ไหลหยดลงมาร่วงลงไปบนพื้นทั้งหมดก็กลายเป็นก้อนนํ้าแข็งเล็กๆ เม็ดแล้วเม็ดเล่า

“นี่มัน…” มู่ชิงเกอเบิกตามองไปยังก้อนนํ้าแข็งที่หยดลงมา

ชั่วขณะนั้นก็พลันเข้าใจถึงความแปลกประหลาดของพญาเพลิงฮุ้นหยวนขึ้นมาได้ในทันใด ก็คือหลังจากที่มันกลืนกินพญาเพลิงตนอื่นเข้าไปแล้วก็จะสามารถใช้พลังความสามารถของพญาเพลิงตนอื่นได้

ดูท่าพญาเพลิงฮุ้นหยวนก็จะควบคุมความสามารถของพญาเพลิงไป๋กู่ได้แล้ว!

ทันใดนั้นเองมุมปากของมู่ชิงเกอก็ยกสูงขึ้น ค่อยๆ ขยับคออันแข็งทื่อของตนจ้องมองไปยังเด็กทารกตรงหน้า เอ่ยถามว่า “เช่นนั้นเจ้าถือว่าเป็นพวกที่เกิดจากครรภ์ มารดาหรือว่าเกิดจากไข่กัน?”

พอนึกย้อนกลับไปถึงความยืดหยุ่นของไข่เกลี้ยงเกลาก่อนหน้า มู่ชิงเกอก็พลันรู้สึกว่านั้นจริงๆ แล้วไม่ใช่ไข่ แต่เป็นครรภ์ชนิดหนึ่ง!

“ท่านแม่ ท่านแม่ อุ้ม!” พญาเพลิงฮุ้นหยวนทำปากจู๋ขึ้นอย่างออดอ้อน

มู่ชิงเกอสีหน้าพลันกลายเป็นดำทะมึนลง กล่าวอย่าวขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “เรียกข้าว่าลูกพี่!”

“ท่านแม่!”

“ลูกพี่!”

“ท่านแม่ลูกพี่!”

“ลูกพี่!”

“ลูกพี่ท่านแม่!”

“ลูกพี่!”

“แง้ แง้—– ท่านแม่รังแกผู้คน!”

ในหุบเขาสงบใจในที่สุดทั้งหมดก็เงียบสงบลง กงเสวี่ยหยามองไปทางสุดขอบฟ้า ในใจรู้สึกตื่นเต้นและว้าวุ่นใจขึ้นมา

คุณชายมู่ทำสำเร็จหรือว่าล้มเหลวกัน?

“ท่านแม่ จริงๆ แล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ท่านตอนนี้สามารถบอกข้าได้หรือยัง? แล้วก็คุณชายมู่จริงๆ แล้วหายไปที่ไหนกันแน่?” กงเจี้ยงเสวี่ยมองไปทางกงเสวี่ยห ยาใช้นํ้าเสียงจริงจังล่าวถามขึ้น

“ข้า…” กงเสวียหยาเตรียมกล่าวอธิบายกับกงเจี้ยงเสวี่ย ทันใดนั้นเอง หญิงรับใช้ที่คอยดูแลมู่ชิงเกอก็เร่งรีบวิ่งเข้ามา สีหน้าบนใบหน้าดูค่อนข้างแปลกประหลาด แต่ก็ยังกล่าวกับกงเสวี่ยหยาและกงเจี้ยงเสวี่ยว่า “ท่านเจ้าหุบเขา นายหญิงน้อย เมื่อครู่เหมือนกับจะได้ยินคุณชายมู่บอกว่า ของเขาได้นำไปแล้ว ตอนนี้ก็ขออำลาเพียงเท่านี้ ขอให้นายหญิงน้อยโชคดีมีความสุข”

คำกล่าวประโยคนั้นนางก็ฟังไม่เข้าใจ

กงเจี้ยงเสวิ่ยก็ยิ่งไม่เข้าใจ

แต่ว่ากงเสวี่ยหยากลับฟัง เข้าใจแล้ว!

ในแววตาของนางทอแววปีติยินดี “เขาสำเร็จแล้ว! เขาถึงกับทำสำเร็จแล้ว!”

กงเจี้ยงเสวี่ยเหมือนจับจุดอะไรได้ กล่าวกับมารดาว่า “ท่านแม่ ท่านให้คุณชายมู่ไปทำอะไร?’’

แต่ว่ากงเสวี่ยหยาก็เหมือนกับไม่ได้ยินก็ไม่ปาน อยู่ๆ ก็ หัวเราะยินดีขึ้นมา นางจับไปที่แขนของลูกสาวแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความปีติยินดีพลางกล่าวว่า “เจี้ยงเสวี่ย พวกเราเป็นอิสระแล้ว พวกเราเป็นอิสระแล้ว!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!