Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 544

บทที่ 544

ลอบโจมตี 6

เห็นได้ชัดว่าเขาเคยปฏิบัติเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง ถึงแม้จะตัวคนเดียวก็สามารถคุ้มกันกู้ซีจิ่วโดยไร้ช่องโหว่ได้

กู้ซีจิ่วพลิกคนชุดขาวไปมาศึกษาดูอยู่พักหนึ่ง ทูตเฉิงเอ้อมองด้วยใบหน้าเชียวคล้ำ!

คนชุดขาวตนนี้ถึงแม้จะมิใช่มนุษย์แต่รูปลักษณ์ของมันคล้ายบุรุษ แม่นางกู้พลิกไปพลิกมาเพื่อดูเช่นนี้ จะกล้าแกร่งมากไปหน่อยหรือเปล่า? ถ้าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เห็นจะเกิดอะไรขึ้น?

“แม่นางกู้ ศึกษาพบอะไรบ้างหรือไม่?” เขาถามอย่างอดไม่ได้ อยากฟันเจ้าสิ่งนั้นให้ขาดกระจุยยิ่งนัก…

โชคดีที่กู้ซีจิ่วศึกษาสิ่งต่างๆ ได้รวดเร็วมาก เธอกล่าวข้อสรุปออกมา “นี้คือสำนึกภูตพรายไม่เกรงกลัววารี แต่เกรงกลัวเพลิงแผดเผา ท่านเป็นวรยุทธ์ธาตุไฟหรือไม่?”

ทูตเฉิงเอ้อนิ่งไปเล็กน้อย “พลังวิญญาณธาตุไฟของข้าไม่สูงนัก ใช้ได้เพียงวิชาควบคุมไฟ”

ธาตุหลักของเขาคือพลังวิญญาณธาตุนํ้า เนื่องจากนํ้าและไฟขัดกัน ด้วยเหตุนี้เขาเลยมิได้ฝึกฝนธาตุรองของตนเท่าไหร่ ยามนี้ก็เพิ่งบรรลุถึงขั้นสี่เท่านั้น วิชาธาตุไฟก็ใช้ได้แค่วิชาควบคุมไฟ เมื่อเทียบกับวิชาธาตุน้ำของเขาแล้ว ดูไม่ได้เลยจริงๆ

“เช่นนั้นท่านลองใช้วิชาควบคุมไฟออกมาก่อน ใช้พลังทั้งหมดเลยนะ” กู้ซีจิ่วที่อยู่ด้านข้างจรดนิ้วเตรียมร่ายวิชา

ทูตเฉิงเอ้อมีท่าทีเก้อกระดากอย่างที่พบเห็นได้ยาก “พลังวิญญาณธาตุไฟของข้าอ่อนหัดมากจริงๆ” เขาไม่อยากขายหน้าต่อหน้ากู้ซีจิ่ว

“อ่อนหัดก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย ท่านลองสำแดงออกมาก่อนเถิด”

เอาก็เอา!

ทูตเฉิงเอ้อตัดสินใจโดยพลัน ในที่สุดก็สำแดงวิชาควบคุมไฟออกมา เปลวเพลิงสูงสามฉื่อสายหนึ่งถูกเขาเร่งเร่าออกมา

ดวงตากู้ซีจิ่วส่องประกายแวบหนึ่ง ก็ไม่เลวนี่นา!

เธอรีบร่ายคาถาลมสลาตันทันที สายลมนี้พัดไปยังเปลวเพลิงนั้น ทำให้เพลิงขยายใหญ่กว่าเดิมสามเท่าในชั่วพริบตา กลายเป็นกำแพงเพลิง เข้ากดดันคนชุดขาวที่อยู่ด้านหน้า

คนชุดขาวเหล่านั้นหวาดกลัวไฟจริงๆ โดยเฉาะไฟที่ใช้พลังวิญญาณเร่งเร้าออกมาเช่นนี้ เมื่อกำแพงเพลิงไปถึง ก็เผาผลาญได้เจ็ดถึงแปดตนในทันใด…

