ตอนที่ 844
เจ้า แม้ยอมแพ้ก็ฆ่าทิ้ง!
“มู่เผิง!” มู่ชิงเกอเอ่ยเรียก
มู่เผิงเดินออกมาจากฝูงชนมาที่เบื้องหน้าของมู่ชิงเกอและทำความเคารพอย่างนอบน้อมผิดธรรมดา “นายน้อย มู่เผิงอยู่นี่”
“นำคนพันคนคุมตัวลูกศิษย์ดินแดนจื่อกวงที่เหลือกลับเก้าชั้นฟ้า ให้พวกเขาเป็นทาสที่เก้าชั้นฟ้าเพื่อ ไถ่โทษ” เสียงที่เย็นเฉียบของมู่ชิงเกอสั่งดังนี้
คนของดินแดนเทพทั้งสี่นางย่อมไม่ปล่อยให้พวกเขาหลุดรอดอยู่ภายนอกอยู่แล้ว
“ขอรับ นายน้อย” มู่เผิงรับคำ
เมื่อเหล่าลูกศิษย์ดินแดนจื่อกวงได้ยินว่าจะให้พวกเขาไปเป็นทาสที่เก้าชั้นฟ้าก็ล้วนไม่กล้าโต้แย้งทั้ง ยังแสดงท่าทีซาบซึ้งใจอีกด้วย
“หยินเฉิน เจ้าตามพวกเขาไปด้วยหากมีใครกล้าคิดเห็นเป็นอื่นก็ให้ฆ่าโดยไม่มีข้อยกเว้น!” มู่ชิงเกอพูดอีก
หยินเฉินผงกศีรษะเงียบๆ
จัดการเรียบร้อยแล้ว มู่ชิงเกอก็ยกธงเลือดขึ้นอีกครั้งแล้วบอกทุกคนว่า “พวกเราไป!”
จากนั้นนางก็ยกมือฉีกขาดช่องว่างแล้วก้าวเท้าเข้าไป
ตระกูลมู่หลายหมื่นคนต่างติดตามนางไปอย่างเอิกเกริก
เพียงแต่ครั้งนี้ขณะที่มู่ชิงเกอปรากฎตัวนั้นไม่ได้ตรงไปที่จุดหมายปลายทาง แต่ไปถึงจุดที่ใกล้เคียงก็ ออกจากช่องว่าง
พอนางออกจากช่องว่างก็เห็นซือมั่วยิ้มให้นางอยู่
มู่ชิงเกอถลึงตาใส่เขาแต่ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะมีเวลาพูดคุย เบื้องหลังนางก็มีผู้คนเดินออกมามากมาย ในพริบตานั้นเองซือมั่วก็หายไปอย่างไรวี่แวว
มู่ชิงเกอละลายตาออกอย่างไม่เผยพิรุธ มองไปที่ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยซึ่งปรากฎตัวอยู่ข้างนาง
“ราชามารไม่รู้ไปทางใดและไม่รู้ว่ามีจุดประสงค์ใด เจ้าต้องระวังด้วย” ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยพูดเรียบๆ
“อืม” มู่ชิงเกอไม่สะดวกอธิบายจึงเพียงรับคำ
ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยมองไปที่นางแล้วถามว่า “เจ้ามาปรากฎตัวที่นี่เพราะต้องการไปยังดินแดนเซวียนเช่อหรือ”
มู่ชิงเกอพยักหน้าช้าๆ
“แล้วเหตุใดจึงออกมาที่นี่” ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยถาม
มู่ชิงเกอยิ้มว่า “ข้าต้องการให้มนุษย์ธรรมดาและมนุษย์เทพบนแผ่นดินเทพตะวันตกต่างเห็นชัดเจน ว่าเก้าชั้นฟ้ากลับมาได้อย่างไร”
พูดจบนางก็ชูธงเลือดในมือขึ้นสูง ธงเคลื่อนไหวในมือนางทำให้หลายสิบศีรษะที่แขวนอยู่บนยอด ก้านธงต่างแกว่งไกวจนเกิดเสียงกระทบกันเล็กน้อย
“ตระกูลมู่ทุกคนฟังคำสั่ง!” มู่ชิงเกอตะโกนเสียงดุดัน
“ฟังคำสั่งนายน้อย!”
“ฟังคำสั่งนายน้อย!”
