บทที่ 408
ลากขวดนํ้ามันใบใหญ่ 3
สัตว์ร้ายที่อยู่ไกลออกไปค่อยๆ เบียดขึ้นมาด้านหน้า สัตว์ร้ายที่อยู่ ใกล้ๆ หดถอย ในไม่ช้า สัตว์ร้ายเหล่านี้ก็มารวมตัวด้วยกัน แต่ละหัวเบียดเสียด ล้วนยืดคออ้าปากกว้างชมดูอย่างอย่างคึกคัก
การต่อสู้ของกู้ซีจิ่วมีลีลายิ่งนัก ครานี้เห็นได้ชัดว่าเธอดูเหมือนจะมิใช่คู่ต่อสู้ของตะขาบพิฆาต ปัดซ้ายป่ายขวาอย่างจนมุม มีหลายครั้งที่เกือบจะถูกธารน้ำตกพิษพ่นใส่ ทว่าหลบเลี่ยงไปได้อย่างหวุดหวิดทุกครั้ง เธอดูจะล้มลงไปกองกับพื้นได้ทุกเมื่อ ทำให้คนรู้สึกลุ้นแทนนาง
ตะขาบพิฆาตอีกตัวที่ตอนแรกยังจ้องเธออย่างพร้อมจะเข้าตะครุบทุกเมื่อ คอยระวังไม่ให้เธอหนีและคอยระวังไม่ให้สังหารตน ภายหลังพอเห็นว่าเธอสิ้นเรียวแรงลงเรื่อยๆ มิใช่คู่ต่อสู้ของคู่ตนแล้วก็วางใจ บางครั้งจึงวอกแวก ศีรษะใหญ่โตหันซ้ายหันขวามองความเคลื่อนไหวในบริเวณอื่น ถึงขั้นอ้าปากหาวด้วยซ้ำ
ตอนนี้แหละ!
กระบี่กู้ซีจิ่วต้านธารพิษของตะขาบพิฆาตให้ล่าถอยไป ก็จรดนิ้วเตรียมใช้วิชาเคลื่อนย้าย
จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงซือเฉินร้องดังลั่น “ช่วยด้วย!”
เสียงร้องนั้นสะเทือนหูจนน่าตะลึง อากาศรอบตัวลั่นสะเทือน
นึกแล้วเชียว เป็นอย่างที่กู้ซีจิ่วสังหรณ์ใจไว้ ปลายนิ้วพลันสั่นไหว กระบี่ลํ้าค่าในมือพุ่งออกไปทันที!
เป็นดั่งที่คาดไว้ กู้ซีจิ่วใจหายวูบทันที ปลายนิ้วพลันสั่นสะท้าน กระบี่ล่ำค่าในมือจึงพุ่งออกไปทันที!
ประจวบกับตะขาบพิฆาตตัวนั้นอ้าปากขึ้นมาพอดี กระบี่ล่ำค่าที่ห่อหุ้มด้วยปราณกระบี่เล่มนั้นจึงพุ่งทะลวงเข้าไปในปากกว้างของมัน…
ตะขาบพิฆาตกรีดร้องโหยหวน ร่างกายมหึมาดีดทะยานอยู่กลางอากาศแล้วร่วงลงบนพื้น กระแทกจนฝุ่นฟุ้งตลบ ร่างกายที่เกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นชักกระตุกสองสามที แล้วแน่นิ่งไป
กู้ซีจิ่วตะลึงงัน
ฝูงสัตว์ร้ายก็ตะลึงเช่นกัน
หากหยกนภามีดวงตามันคงจะขยี้ตาไปแล้ว!
ตะขาบพิฆาตตัวนี้ถูกสังหารตายเช่นนี้รึ?! เป็นไปได้ยังไง! ร่างกายมันไม่มีจุดอ่อนชัดๆ!
