ตอนที่ 845
จำไว้ว่า ข้าคือมู่ชิงเกอ
คนที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนถูกห้อมล้อมอำพรางโดยลูกศิษย์เซวียนเช่อมากมายนั้นคือราชาเทวะ
เซวียนเช่อ
การที่เขาถูกเปิดโปงด้วยคำพูดเดียวทำให้สีหน้าเขาดูน่าเกลียดยิ่งนัก
ส่วนเหล่าลูกศิษย์แดนเซวียนเซ่อที่เงียบสงบ ต่างก็ส่งสายตาหากันไม่มีใครออกมาพูดอะไร
กระทั่งราชาเทวะเซวียนเซ่อยังไม่มีปัญญาฝ่าออกไปได้แล้วพวกเขาจะมีปัญญาหรือ
มู่ชิงเกอยิ้มเยาะ “ราชาเทวะเซวียนเซ่อมีเจตนาใดหรือ ยืนอยู่ที่นี่เพื่อขอให้ข้าอภัยให้หรือ แต่แม้
ท่านจะมีใจขออภัยแต่ข้าก็จะไม่ยอมปล่อยท่านไป”
แววตาราชาเทวะเซวียนเช่อมืดดำ เขาไม่ได้มองมู่ชิงเกอ แต่สายตากวาดผ่านศีรษะบนยอดธงแล้วตกอยู่ที่ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย
“ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย ท่านจะสนับสนุนคนตระกูลมู่ผู้นี้หรือ” ราชาเทวะเซวียนเช่อเอ่ยถาม
ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยตอบเรียบๆ ว่า “คนผู้นี้ยังเป็นลูกศิษย์ดินแดนฮ่วนเยวี่ย ทั้งยังเป็นราชาเทวะน้อยของดินแดนฮ่วนเยวี่ยของข้า”
“ฮ่าๆๆ!” ราชาเทวะเซวียนเช่อหัวเราะลั่น พูดด้วยแววตาเหี้ยมโหดว่า “คนตระกูลมู่เหลือเดนคนหนึ่ง สุนัขจรจัด ยังสามารถเป็นราชาเทวะน้อยของดินแดนฮ่วนเยวี่ยได้ ดินแดนฮ่วนเยวี่ยของท่านหาคนไม่ได้แล้วหรือไร”
“ใครเป็นคนกำหนดว่า เชื้อสายตระกูลมู่ไม่สามารถเป็นลูกศิษย์ดินแดนเทพฮ่วนเยวี่ยหรือเป็นราชา เทวะน้อยได้” คำพูดของราชาเทวะเซวียนเช่อไม่ระคายหูราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยกลับยิ่งทำให้เขาถามกลับอย่างเย้ยหยัน
“เจ้า!” แววตาราชาเทวะเซวียนเช่อโหดร้ายขึ้นมา
เขาเข้าใจดีว่าเมื่อมีราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยอยู่ที่นี่แล้วเขาย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ โอกาสพลิกผันที่ดีที่สุดคือดึง ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยมายืนอยู่ข้างตัวเอง เช่นนี้แล้วจึงจะสามารถต่อสู้ได้ แต่ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยกลับไม่ไยดี ทำให้ราชาเทวะเซวียนเช่อแค้นนัก
ครั้งไปแดนมารเขาถูกจอมมารในธงวิญญาณมารทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ขณะหลบหนียังโดนซือมั่วซัดไปอีกหนึ่งฝ่ามือ หลังจากกลับมาแล้วได้ปิดประตูบำเพ็ญรักษาอาการบาดเจ็บตลอดเวลา
อาการบาดเจ็บยังคงหลงเหลืออยู่จนถึงเวลานี้
หากเขาไม่ได้บาดเจ็บจะมาโดนเล่นงานอยู่ที่นี่หรือ
“ราชาเทวะเซวียนเช่อ ท่านไม่ต้องเสียเวลาคิดหาโอกาสหรอก ในเมื่อราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยยอมมาที่นี่ พร้อมข้า ย่อมไม่ทำเรื่องกลับไปกลับมาเหมือนคนเช่นท่านอยู่แล้ว ท่านควรคิดหาทางหนีทีไล่ของตัวเองจะดีกว่า” มู่ชิงเกอยิ้มเยาะออกมา
