Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 208

บทที่ 208

ข้าไม่ร้อน! ไม่ต้องถอด

เธอร่ายรายการสิ่งของหลายชนิดออกมาอย่างต่อเนื่อง ตี้ฝูอีฟังอยู่ครู่หนึ่งก็เพ่งพิศเธออีกหลายครา “นี่เจ้าจะหมักหรือจะตุ๋นตัวเอง?”

กู้ซีจิ่วหลับตาลง “ถ้าต้องการขจัดของบนหน้าข้าก็มีแต่ต้องใช้สิ่งนี้ ห่านจะไม่เชื่อก็ได้!”

“ข้าเชื่อ” ตีฝูอีหัวเราะเบาๆ “เพียงแต่บนร่างเจ้าคืออะไร?”

เขาเหลือบมองร่างอ้วนกลมของเธอแวบหนึ่ง “เจ้าสวมเสื้อผ้าซ้อนกันหลายชั้นไว้ด้านในหรือ? ห่อเสียหนาถึงเพียงนี้ ไม่กลัวผื่นขึ้นรึ? ให้ข้าช่วยเจ้าถอดออกไหม? เดี๋ยวก็ร้อนจนชักหรอก…”

กู้ซีจิ่วปฏิเสธ “…ข้าไม่ร้อน! ไม่ต้องถอด”

เพื่อความสมจริง เธอเลยแปะอุปกรณ์แปลงโฉมไว้บนร่าง มันเหมือนกับผิวหนังจริงๆ ลูบแล้วเหมือนผิวอุดมไปด้วยไขมัน

วิธีขจัด ‘เนื้อติดมัน’ บนร่างพวกนี้ยุ่งยากยิ่งกว่า เธอจะต้องอาบแช่วัตถุดิบพิเศษบางอย่าง

ตอนนี้เธออยู่ในรถม้าของตี้ฝูอี ถึงแม้ตัวรถจะใหญ่โต สามารถรองรับถังอาบน้ำได้ แต่เธอก็ไม่อยากเปลือยกายแช่ต่อหน้าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้!

ตี้ฝูอีสั่งการคนให้ไปจัดซื้อวัตถุดิบทั้งหมดตามที่กู้ซีจิ่วบอก พลางหันมาถามเธอให้แน่ใจ “ไม่ร้อนจริงๆ หรือ?”

“จริง ข้าเย็นสบายยิ่งนัก ท่านมองหน้าข้าสิ เหงื่อสักหยดก็ไม่มี” กู้ซีจิ่วได้แต่กล่าวเช่นนี้

ตี้ฝูอีก็ว่าง่าย “เอาเถอะ แล้วแต่เจ้า”

กู้ซีจิ่วลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูเหมือนทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายโรคจิตผู้นี้จะไม่จุกจิกนัก

“ท่านจะพาข้าไปไหน?” ถึงแม้รถคันนี้จะมีหน้าต่าง แต่เธอเอนหลังพิงอยู่ตรงนั้น มองเห็นเพียงก้อนเมฆขาวติดกันเป็นพรืดลอยผ่านนอกหน้าต่างเป็นครั้งคราว ชัดเจนมากว่ารถม้าคันนี้ขับเคลื่อนอยู่ บนฟ้า…

“แท่นเบิกสวรรค์’’ ตี้ฝูอีกล่าวออกมาสี่คำ

กู้ซีจิ่วตัวแข็งทื่อ “ท่านบอกว่าจะให้เวลาข้าสามวัน!”

“อ้อ นั่นอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่เจ้าไม่หนี แต่ในความเป็นจริงเจ้าไม่เพียงแต่หนีเท่านั้น ยังวางยาพิษข้าอีก” นํ้าเสียงตี้ฝูอีเยียบเย็น

“ข้า…วางยาพิษไม่สำเร็จสักหน่อย ท่านก็ไม่เป็นอะไรเลยสักนิด ท่านเป็นทูตสวรรค์เหตุใดต้องคิดเล็กคิดน้อยกับข้าที่เป็นแค่เด็กคนหนึ่งด้วยล่ะ?”

“ไม่ใช่ เจ้าทำสำเร็จ” นํ้าเสียงตี้ฝูอีเนิบนาบ “ข้าถูกพิษของเจ้าจริงๆ ส่วนจะเป็นอะไรหรือไม่ คงต้องรอให้เจ้าแต่งงานกับข้าแล้วถึงจะทราบได้”

เธอหายใจเข้าลึกๆ “ท่านเจ้าวัง ข้ารู้สึกว่าพวกเราควรพูดคุยกันดีๆ นะ”

ตี้ฝูอีมองเธอ “เจ้าวังไม่ใช่ว่าใครก็เรียกได้ตามอำเภอใจ หนึ่งคือบริวารของข้า สองคือสหายของข้า สามคือคนร่วมเรียงเคียงหมอน กับข้า เจ้าเป็นประเภทไหนกันล่ะ?”

กู้ซีจิ่วนิ่งงัน ในเมื่อเธอไม่ใช่บริวารของเขา ไม่ใช่เพื่อนของเขา และยิ่งไม่ใช่คนเคียงหมอนของเขาด้วย…

“เช่นนั้น…ท่านทูตสวรรค์…”

“อานาจักรเรามีทูตสวรรค์สองคน เจ้าเรียกขานเช่นนี้ ข้าจะรู้ได้ยังไงว่าเจ้าเรียกผู้ใด?”

กู้ซีจิ่วไม่อยากจะโต้เถียงเรีองหยุมหยิมพวกนี้ “เอาละ ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ข้า…”

“คนทั่วไปต่างเรียกข้าเช่นนี้ เจ้าเป็นแบบเดียวกับพวกเขาหรือ?” กู้ซีจิ่วหมดคำบรรยาย นี่ยังจะคุยกันดีๆ ได้อยู่ไหม?!

“เช่นนั้นซีจิ่วควรเรียกขานท่านว่าอย่างไร?”

ตี้ฝูอีเหยียดขา “เด็กน้อย คำถามข้อนี้เจ้าควรคิดเอาเอง”

กู้ซีจิ่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ใช่แล้ว เหตุใดท่านถึงเรียกข้าว่า ‘เด็กน้อย’ ล่ะ?”

เขาเรียกเธอแบบนี้หลายครั้งแล้ว ยามนั้นเธอรีบร้อนหลบหนี เร่งรับมือกับเขา ดังนั้นจึงไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้เลยอดถามไม่ได้

ตี้ฝูอีเพ่งพิศเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครู่หนึ่ง แล้วค่อยตอบ “ยามข้าออกท่องเที่ยวครานั้น ตอนที่เห็นเจ้าครั้งแรก ตอนนั้นเจ้าตัวโตขนาดนี้เอง”เขายกมือขึ้นมาวัดขนาดให้ดู “ยามนั้นข้าจึงเรียกเจ้าว่าเด็กน้อย”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!