ตอนที่ 685
เคล็ดวิชาครึ่งหนึ่ง
“แผ่นดินเทพตะวันออก ดินแดนฮ่วนเยวี่ย ลูกศิษย์ตำหนักหน้าลำดับที่หนึ่ง หลีเฉา คารวะราชาเทวะจื่อกวง”
“แผ่นดินเทพตะวันออก ดินแดนฮ่วนเยวี่ย ลูกศิษย์ตำหนักหน้าลำดับที่เจ็ด ซวนเฉียง คารวะราชาเทวะจื่อกวง”
“แผ่นดินเทพตะวันออก ดินแดนฮ่วนเยวี่ย ลูกศิษย์ตำหนักหน้าลำดับที่สิบ จวงซาน คารวะราชาเทวะจื่อกวง”
“แผ่นดินเทพตะวันออก ดินแดนฮ่วนเยวี่ย ลูกศิษย์เซียนสุ่ย คารวะราชาเทวะจื่อกวง”
ทั้งสี่คนพอเข้าตำหนักมาแล้วก็ยืนเรียงเป็นแถวแจ้งชื่อแต่ละคนออกมาด้วยท่าทีสบายๆ แม้อยู่ต่อหน้าราชาเทวะก็ยังคงความสง่างามในตัวเอาไว้
มู่ชิงเกอมองไปที่พวกเขาแล้วนัยน์ตาก็ผุดรอยยิ้มออกมา
“ราชาเทวะ พวกเราสี่คนได้รับบัญชาจากราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยให้มารับราชาเทวะน้อยดินแดนฮ่วนเยวี่ยของพวกเราขอรับ” หลีเฉาพูดกับราชาเทวะจื่อกวงจบก็มอง
ไปที่มู่ชิงเกอ ทั้งคู่สบตาเพียงแวบเดียวก็ละสายตาออก
ราชาเทวะจื่อกวงแววตาเย้ยหยันพูดเสียงเล็กเสียงน้อยว่า “ดินแดนฮ่วนเยวี่ยนี่ทำอะไรรวดเร็วดีนะ ราชาเทวะน้อยมู่เพิ่งมาถึงดินแดนจื่อกวง พวกเจ้าก็มารับคนแล้ว”
หลีเฉายิ้มน้อยๆ ค้อมศีรษะพูดตามมารยาทว่า “ราชาเทวะของพวกเราให้ความสำคัญกับราชาเทวะน้อยมาก พวกเราสี่คนย่อมไม่กล้าชักช้า”
“มาแล้วก็มาแล้ว อย่างไรพวกเราก็เพิ่งคุยกันเสร็จ จริงไหม ราชาเทวะน้อยมู่” ราชาเทวะจื่อกวงพูดกับมู่ชิงเกออย่างมีความหมาย
มู่ชิงเกอเผยอรอยยิ้มน้อยๆ บอกราชาเทวะจื่อกวงว่า “ถูกต้อง คุยกันเสร็จแล้ว การพูดคุยกับราชาเทวะจื่อกวงครั้งนี้ ข้าได้สิ่งดีๆ ไปไม่น้อยเลย”
“ได้รับประโยชน์ก็ดีแล้ว” ราชาเทวะจื่อกวงสะบัดแขนเสื้อบอกคนทั้งห้าว่า “ในเมื่อมาแล้วก็พักในดินแดนจื่อกวงชั่วคราวก่อนเถอะ อย่างไรข้ากับราชาเทวะน้อยมู่ก็คุยกันถูกคอ วันหลังยังอยากจะคุยกันอีก”
ความหมายของเขาบ่งบอกชัดเจนว่ายังไม่ให้มู่ชิงเกอจากไปในเวลานี้
“นี่…” หลีเฉาขมวดคิ้ว คิดปฏิเสธ
แต่ราชาเทวะจื่อกวงกลับตัดบทว่า “ดีแล้ว ตกลงตามนี้ พวกเจ้าไปเถอะ จะมีคนพาพวกเจ้าเข้าที่พักเอง”
คำไล่แขกเอ่ยออกมาแล้ว หลีเฉาจึงไม่ได้พูดอะไรมากอีก
ช่วยไม่ได้ เขาจึงขอบคุณแล้วออกจากวังราชาเทวะพร้อมกับมู่ชิงเกอ
พอออกจากวังราชาเทวะ มู่ชิงเกอก็สูดลมหายใจเข้าลึก ยิ้มบอกคนทั้งสี่ว่า “พวกเจ้ามาได้ทันเวลาพอดีเลย”
ทั้งลี่คนต่างไม่โง่ย่อมฟังออกถึงเงื่อนงำบางอย่างจากคำพูดของมู่ชิงเกอ
