บทที่ 355
เธอไม่รับการชดเชยจากเขาได้ไหม?!
“เช่นนั้นก็ไม่เด็กแล้ว” จักรพรรดิซวนเริ่มเข้าประเด็นแล้วจริงๆ “ซีจิ่ว เราอยากได้เจ้าเป็นสะใภ้มานานแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงหมั้นหมายจับจองเจ้าไว้แต่เนิ่นๆ จนใจที่เจ้าเดรัจฉานน้อยหรงเหยียนก่อเรื่องงามหน้าเช่นนั้นขึ้น ช่างไม่คู่ควรกับเจ้าจริงๆ เราจึงยกเลิกสัญญาหมั้นระหว่างเจ้าทั้งสอง เพื่อมิให้ถ่วงรั้งอนาคตเจ้า เพียงแต่ใจเรารู้สึกผิดเพราะเรื่องนี้ยิ่งนักมาตลอด เพื่อเป็นการชดเชยให้เจ้า เราจะต้องมอบการสมรสอันดีงามให้แก่เจ้าให้ได้ อีกทั้งจะให้เจ้าเป็นสะใภ้เราเหมือนเดิม หรงฉู่…”
มาแล้วจริงๆ ด้วย! เธอไม่รับการชดเชยจากเขาได้ไหม?!
เธอเพิ่งจะใช้เล่ห์กลหลีกหนีจากเศษเดนชั้นกลางมาได้ องค์จักรพรรดิก็คิดจะประทานเศษเดนชั้นสูงให้เธออีกแล้ว?
“พระเมตตาของฝ่าบาทหม่อมฉันซาบซึ้งอย่างหาที่สิ้นสุดมิได้ แต่หม่อมฉันด้อยวาสนา เกรงว่าจะรับพระเมตตาของฝ่าบาทเอาไว้ไม่ได้ พรุ่งนี้หม่อมฉันก็ต้องเข้าสู่ป่าทมิฬแล้ว มีความเป็นไปได้เก้าในสิบส่วนว่าจะรอดชีวิตกลับมาไม่ได้ หากหมั้นหมายกันจริง เกรงว่าจะทำให้องค์ชายผู้สูงศักดิ์เสียพระเกียรติ ออกจะไม่งาม…” กู้ซีจิ่วเริ่มประดิดประดอยถ้อยคำเพื่อบ่ายเบี่ยง
“จิวเอ๋อร์ ก็เป็นเพราะเจ้าต้องเข้าสู่ป่าทมิฬ เราถึงร้อนใจอยากหมั้นหมายเจ้า ประการแรกคือใช้เรื่องมงคลนี้แก้เคล็ด ประการที่สอง เพื่อให้เจ้ามั่นใจมากขึ้น มีอัตรารอดออกมามากอีกหน่อย เมื่อในใจมีคนให้คอยพะวงหาถึงจะระเบิดศักยภาพสูงสุดได้…” จักรพรรดิซวนเริ่มพูดจาหลอกล่ออย่างฉาดฉาน
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออกเลย
นี้เป็นมาตรฐานของยุคโบราณหรือ? ขนาดจักรพรรดิยังรู้เรื่องศักยภาพ…
ความจริงแล้วยุคนี้ประหลาดยิ่งนัก ไม่มีเรื่องราวจารึกในหนังสือประวัติศาสตร์ของยุคปัจจุบัน แต่คนยุคนี้กลับรู้จักถ้อยคำบางอย่างของคนสมัยใหม่ ดูเหมือนคนสมัยโบราณช่วงก่อนยุคถังพวกเขาก็รู้จักเช่นกัน…
แต่ประวัติศาสตร์ยุคหลังราชวงศ์ถังเหมือนจะพลิกโฉมไป จนเกิดเป็นยุคนี้ที่มีกลิ่นอายความเหนือธรรมชาติสูงมาก สิ่งของมากมายไม่อาจใช้ความรู้ในยุคปัจจุบันมาวิเคราะห์ได้…
“ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันก็รักชีวิตมากเช่นกัน ไม่คิดจะสูญเสียมันไปง่ายๆ ต่อให้ไม่มีการหมั้นหมายนี้ หม่อมฉันก็จะทุ่มเทสุดกำลัง เพื่อรอดออกมา…” กู้ซีจิ่วพยายามล้มเลิกความคิดของจักรพรรดิซวนอย่างสุดกำลัง
สีหน้าจักรพรรดิซวนถมึงทึงเลิกน้อย “จิ่วเอ๋อร์”‘เจ้าคิดจะต่อต้านรึ?” นํ้าเสียงเย็นเยียบลง
เมื่อโอรสสวรรค์พิโรธ ไม่รู้จะมีคนมากมายเพียงใดที่ต้องรับเคราะห์ ภายในห้องโถงเงียบสนิท เงียบถึงขั้นที่ว่าถ้ามีเข็มสักเล่มหล่นลงพื้นก็ได้ยินกันทั่ว
ขัดบัญชามีโทษถึงตาย อาจจะนำไปสู่การประหารล้างโคตรด้วย!
