Skip to content

พลิกปฐพี 902

ตอนที่ 902

ทหารเผ่าอี้บุกรุก!

เขาเป็นใครกันแน่

ตอนที่ทุกคนสงสัยในใจ คาดเดาไปต่างๆ นานา ในที่สุดมู่ชิงเกอก็ให้คำตอบ

“หึ ก็แค่คนชั่วเผ่าอี้พวกเจ้าชำนาญในการทำเรื่องผิดศีลธรรมที่สุด ไม่จำเป็นต้องจดจำ ให้ทายก็ทายได้” มู่ชิงเกอหัวเราะเยาะอย่างเหยียดหยาม

เผ่าอี้!

เผ่าอี้?

เผ่าอี้!

ผู้ที่ทำลายพิธีแต่งงาน คาดไม่ถึงว่าเป็นเผ่าอี้ นี่…นี่จะเป็นไปได้อย่างไร

ตกตะลึง คาดไม่ถึง ไม่น่าเชื่อ ประหลาดใจ

ความรู้สึกต่างๆ นานา ปรากฎอยู่ในใจคนแต่ละคนบนเก้าชั้นฟ้า

แม้แต่ราชาเทวะไม่กี่คนนั้น ตอนนี้ก็มีสีหน้าตกใจทั้งใบหน้า คล้ายกับว่าพวกเขาคิดไม่ตกว่าเหตุใด ถึงมีเผ่าอี้แฝงตัวเข้ามาถึงเก้าชั้นฟ้าได้ อีกทั้งเขาแฝงตัวเข้ามาก็เพื่อขัดขวางการแต่งงานของมู่ชิงเกอและเจ้าแห่งมารงั้นหรือ

มีเพียงราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยที่เคยเจรจาอย่างละเอียดกับมู่ชิงเกอ ตอนนี้สีหน้าสงบนิ่ง ในตาหงส์ที่เฉียงขึ้นคู่นั้น ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“คนของเผ่าอี้มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”

“นั้นสิ! ปกติพวกเขาแค่ต่อสู้ก่อกวนเล็กๆ ในสนามรบช่องว่างมิใช่หรือ จู่ๆ แฝงตัวเข้ามาคิดจะทำอะไร”

“ไม่ใช่คิดจะทำอะไร แต่เขาเพียงคนเดียวจะทำอะไรได้”

ราชาเทวะหลายคน นอกจากจะประหลาดใจแล้ว ยังเต็มไปด้วยความเหยียดหยามต่อคนเผ่าอี้ที่ปรากฎตัวกะทันหันผู้นี้

ตอนนี้ ราชาเทวะจงซานกล่าวเสียงเรียบ “พวกท่านลืมแล้วหรือ ราชาเทวะมู่เคยพูดไว้ คนของเผ่าอี้มีเจตนาร้ายแอบแฝง แอบวางแผนชั่วต่อแผ่นดินเทพมารของเรา”

ประโยคนี้ของเขา ทำให้ราชาเทวะที่เหลือตกใจในใจ เม้มปากนิ่งเงียบ

คำพูดของมู่ชิงเกอ พวกเขาย่อมจำได้ดี

เพียงแต่ว่า ตอนนั้น พวกเขาจำนวนมากคิดว่า นางตีตนไปก่อนไข้ แม้ว่าตอนนี้ พวกเขาก็ยังคงคิดเช่นนี้…

ราชาเทวะจินกวงขมวดคิ้วมองราชาเทวะจงซาน กล่าวถาม “ไม่นึกว่าท่านก็เชื่อด้วย”

ราชาเทวะจงซานยิ้มบางๆ “เดิมข้าก็ไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ข้าคิดว่าสามารถตั้งใจไตร่ตรองคำพูดของราชาเทวะมู่ได้แล้ว”

พูดจบ เขาก็มองราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยต่อ “ราชาเทวะคิดอย่างไร”

ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยที่ถูกถาม ท่ามกลางการจับตามองของราชาเทวะทั้งหมด ในที่สุดก็เอ่ยปาก “เผ่าอี้ เห็นเทพมารเป็นอาหาร เดิมก็เป็นศัตรูที่ไม่อาจอยู่ใต้ฟ้า เดียวกันอยู่แล้ว”

ประโยคนี้ของเขาทำให้สีหน้าราชาเทวะทั้งหมดจมดิ่งลงในชั่วพริบตา เต็มไปด้วยเจตนาสังหาร

พวกเขามองคนเผ่าอี้ที่ยืนอยู่บนแท่นบูชาผู้นั้น

ราชาเทวะเซียนเหนี่ยวยิ้มเยาะด้วยความน่าสะพรึงกลัว “พวกเขาเห็นเทพมารเป็นอาหาร เช่นนั้นในเมื่อครั้งนี้มาแล้วก็อยู่ที่นี่ตลอดไปเสียเถอะ”

“ครั้งนี้ ที่เจ้ามายังคงเป็นร่างแยกใช่หรือไม่ ธงวิญญาณมารของข้า ยังใช้ได้ดีอยู่หรือไม่” ซือมั่วเองก็เอ่ยปากเสียงเย็นเฉียบ