พูดจบนางก็ไม่ได้ใส่ใจราชาเทวะเซวียนเช่อ แต่มองไปที่เหล่าลูกศิษย์ดินแดนเซวียนเซ่อ เวลานี้ลูก ศิษย์เหล่านี้ได้ทำตามที่นางบอกโดยแยกออกเป็นสองกลุ่มเงียบๆ กลุ่มที่น้อยกว่าคือคนที่ไม่ได้ไปเก้าชั้นฟ้าเมื่อหมื่นปีก่อน พวกเขาส่วนใหญ่เป็นลูกศิษย์ที่เพิ่งเข้ามาดินแดนเซวียนเช่อ
มู่ชิงเกอบอกเหล่าลูกศิษย์ดินแดนเซวียนเซ่อที่ยังยืนอยู่ที่เดิมว่า “พวกเจ้าต่างเคยไปเก้าชั้นฟ้าเมื่อ หมื่นปีก่อน ใครที่ไม่เคยฆ่าคนตระกูลมู่แม้แต่คนเดียว ถอยหลังไปหนึ่งก้าว”
สองคำถามนี้ทำให้ผู้คนต่างหวาดหวั่น
ลูกศิษย์ดินแดนเซวียนเซ่อไม่รู้ความประสงค์ของมู่ชิงเกอ
คนข้างหลังแสนกว่าที่ตามมาดูเหตุการณ์ ต่างไม่เข้าใจว่ามู่ชิงเกอคิดจะทำอะไร
“อย่าได้คิดโกหกข้า คนตระกูลมู่หลายหมื่นข้างหลังข้าส่วนใหญ่เคยผ่านศึกเมื่อหมื่นปีก่อน อีกทั้ง พวกเจ้านึกว่าจะโกหกผู้เฝ้ามองของตระกูลมู่ได้หรือ” มู่ชิงเกอกล่าวอย่างขบขัน
พอนางพูดจบ ซวีซิวและราชครูสองคนที่แยกอยู่ทางซ้ายขวาของนางก็ใช้สายตาที่สามารถมองทะลุได้ทุกสิ่งกวาดผ่านผู้คนของดินแดนเซวียนเช่อ
พวกที่คิดจะอาศัยความชุลมุนหลบเลี่ยง แต่ภายใต้สายตาที่คมกริบเช่นนี้ต่างไม่กล้าบุ่มบ่าม
ใช่แล้วที่นี่คือแผ่นดินเทพมาร
การจะพิสูจน์ความถูกผิดแต่ละคนนั้นมีวิธีการนับพันนับหมื่น พวกเขา…ย่อมปิดไม่มิด!
จนเมื่อไม่มีใครถอยหลังอีกแล้ว สายตามู่ชิงเกอจึงกวาดไปยังคนที่เหลืออย่างดูแคลนว่า “เช่นนี้แล้ว พวกเจ้าที่เหลืออยู่ล้วนแต่เคยไปเก้าชั้นฟ้าและฆ่าคนตระกูลมู่มาแล้วทั้งนั้นหรือ”
ลูกศิษย์ดินแดนเซวิยนเช่อที่เหลืออยู่สีหน้าพลันแปรเปลี่ยน ต่างคุกเข่าร้องขอชีวิต
“ครั้งนั้นพวกเราทำตามคำสั่งไม่ได้เกิดจากเจตนาส่วนตัว โปรดให้อภัยพวกเราด้วยเถอะ”
“ใช่แล้ว! พวกเราทำตามคำสั่งของราชาเทวะ ไม่ว่าจะไปเก้าชั้นฟ้าหรือฆ่าคนล้วนไม่ใช่สิ่งที่พวกเรา อยากจะทำ”
“โปรดให้อภัยพวกเราเถอะ!”
เสียงร้องขออภัยต่างลอยเข้ามาในหูและแพร่กระจายออกไปไม่ขาดสาย
การแสดงออกของลูกศิษย์ดินแดนเซวียนเช่อ สั่นสะท้านผู้คนข้างหลังที่แห่ตามมาด้วย เดิมพวกเขา คิดว่าจะได้เห็นการต่อสู้ที่สะเทือนเลื่อนสั่น กลับนึกไม่ถึงว่า สิ่งที่เห็นนั้นคือการก้มศีรษะขออภัยของบรรดาลูกศิษย์ดินแดนเซวียนเช่อ
ส่วนพวกที่ถอยหลังไปก้าวหนึ่งหรือสองก้าวนั้น ถึงแม้ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรต่อไปแต่ต่างก็แอบ ถอนหายใจด้วยความยินดีอย่างยิ่ง
คำพูดมู่ชิงเกอเพียงไม่กี่คำก็แบ่งลูกศิษย์ดินแดนเซวียนเช่อออกมาเป็นหลายกลุ่ม ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยคาดเดาความประสงค์ของนางได้ แต่คาดเดาไม่ออกว่าเหตุใดนางจึงไม่จัดการดินแดนเซวียนเช่อ เช่น เดียวกับที่จัดการดินแดนจื่อกวง