กู้เซี่ยเทียนจึงอดไม่ได้ “ฝ่าบาทอย่าพิโรธไปเลยพะย่ะค่ะ ลูกจิ่วมิได้จะต่อต้าน เด็กคนนี้ก็แค่…ก็แค่เกรงว่าถ้ากลับมาจากป่าทมิฬไม่ได้ องค์ชายที่หมั้นหมายกับนางจะเดือดร้อน…จิ่วเอ๋อร์ ฝ่าบาททรงมี
พระเมตตา เจ้าไม่ต้องคิดอะไรให้มากมายอีก รีบขอบพระทัยในพระเมตตาของฝ่าบาทซะ!”
กู้ซีจิ่วพลันขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอรำคาญระบบการปกครองแบบโอรสสวรรค์ยิ่งใหญ่เทียมฟ้ามาก คำพูดที่จักรพรรดิกล่าวคือประกาศิต ไม่ว่าจะถูกหรือผิดราษฎรล้วนต้องปฏิบัติตามด้วยความซาบซึ้งติ้นตัน…
แต่เธอก็รู้ว่าด้วยความสามารถในปัจจุบันของตน คงเปลี่ยนแปลงระบบนี้ไม่ได้
ตอนนี้ถ้าเธอต่อต้านจริงๆ จักรพรรดิซวนก็ประหารเธอไม่ได้ แต่ญาติสนิทมิตรสหายของเธอจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย…
‘ซีจิ่ว ทำตามแผนของพวกเราสิ!’ องค์รัชทายาทหรงเจียหลัวส่งกระแสเสียงเข้ามาในหูเธอ
กู้ซีจิ่วตัดสินใจค้อมกายลง “ซีจิ่วขอขอบพระทัยในพระเมตตาของฝ่าบาทเพคะ! ซีจิ่วยินดีจะเชื่อฟังรับสั่งของพระองค์’’
เมื่อเธอเอ่ยประโยคนี้ออกมา แทบจะทุกคนล้วนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
สีหน้าจักรพรรดิซวนก็อ่อนโยนลง “จิ่วเอ๋อร์ เราทราบอยู่แล้วว่าเจ้าเป็นเด็กรู้ความคนหนึ่ง เช่นนั้น…”
ขณะที่เขากำลังจะกล่าวบางอย่าง ขันทีที่อยู่ด้านนอกก็วิ่งพรวดพราดเข้ามากราบทูล “ทูลฝ่าบาท ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายพร้อมด้วยสตรีศักดิ์สิทธิ์อวิ๋นซิงหลัวมาเยือนพะย่ะค่ะ!”
กู้ซีจิ่วใจเต้นแวบหนึ่ง!
จักรพรรดิซวนพลันลุกขึ้นมาพลางเอ่ย “รีบเชิญเร็ว! ขุนนางทั้งหลายจงตามเราไปต้อนรับ!”