ตระกูลมู่หลายหมื่นคนต่างร้องตะโกนเสียงดัง
การรบที่ดินแดนจื่อกวงได้ทำให้เลือดนักรบที่เงื่องหงอยมานานของพวกเขาคืนชีพ ทำให้ความอัดอั้น ของพวกเขาได้รับการปลดปล่อย เวลานี้เลือดในกายพวกเขาเดือดพล่านจนอยากติดตามมู่ชิงเกอฆ่าฟันต่ออีกหลายรอบ
ดังนั้นพอมู่ชิงเกอเอ่ย ในส่วนลึกของดวงตาพวกเขาต่างผุดเปลวไฟลุกโชนขึ้นมา
ไม่ว่าคนตระกูลมู่ธรรมดาหรือว่าซวีซิวกับราชครู องครักษ์เขี้ยวมังกรหรือพรรคพวกข้างกายมู่ชิงเกอต่างกลั้นลมหายใจรอฟังคำสั่งต่อไปของนาง
“ตามข้ามุ่งหน้าไปยังดินแดนเซวียนเช่อ!” มู่ชิงเกอเหินขึ้นฟ้า ในมือชูธงเลือดมุ่งหน้าไปยังดินแดนเซ วียนเช่อด้วยความรวดเร็ว
พอนางขยับคนหลายหมื่นด้านหลังนางต่างก็ขยับตาม
ธงเลือดถูกลมพัดจนโบกสะบัดกลางท้องฟ้า
ตัวหนังสือเปื้อนเลือดในธงทำให้คนเห็นแล้วต่างต้องเกรงขาม
แต่นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนเกรงกลัวมากที่สุด สิ่งที่ทำให้ทุกคนไม่ว่ามนุษย์ธรรมดาหรือมนุษย์เทพใน ทุกสถานที่ที่ผ่านไปต่างหวาดกลัวจนหน้าถอดสีนั้นก็คือ หลายสิบศีรษะที่น่าสยดสยองซึ่งแขวนอยู่บนยอดธงต่างหาก
“นั้น… เป็นคนของดินแดนจื่อกวง ข้ารู้จักคนหนึ่งในนั้น”
มีคนตาแหลมสามารถจดจำหน้าตาของคนคุ้นเคยที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดเหล่านั้นได้
เพียงแต่การค้นพบนี้กลับยิ่งทำให้พวกเขาหวาดหวั่นมากยิ่งขึ้น
“ที่แขวน…แขวนไว้บนสุดนั้น ไม่ใช่…ไม่ใช่ ราชาเทวะดินแดนจื่อกวงหรือ” ในที่สุดมนุษย์เทพบาง คนที่พื้นดินก็สังเกตเห็นศีรษะของราชาเทวะจื่อกวง
“สวรรค์! ราชาเทวะจื่อกวงถูกสังหารแล้ว ดินแดนจื่อกวงยังจะเหลือหรือ”
“น่ากลัวจะไม่เหลืออีกแล้ว!”
“คนตระกูลมู่เหี้ยมโหดเหิมเกริมปานนี้เลยหรือ”
“ชู่ว์ เบาหน่อย เจ้าอยากตายหรือ ไม่เห็นหัวคนบนยอดธงหรืออย่างไร”
“นี่พวกเขาคงกำลังไปยังดินแดนเซวียนเช่อ” มีคนคาดเดาจากทิศทางที่พวกมู่ชิงเกอกำลังมุ่งหน้าไป
คำพูดนี้ทำให้เสียงคนรอบบริเวณต่างกระหึ่มขึ้นมา ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่
“ครั้งนั้นสี่ดินแดนเทพแผ่นดินเทพตะวันตก ล้อมปราบเก้าชั้นฟ้า ทำให้เก้าชั้นฟ้าแทบจะสิ้นสูญ เวลานี้ตระกูลมู่มาทวงหนี้ พวกเขาไม่ปล่อยดินแดนจื่อกวงก็ย่อมไม่ปล่อยดินแดนเซวียนเช่อแน่นอน”
“คงไม่เพียงดินแดนเซวียนเซ่อ ยังมีดินแดนกู่เฟิงกับดินแดนเส้าเทียนอีก!”