ชั่วพริบตา ฐานะของคนชุดดำก็ถูกเปิดโปง

ไม่ ควรพูดว่า ฐานะของคนผู้นี้ ตอนที่ปรากฎตัว มู่ชิงเกอกับซือมั่วก็รู้อยู่แล้ว

“ธงเป็นธงดี ข้ายังไม่ได้ขอบคุณเจ้าแห่งมารที่ใจกว้างเลย” มุมปากสีแดงเข้มใต้ขอบหมวกของคนชุดดำ กระดกขึ้นเล็กน้อย แต่นํ้าเสียงกลับสงบนิ่งอย่างยิ่ง

ซือมั่วยิ้มบางๆ ส่วนลึกในดวงตาสีอำพัน เต็มไปด้วยความเย็นชาและเหยียดหยาม

“ครั้งก่อนข้าทำลายร่างแยกหนึ่งร่างของเจ้าได้ ครั้งนี้ก็ทำได้เหมือนกัน” มู่ชิงเกอกล่าวนํ้าเสียงเย็นเยียบ

ตอนนี้ในขบวนเผ่ามาร ดวงตาหลิงจิวเป็นประกาย ชี้คนชุดดำตะโกนกล่าว “ที่แท้แล้วเจ้าก็คือคนชั่วเผ่าอี้ผู้นั้นที่แฝงตัวเข้ามาในแดนมารวันนั้น คิดจะลอบสังหารองค์ราชาของเผ่าข้า เจ้ากล้านัก! วันนั้นเจ้าใช้ร่างแยกหลบหนีไปอย่างจนตรอก วันนี้กลับยังกล้ามาปรากฎตัวอยู่ที่นี่อีกหรือ ช่างไม่รู้จักตายเสียจริง”

คำพูดของหลิงจิวดังออกไป คนทั้งหมดบนเก้าชั้นฟ้าก็เข้าใจในชั่วพริบตาว่าคนของเผ่าอี้ผู้นี้แท้จริงแล้วมีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับมู่ชิงเกอและซือมั่ว

แต่ว่า ประโยคนี้ก็เตือนสติราชาเทวะทั้งหมดด้วยเช่นเดียวกัน

ยอดฝีมือของเผ่าอี้ คาดไม่ถึงว่าต้องการฆ่าเจ้าแห่งมารของแดนมาร

เหตุใดพวกเขาต้องทำเช่นนี้

ลอบสังหารเจ้าแห่งมาร สำหรับพวกเขาแล้ว มีประโยชน์อันใด

“มีประโยชน์ เมื่อเจ้าแห่งมารตาย พวกเขาก็จะไม่พะว้าพะวงกับแดนมารอีก” ดวงตาทั้งคู่ของราชาเทวะจงซานหดลงอย่างรวดเร็ว กล่าวเสียงต่ำ

“เช่นนั้นก็เป็นเรื่องของแดนมารสิ” ราชาเทวะเฝินไห่กล่าวอย่างไม่เข้าใจ

ราชาเทวะซุยชิงขมวดคิ้ว กล่าวเสียงตํ่า “เจ้ายังไม่เข้าใจอีกได้อย่างไร เดิมแผ่นดินเทพมารเป็นปึกแผ่นเดียวกัน หากแดนมารถูกข้าศึกยึด แผ่นดินเทพสี่สมุทรจะยังสงบสุขได้อยู่อีกหรือ”

“แต่ว่าระหว่างพวกเรามิใช่มีสิ่งกั้นขวางอยู่หรือ” ราชาเทวะเฝินไห่ยังคิดตามไม่ทัน

ตอนนี้ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยจึงเอ่ยปาก “เผ่าอี้บุกเข้ามาได้แม้กระทั่งสิ่งกั้นขวางมิติ สิ่งกั้นขวางที่กั้นเทพมารสองเผ่าเล็กๆ นี้ จะขัดขวางพวกเขาได้อย่างไร ในเมื่อพวกเขาอยากลงมือกับเจ้าแห่งมารก็ชัดเจนแล้วว่า แผนการของพวกเขาไม่ใช่แค่แดนมารเพียงแดนเดียว”

ราชาเฟิ่งฟังอยู่ข้างๆ มานาน ในที่สุดก็อดไม่ได้เอ่ยปากเช่นกัน “ในเมื่อเผ่าอี้เห็นเทพมารสองเผ่าเป็นอาหาร เช่นนั้นแผ่นดินเทพมารในสายตาพวกเขาก็เป็นเพียงสถานที่เลี้ยงสัตว์หากแผ่นดินเทพมารถูกยึด เผ่าอสูรของข้าก็จะตกเป็นทาส ถูกพวกตัวประหลาดเผ่าอี้เหล่านี้บีบบังคับเช่นกัน ไม่อาจปล่อยให้เป็นเช่นนี้ได้เด็ด ขาด จักต้องหยุดยั้งแผนชั่วเผ่าอี้”

“ราชาเทวะมู่เคยพูดกับข้าหนึ่งคำ…” ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยกล่าวช้าๆ “นางบอกว่า เมื่อรังพลิกควํ่าก็ยากจะมีไข่ที่สมบูรณ์”

เมื่อรังพลิกควํ่าก็ยากจะมีไข่ที่สมบูรณ์

คำพูดนี้ ยังคงเหมือนระฆังเคาะกังวานอยู่ในใจทุกคน

แทบในชั่วพริบตา ในแววตาที่มองคนเผ่าอี้ผู้นั้นของพวกเขาล้วนเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร

“รายงาน!”