ขนาดคนที่มีพลังวิญญาณขั้นหกก็โดนมันเขมือบมาแล้ว แล้วจะมาตายด้วยนํ้ามือของสาวน้อยคนหนึ่งที่มีพลังวิญญาณเพียงขั้นสี่ได้อย่างไร? นี่มันเกิดปาฏิหาริย์อะไรขึ้น?
กู้ซีจิ่วก็มึนงงไปแล้ว เธอก็นึกไม่ถึงเช่นกันว่ากระบี่ของตนจะทรงอานุภาพปานนี้
เมื่อมองจากอานุภาพของกระบี่แล้ว คาดว่าน่าจะแทงถูกส่วนกระดูกอ่อนตรงซี่โครงของมันเข้า แต่ในตอนแรกเธอก็เคยโจมตีเข้าไปในปากมันเช่นกัน แข็งปานหล่อด้วยเหล็ก แทงไม่เข้าเลย แต่หนนี้กระบี่ลํ้าค่ากลับพุ่งออกประหนึ่งเฉือนก้อนเต้าหู้..
แน่นอนว่าเธอเหม่อไปเพียงครู่เดียว ก็รีบเงยหน้ามองซือเฉินทันที อยากดูว่าเจ้าคนผู้นี้แหกปากร้องขึ้นมาในยามหน้าสิ่วหน้าขวานทำซากอะไร
เมื่อได้เห็น เส้นเลือดบนหน้าผากของเธอก็ปูดโปนขึ้นมาทันที!
ซือเฉินยืนอยู่บนหินเขียวขนาดใหญ่ก้อนหนึ่ง มีซากงูลวดลายฉูดฉาดนอนเหยียดยาวอยู่ใต้ก้อนหินนั้น…
เห็นได้ชัดเจนยิ่งนักว่าเมื่อครู่งูตัวนี้คงลอบลู่โจมเขา หลังจากเขาตะโกนด้วยความตกใจก็สังหารงูตัวนั้นจนตาย…
หากว่าเมื่อครู่กู้ซีจิ่วใช้วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาสำเร็จและเคลื่อนออกไปไกลแปดลี้ ก็จะหลบหนีออกจากวงล้อมของสัตว์ร้ายเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์! ทว่ายามนี้ลัมเหลวแล้ว!
เมื่อตะขาบพิฆาตตัวหนึ่งถูกเธอแทงตายโดยบังเอิญ อีกตัวที่เหลือจึงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็คุ้มคลั่งอย่างสมบูรณ์!
มันกรีดร้องโหยหวน โถมเข้าใส่กู้ซีจิ่วทันที
สัตว์ร้ายตัวอื่นก็คล้ายว่าจะได้รับคำสั่งบางอย่าง รีบกระจายตัวออกไปทั่วสารทิศ ต่างเข้าประจำตำแหน่งของตน โอบล้อมกู้ซีจิ่วไว้อีกครั้ง ต่อให้เธออยากเคลื่อนย้ายก็เคลื่อนย้ายออกไปไม่ได้แล้ว!
ยามนี้ถึงแม้กู้ซีจิ่วจะเหน็ดเหนื่อยจนสายตัวแทบขาด แต่ก็ทำได้เพียงเลือกจะต่อสู้อย่างสุดชีวิตอีกครั้ง…
ฉากรบที่สะท้านฟ้าสะเทือนดินเกิดขึ้นอีกครา
เมื่อครู่ยามตะขาบพิฆาตตัวนั้นต่อสู้กับกู้ซีจิ่ว ในใจยังพะว้าพะวงอยู่บ้าง ด้วยไม่อยากให้เธอโดนพิษจนละลายหายไป แต่อยากสังหารอีกฝ่ายให้ตายแล้วเขมือบซะ
ทว่ายามนี้ตะขาบพิฆาตกลับคิดแต่จะล้างแค้นเท่านั้น ท่าไม้ตายต่างๆ โผล่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งพ่นธารพิษ พ่นไอพิษ ฟาดหาง ตวัดด้วยกรงเล็บ และแว้งกัด…