หลังจากต่างสบตากันแล้ว แววตาก็เคร่งเครียดขึ้นมา เวลานี้เองก็มีลูกศิษย์ดินแดนจื่อกวงเข้ามานำทางให้คนทั้งห้า นำพวกเขาไปยังที่พัก
ระหว่างทาง มู่ชิงเกอก็ถามว่า “สหายสองคนที่มาพร้อมกับข้าเล่า”
“ราชาเทวะน้อยโปรดวางใจ พวกเขารออยู่ในที่พักกันแล้ว” คนนำทางเอ่ยด้วยนํ้าเสียงเกรงอกเกรงใจ ไม่ได้หยิ่งยโสเพราะว่าที่นี่คือดินแดนจื่อกวงแต่อย่างใด
ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเห็นว่ามีคนจากแดนฮ่วนเยวี่ยมาหรือไม่
เมื่อรู้ว่าหยินเฉินกับราชครูปลอดภัยดีมู่ชิงเกอก็พยักหน้าอย่างวางใจ ไม่ได้ถามอีก
ระหว่างทางคุยกันมากไม่ได้ ดังนั้นทั้งห้าจึงเงียบมาตลอดทาง
มู่ชิงเกอค่อนข้างประหลาดใจ ขณะที่นางออกจากเก้าชั้นฟ้านั้นเพิ่งส่งข่าวให้ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย ผ่านป้ายราชาเทวะน้อยฮ่วนเยวี่ยไปเอง เหตุใดคนทั้งสี่จึงมาถึงแผ่นดินเทพตะวันตกได้รวดเร็วเช่นนี้
เมื่อนำพวกเขาไปถึงที่พักชั่วคราวแล้ว ลูกศิษย์ดินแดนจื่อกวงคนนั้นก็ถอยกลับไป เพียงแต่ที่นอกประตูยังคงมีลูกศิษย์ดินแดนจื่อกวงเฝ้าดูอยู่
หากเรียกให้สวยงามก็เพื่อป้องกันคนตระกูลมู่เหลือเดนลอบเข้ามาทำอันตรายมู่ชิงเกอ แต่ความจริงมู่ชิงเกอรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นการจับตามองของราชาเทวะจื่อกวง
ชิงเกอ”
ทั้งห้าเพิ่งเข้าประตูมาหยินเฉินก็เดินเข้ามา
เขาสวมชุดตัวยาวสีเงิน ผมสีเงิน นัยน์ตาสีแดง ภาพลักษณ์ที่แตกต่างจากคนทั่วไปนี้ทำให้คนทั้งสี่ต่างสนอกสนใจ
ราชครูกำลังจะอ้าปาก แต่เห็นมีคนนอกอยู่ด้วยจึงเก็บคำพูดคืน นิ่งเงียบไม่เอ่ยคำใด
”เผ่าอสูร!” หลีเฉาร้องอย่างประหลาดใจ
มู่ชิงเกอผงกศีรษะ แนะนำตัวคนทั้งสี่ว่า “คนนี้คือหยินเฉิน คนนั้นคืออาวุโสเฮ่ายวน ล้วนเป็นสหายของข้า”
เฮ่ายวนนั้นเป็นชื่อของราชครู น้อยนักที่จะมีใครรู้จัก
นางบอกหยินเฉินกับราชครูต่อว่า “ทั้งสี่ท่านนี้ต่างเป็นเพื่อนร่วมสำนักในดินแดนฮ่วนเยวี่ย หลีเฉา เซียนสุ่ย ซวนเฉียงและจวงซาน”
หลังจากทักทายแล้วทุกคนจึงเข้าไปในเรือนพัก สำหรับลูกศิษย์รักษาการของดินแดนจื่อกวงนั้นจวงซานเห็นแล้ว เขาบอกมู่ชิงเกอว่า “ชิงเกอ เจ้าทำอะไรลงไป กันแน่ถึงทำให้พวกเขาเฝ้ายามกันหนาแน่นเช่นนี้”
“ราชาเทวะไม่ได้บอกพวกเจ้าหรือ” มู่ชิงเกอมองทั้งสี่ด้วยความประหลาดใจ
ทั้งสี่คนต่างส่ายหน้า
หลีเฉาว่า “ราชาเทวะเพียงสงพวกเราว่าให้มาดินแดนจื่อกวงสักเที่ยว นำตัวเจ้ากลับไปโดยไม่บุบสลาย”