ภายหลังเมื่อเขาถาม มู่ชิงเกอจึงบอกว่า ‘การฆ่าคนเพื่อสร้างอำนาจบารมีนั้น ใช้เพียงครั้งเดียวก็ พอแล้ว ที่อื่นนั้นสมควรฆ่าจึงฆ่า ไม่สมควรฆ่าก็เหลือไว้ใช้ประโยชน์ได้มากกว่า’
จนภายหลังอีกนาน ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยจึงรู้ว่าการที่มู่ชิงเกอทำเช่นนี้เพื่อรักษากำลังของแผ่นดินเทพ ทั้งสี่สมุทร
มู่ชิงเกอเดินหน้าไปก้าวหนึ่ง สองมือไพล่ หลังมองผู้ร้องขออภัยแล้วพูดอย่างดูถูกดูแคลนว่า “หากพวกเจ้ามีความห้าวหาญสักนิด ไม่แน่ว่าข้าอาจมองพวกเจ้าสูงขึ้นอีกนิด”
นางพูดเสียงเรียบว่า “ไป๋สี่ ฆ่าเขาเสีย”
ไป๋สี่กลายเป็นแสงสีขาวพุ่งเข้าไปหาราชาเทวะเซวียนเช่อทันที
ราชาเทวะเซวียนเช่อตกใจรีบต้านทานทันที ต่อสู้กับไป๋สี่อย่างดุเดือด
คนข้างกายมู่ชิงเกอมียอดฝีมือระดับนี้ด้วย
ความร้ายกาจของไป๋สี่สูงเกินกว่าที่ผู้คนด้านหลังคาดคิดเอาไว้
ในเวลาเดียวกันมู่ชิงเกอก็สั่งอีกว่า “ฆ่าลูกศิษย์เซวียนเช่อที่เคยรุกรานเก้าชั้นฟ้าและฆ่าคนตระกูลมู่มาก่อนให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว”
พอนางออกคำสั่ง เหตุการณ์ก็ชุลมุนขึ้นมาทันที
“ฆ่า!”
ลูกศิษย์เซวียนเช่อที่ถูกมู่ชิงเกอใช้วิธีนี้ต่างไม่มีจิตใจจะต่อสู้อยู่แล้ว ต่อให้คิดรักษาชีวีตแล้วจะสู้กับ คนตระกูลมู่ที่พุ่งเข้ามาราวกับสุนัขป่าหิวโหยเข้าตะครุบเหยื่อได้อย่างไร
วิธีการต่อเนื่องของมู่ชิงเกอทำให้ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยชมดูจนประกายตาแวววาว
แต่นี่ยังไม่จบ ขณะที่มู่ชิงเกอเริ่มการเข่นฆ่า นางก็หันหลังช้าๆ มองคนตามแห่แสนกว่าคนที่อยู่ข้าง หลัง
การที่จู่ๆ ก็มองมาเช่นนี้ทำให้คนตามแห่ต่างสะดุ้งโหยงจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
การเข่นฆ่าอยู่เบื้องหน้าแล้ว พวกเขาไม่กล้ายั่วยุให้ดาวเพชฌฆาตผู้นี้มีอารมณ์
แต่มู่ชิงเกอกลับไม่ได้โมโหอย่างที่พวกเขาคาดคิด สายตาใสแจ๋วของนางกวาดผ่านคนเหล่านี้ ท่ามกลางเสียงเข่นฆ่าเบื้องหลัง เปิดปากแดงเรื่อพูดด้วยเสียงดังฟังชัดว่า “ที่พวกเจ้าติดตามข้ามาตลอดทางล้วนเพราะอยากเห็นว่าความแข็งแกร่งของตระกูลมู่เมื่อกลับมาแล้วจะจัดการอย่างไรกับศัตรู พวกเจ้ากำลังคาดเดาว่าตระกูลมู่จะยังคงเมตตาปรานีจิตใจกว้างขวางมีคุณธรรมต่อศัตรูเช่นเดียวกับเมื่อหมื่นปีก่อนหรือไม่ใช่ไหม”
คำถามของนางไม่มีใครตอบ แต่จากสีหน้าอับอายของคนแสนกว่าคนนั้นได้บอกชัดเจนถึงทุกอย่างอยู่แล้ว
มู่ชิงเกอยิ้มเยาะแล้วพูดด้วยท่าทางบ้าคลั่งว่า “จำไว้ว่าข้าคือมู่ชิงเกอ ต่อไปนี้ไม่ว่าใครก็ตามหาก ล่วงเกินเก้าชั้นฟ้าแม้เพียงนิดเดียวจะต้องได้รับโทษอย่างสาสม แม้ห่างไกลเนิ่นนานแค่ไหนล้วนต้องถูกลงโทษ!”
นางคือมู่ชิงเกอ ไม่ใช่ตระกูลมู่เมื่อหมื่นปีก่อน! นางมีจิตใจซื่อสัตย์ภักดี แต่ก็มีอาวุธร้ายในมือ!