ตอนที่บรรยากาศตึงเครียด จู่ๆ ก็มีคนมารายงาน

เขาเข้ามาอย่างเร่งรีบ คุกเข่าข้างเดียวอยู่หน้ามู่ชิงเกอทันที กล่าวเสียงดัง “รายงานราชาเทวะ ข้างหน้าพบว่ามีร่องรอยของกองทัพกลุ่มใหญ่มุ่งหน้ามาใกล้เก้าชั้นฟ้าด้วยความรวดเร็วขอรับ’’

อะไรนะ มีกองทัพใหญ่บุกรุก

เผ่าอี้

กองทัพใหญ่ของเผ่าอี้ คาดไม่ถึงว่าแฝงตัวเข้ามาในท้องแผ่นดินเทพสี่สมุทรได้ซํ้ายังไม่มีผู้ใดรู้ตัว

ครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ใดเตือน คนบนเก้าชั้นฟ้าต่างก็มองคนชุดดำที่ยืนอยู่บนแท่นบูชาด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติด้วยสายตาเคร่งขรึมเด็ดขาด

ซวีซิวหน้าเปลี่ยนสี เขยิบเข้าไปใกล้มู่ชิงเกออย่างรวดเร็ว กล่าวเสียงต่ำ “ราชาเทวะ ด้านล่างเก้าชั้นฟ้ายังมีแขกที่มาแสดงความยินดีจำนวนมาก รวมถึงประชาชน ในเมืองใกล้เคียงเหล่านั้นด้วย”

สายตามู่ชิงเกอเย็นยะเยือก ออกคำสั่งทันที “ส่งกองทัพลงไปสนับสนุน ต้องขัดขวางไม่ให้เผ่าอี้เหล่านั้นเข้ามาใกล้เก้าชั้นฟ้า”

“ขอรับ!” ซวีซิวรับคำสั่งถอยออกไป

ซือมั่วเองก็เรียกกู่หยากู่เย่เข้ามา ให้พวกเขานำองครักษ์มารตามกองทัพของเก้าชั้นฟ้าไป ร่วมป้องกันการซุ่มโจมตีของเผ่าอี้

กองทัพของเก้าชั้นฟ้า เพิ่งจะรับสมัครได้ไม่นาน กำลังสู้รบยังไม่ประจักษ์อย่างสมบูรณ์มีองครักษ์มารช่วยเหลือ สามารถลดความกดดันไปได้ไม่น้อย

องครักษ์เขี้ยวมังกร องครักษ์ปีกมังกร พวกเขาไม่มีประสบการณ์รับมือกับเผ่าอี้ไปเยอะก็ไม่มีประโยชน์

“ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย ราชาเทวะเซียนเหนี่ยว ราชาเทวะสือฟาง ราชาเทวะเฝินไห่ ข้างหน้ามีกองทัพใหญ่เผ่าอี้มาบุกรุก ขอทุกท่านโปรดร่วมศึกบัญชาการ” มู่ชิงเกอเอ่ยปากกล่าวอีกครั้ง

ราชาเทวะหลายคนที่ถูกสั่งให้รับหน้าที่ในสถานการณ์เร่งด่วน ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย หายตัวจากเก้าชั้นฟ้าไปทันที

และเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ คนเผ่าอี้ที่ยืนอยู่บนแท่นบูชาผู้นั้นก็มองดูอยู่อย่างสงบนิ่งคล้ายไม่ได้สนใจผลลัพธ์ศึกใหญ่ที่กำลังเริ่มขึ้นข้างล่างเก้าชั้นฟ้านั้นอย่าง

สิ้นเชิง

“ดูท่าแล้ว ครั้งนี้เจ้าจะเตรียมการมา” มู่ชิงเกอกล่าวถามเสียงเย็นชา

คนเผ่าอี้ผู้นั้น กล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน “ความสามารถในการจัดวางกองทัพกลุ่มนี้ของราชาเทวะมู่ก็ ทำให้ข้าต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่ ทำอย่างไรดี นับวันข้าก็ ยิ่งชื่นชมเจ้า”

ขณะที่พูด ใต้ขอบหมวกของเขาก็ขยับเล็กน้อย คล้ายมองซือมั่วแล้วกล่าว “เจ้าแห่งมาร ครั้งก่อนข้าแย่งธงวิญญาณมารของเจ้าไป ครั้งนี้ แย่งภรรยาที่ยังไม่ออก เรือนของเจ้าดีหรือไม่”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!