มู่ชิงเกอมุมปากกระตุกบ่นในใจ ‘ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยผู้นี้นี่ขี้เกียจเสียจริง ข้าส่งข่าวไปอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว แต่เขากลับไม่บอกอะไรเลยก็ส่งคนทั้งสี่มาอย่างไม่รู้เรื่องอะไรเช่นนี้’
“แล้วเหตุใดพวกเจ้าจึงมาถึงได้รวดเร็วเช่นนี้” มู่ชิงเกอเอ่ยถึงข้อสงสัยของตัวเองออกมา
หลีเฉาบอกว่า “ราชาเทวะฉีกช่องว่างออกให้พวกเราข้ามมาน่ะ”
โอ้โห
มู่ชิงเกอตกใจ นางรู้ว่าเมื่ออยู่ขั้นศักดิ์สิทธิ์แล้วจะสามารถฉีกช่องว่างไปมาได้ตามใจ ซือมั่วเองก็ใช้วิธีนี้ ทุกครั้งที่มาหานางล้วนปรากฎตัวขึ้นอย่างกะทันหัน
แต่นางนึกไม่ถึงเลยว่าราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยจะยอมทำได้ถึงขั้นฉีกช่องว่างออกและส่งทั้งสี่คนมายังแผ่นดินเทพตะวันตก
“เช่นนั้นพวกเราจะกลับอย่างไร” มู่ชิงเกอลองถามดู นางก็อยากลองการทะลุช่องว่างดู ไม่แน่ว่าอาจจะรับรู้กฎบัญญัติของช่องว่างได้ลึกขึ้งมากยิ่งขึ้น แต่คำตอบจวงซานกลับทำให้มู่ชิงเกอผิดหวัง “ราชาเทวะบอกว่าหลังจากมาสมทบกับเจ้าแล้วก็ให้กลับกันเอง”
“…” มู่ชิงเกอสะอึกไป
“ราชาเทวะอยากถือโอกาสทดสอบพวกเรา ให้พวกเราฝึกซ้อมฝีมือ” เซียนสุ่ยพูดยิ้มๆ พอเขายิ้มขึ้นมา ลักยิ้มที่มุมปากก็เผยให้เห็นชัดเจนทำให้ดูน่ารักขึ้นมาก
พูดจบ เขาก็ถามมู่ชิงเกอว่า “ว่าแต่ ราชาเทวะน้อย เจ้าต้องบอกพวกเราก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น”
คำถามนี้จึงจะสำคัญมากที่สุด
ทั้งสี่คนมองมู่ชิงเกอพร้อมกัน
มู่ชิงเกอยิ้มบอกทั้งสี่คนว่า ”เรื่องนี้ สักครู่ข้าค่อยอธิบายให้พวกเจ้าฟัง” นางมองไปที่ราชครูแล้วบอกเขาว่า “เจ้าตามข้ามา”
เห็นมู่ชิงเกอมีเรื่องพูดกับคนอื่น ทั้งสี่คนก็ไม่แข็งขืนพากันแยกย้ายไปจับตามองพวกลูกศิษย์ดินแดนจื่อกวงที่เฝ้าอยู่ข้างนอก
ราชครูตามมู่ชิงเกอเข้าข้างใน หลังจากเขาติดม่านพลังป้องกันการแอบฟังแล้วมู่ชิงเกอจึงถามว่า “เวลานี้ราชาเทวะจื่อกวงจับจ้องข้าอยู่ เขาเชื่อว่าบนตัวมู่เทียนอิน ต้องมีเคล็ดวิชาเทวะ เมื่อข้าสังหารเขาแล้วของนั้นจะต้องอยู่ที่ข้า”
“นายน้อยจะจัดการอย่างไร” ราชครูถาม
มู่ชิงเกอสั่นศีรษะช้าๆ “เรื่องนี้ไม่ยาก ข้าย่อมมีวิธี ที่ข้าอยากถามคือสามารถเอาอีกสองส่วนที่อยู่ในมือศิษย์พี่เจ้ามาได้หรือไม่”
“หากมีครบสามส่วน ข้าเดาว่าจะสามารถอ่านเคล็ดวิชาในเคล็ดวิชาเทวะส่วนล่างได้ครึ่งหนึ่ง” ราชครูกล่าว