ไฟที่เกิดจากพลังวิญญาณมิใช่ไฟธรรมดา ว่ากันตามเหตุผลคือ ไม่ต้องหวั่นว่าน้ำธรรมดาจะดับได้ ย่อมไม่น่าจะหวั่นเกรงสายฝนด้วย

แต่ฝนที่ตกที่นี่ไม่เพียงแต่แฝงไอหยินเข้มข้นเท่านั้น ยังสามารถดับเพลิงวิญญาณได้ด้วย กำแพงเพลิงเผาคนชุดขาวไปได้สิบกว่าตน ก็ถูกสายฝนดับวอดแล้ว

ทูตเฉิงเอ้อส่ายหน้า “สายฝนนี้แฝงไอชั่วร้าย วิชาควบคุมไฟของข้าต่ำต้อยเกินไป ไฟที่ออกมาไม่บริสุทธิ์ ไม่สามารถกั้นสายฝนได้”

กู้ซีจิ่วตัดสินใจทันที “เป็นเช่นนี้ต่อไปต้องไม่จบไม่สิ้นแน่ ท่านอยู่ที่นี่คอยต้านเอาไว้ ข้าจะไปจับผู้บงการ!” พลางหมุนกายเตรียมเคลื่อนย้าย

ทูตเฉิงเอ้อร้อนใจจนไม่ใส่ใจข้อแตกต่างระหว่างชายหญิง ดึงแขนเสื้อนางไว้ “ไม่ได้! ท่านรับมือผู้บงการคนนั้นไม่ได้หรอก!”

แม่นางน้อยผู้นี้พลังวิญญาณเพิ่งบรรลุถึงขั้นห้า ตัวตนเปราะบางยิ่งนักเมื่ออยู่ที่นี่ ถ้าออกห่างจากสายตาเขา ไม่แน่อาจถูกมือมืดที่บงการอยู่เบื้องหลังเล่นงานเอาได้!

เขาได้รับคำสั่งให้คุ้มกันแม่นางน้อยผู้นี้ ดังนั้นจะปล่อยให้นางเกิดเหตุเหนือความคาดหมายไม่ได้เด็ดขาด!

พลังของทูตเฉิงเอ้อกล้าแกร่ง วรยุทธ์ก็เลิศลํ้า กู้ซีจิ่วดิ้นจากเขาไม่หลุดไปชั่วขณะ “แต่ถ้าสู้กับพวกมันเช่นนี้อยู่เรื่อยๆ ก็ไม่ได้การ…”

“ถ่วงเวลาไว้เถิด รอจนท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ซ่อมแซมดวงวิญญาณหูชิงชิงเสร็จ เขากับทูตทั้งสามจะตามมาสมทบ” ทูตเฉิงเอ้อเกลี่ยกล่อมนาง

เพิ่งกล่าวถึงตรงนี้ ก็มองเห็นว่าไกลออกไปมีคนผู้หนึ่งพุ่งทะยานดั่งดาวหาง มุ่งหน้ามาทางด้านนี้อย่างรีบเร่ง คนยังมาไม่ถึง ทว่าลำแสงสีเขียวกลับพุ่งออกมาจากฝ่ามือแล้ว ซัดกวาดใส่คนชุดขาวกลุ่มใหญ่…

กู้ซีจิ่วใจเต้นรัวทันที!

เป็นหลงซือเย่!

และไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด ความฝันก่อนหน้านั้นถึงแวบขึ้นมาในสมอง ทำให้หัวใจเธอราวกับมีเข็มเล่มเล็กๆ ทิ่มแทงอยู่!

“พวกเราไปรวมตัวกับเขาเถอะ!” กู้ซีจิ่วเอ่ย “วิชาธาตุไฟของเขายอดเยี่ยมมาก!”

ทูตเฉิงเอ้อพูดไม่ออก…

………………..

คนทั้งสามรวมตัวกันว่องไวยิ่ง สายตาหลงซือเย่กวาดมองร่างกู้ซีจิ่วอย่างรวดเร็ว ประโยคแรกที่กล่าวก็คือ “เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!