“โอ๊ย! ถ้า…ถ้าตระกูลมู่แห่งเก้าชั้นฟ้ากำจัดสี่ดินแดนเทพจริงๆ แล้วพวกเรา…”
“แต่แปลกจริงๆ ครั้งนี้ตระกูลมู่ลงมืออย่างเอิกเกริก ใช้วิธีการเหี้ยมโหดต่างกับวิธีการเมื่อหมื่นปีก่อนราวฟ้ากับดิน ดินแดนกู่เฟิงเงียบเชียบยังไม่แปลก แต่เหตุใดดินแดนเส้าเทียนที่เป็นผู้นำของสี่ดินแดนเทพนี้ถึงได้เงียบเชียบนักเล่า”
พวกเขาต่างประหลาดใจ แต่ไม่รู้ว่ามู่ชิงเกอได้จัดการขีดพื้นที่ดินแดนเทพเหล่านี้ให้เป็นคุก แยกกันกักขังไว้ก่อนลงมือแล้ว
เวลานี้ดินแดนเส้าเทียนยังเอาตัวไม่รอด จะมาช่วยเหลือดินแดนเซวิยนเช่อได้อย่างไร
ส่วนดินแดนกู่เฟิง มู่ชิงเกอมอบหมายให้โห่วกับเผ่าภูติภูเขาจัดการ ราชาเทวะกู่เฟิงขณะอยู่ที่แดน มารถูกซือมั่วฟันแขนขาดไปข้างหนึ่งทั้งตบะการบำเพ็ญถูกลดทอน ลำพังกำลังพวกโห่วเองก็สามารถสยบเขาได้อย่างง่ายดาย
คำวิพากปวิจารณ์เหล่านี้มู่ชิงเกอไม่ได้ยิน แม้จะได้ยินก็ไม่สนใจ
ที่นางต้องการก็คือผลลัพธ์เช่นนี้
เก้าชั้นฟ้าแต่ก่อนนั้นเป็นที่เคารพนับถือ
เวลานี้นางต้องการให้เก้าชั้นฟ้าเป็นที่เคารพยำเกรง!
ศีรษะบนยอดธงเลือดของมู่ชิงเกอแกว่งไกว ขบวนหลายหมื่นคนมุ่งหน้าดินแดนเซวียนเช่ออย่าง อึกทึกครึกโครม สถานที่ผ่านไปล้วนเป็นที่สนใจของผู้คน นอกจากตกใจจนสะท้านแล้วต่างก็อยากรู้อยากเห็น
จนค่อยๆ เกิดขบวนผู้ติดตามเบื้องหลังพวกมู่ชิงเกอขึ้น
พวกเขาติดตามอยู่ห่างๆ ไม่ใช่เพื่อร่วมรบด้วย แต่เพื่อดูให้เห็นกับตาว่าคนตระกูลมู่ที่กลับมาอย่างเอิกเกริกนี้จะจัดการศัตรูเก่าครั้งนั้นอย่างไร
หางยาวข้างหลังทำให้มุมปากมู่ชิงเกอเชิดขึ้น
เป้าหมายเจ้าเล่ห์ภายในดวงตาถูกราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยสังเกตเห็น ตาหงส์ที่เกียจคร้านผุดความรู้สึก สนุกสนานขึ้นมา “นี่ก็เป็นแผนของเจ้าหรือ”
“หากคิดจะสบายให้ยาวนานย่อมต้องมีวิธีการที่ดี” มู่ชิงเกอยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบาน
จนกระทั่งมู่ชิงเกอมาถึงนอกดินแดนเซวียนเช่อ ขบวนที่ติดตามอยู่ข้างหลังก็ได้เพิ่มจำนวนเป็นแสนกว่าคนแล้ว
พวกเขาหยุดอยู่ที่ไกลออกไปแล้วตั้งหน้าตั้งตารอดู
มู่ชิงเกอยังคงทำเช่นเดียวกับดินแดนจื่อกวง ปักธงเลือดในมือลงบนพื้นดินอย่างแรง ธงเลือดโตขึ้น ตามลม ธงที่ใหญ่โตนั้นปิดบังท้องฟ้าของดินแดนเซวียนเช่อเอาไว้
ส่วนหลายสิบศีรษะบนยอดธงยิ่งเป็นที่สนใจของผู้คน
ลูกศิษย์เซวียนเซ่อที่ถูกกักขังอยู่ในค่ายกล เวลานี้ต่างแหงนหน้า ถูกศีรษะบนยอดธงทำให้สะท้านจนใบหน้าซีดขาว ไม่ใช่ทนเห็นเลือดไม่ได้แต่เพราะพวกเขาต่างจำฐานะของเจ้าของศีรษะเหล่านั้นได้
“คนในดินแดนเซวียนเซ่อจงฟัง หมื่นปีก่อนคนที่ไม่ได้ไปเก้าชั้นฟ้าให้ถอยหลังไปหนึ่งก้าว” มู่ชิงเก อลอยอยู่บนท้องฟ้าเอ่ยอย่างผู้ทรงอำนาจ
ผู้คนต่างไม่รู้ความหมายของนาง แต่คนดินแดนเซวียนเซ่อยังคงทำตามที่นางบอกโดยถอยหลังไป หนึ่งก้าว
การถอยครั้งนี้ทำให้มีคนหนึ่งในนั้นโดดเด่นขึ้นมาทันที
สายตามู่ชิงเกอเปล่งประกาย มุมปากผุดรอยยิ้มนึกสนุก
“ราชาเทวะเซวียนเช่อ” ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยพูดด้วยความประหลาดใจ
มู่ชิงเกอยิ้มว่า “ราชาเทวะเซวียนเช่อ ท่านคงไม่จำเป็นแล้วกระมัง”